ย้อนนึกถึง ‘เพื่อนรัก’ ในอดีตที่คุณไม่เคยลืม
กับภาพยนตร์แห่งความทรงจำบนเน็ตฟลิกซ์
ภาพแห่งอดีตไม่เคยจากไปไหน ดูซ้ำอีกได้บนเน็ตฟลิกซ์
คุณจำได้ไหมว่าเมื่อ 15 ปีที่แล้ว คุณไปดูหนังกับใคร? เราเชื่อว่าทุกคนต่างมีความทรงจำในใจ และคนพิเศษที่คุณไม่มีวันลืมแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น “เพื่อนเล่น” ในวัยเด็กที่คุณแอบมีความรู้สึกพิเศษให้มากกว่าเพื่อน “เพื่อนสนิท” ที่คุณไม่กล้าบอกความในใจ หรือแม้แต่ “เพื่อนเที่ยว” ที่ได้ใช้เวลาร่วมกันแค่ช่วงเวลาสั้นๆ
แล้วก็ผ่านไป
มาระลึกถึงภาพในอดีต ไปกับภาพยนตร์ไทยน่าประทับใจจากยุค 2000 ที่ทำให้คนไทย “อิน” กันไปตามๆ กัน
เพราะเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ผู้นำด้านการให้บริการความบันเทิงทางอินเทอร์เน็ตระดับโลกได้เอาใจคอภาพยนตร์ไทย (และคนที่แอบรักเพื่อน) ด้วยการนำภาพยนตร์คุณภาพจากค่ายจีดีเอช 559 ตั้ง 26 เรื่องกลับมาโลดแล่น
บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมให้ผู้ชมได้ย้อนรอยความทรงจำกับเรื่องราวสุดประทับใจ
ได้แล้วบนเน็ตฟลิกซ์ แพลตฟอร์มที่สืบต่อชีวิตชีวาของภาพยนตร์ไทยคุณภาพ และรวบรวมภาพยนตร์ดั้งเดิมจาก
“ยุคจีทีเอช” จนมาสู่ยุค “จีดีเอช 559” ในทุกๆ วันนี้ ไว้ครบครันกว่าใคร
เมื่อมองย้อนกลับไปในยุค 2000 ค่ายจีทีเอชได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการภาพยนตร์ไทยด้วยผลงานมากมาย
ที่ยังคงอยู่ในใจของแฟนๆ หนังไทยจวบจนปัจจุบัน โดยภาพยนตร์ที่กล่าวได้ว่าเป็นตำนานแห่ง
โมเดิร์นซีนีม่าของไทย และเป็นต้นกำเนิดของค่ายจีทีเอช คือ แฟนฉัน (พ.ศ. 2546) ที่ทำให้ผู้ชมทุกรุ่นทุกวัย
ได้ย้อนอดีตไปสัมผัสกับ “ความรักครั้งแรก” ผ่านตัวละครรุ่นจิ๋วอย่าง “เจี๊ยบ” และ “น้อยหน่า” เพื่อนซี้ที่โตมาด้วยกัน
และมีความรู้สึกให้กันและกันมากกว่าเพื่อน โดย “แฟนฉัน” ประสบความสำเร็จทั้งด้านกระแสตอบรับและรายได้
อย่างท่วมท้น และกลายเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดในปีนั้น ด้วยมูลค่าถึง 137 ล้านบาท
คุณเอส คมกฤษ ตรีวิมล ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องแฟนฉัน กล่าวถึงเรื่องราวความรักใสๆ ของตัวละครอันเป็นที่รักว่า “ผมเชื่อว่าคนทุกคน ณ วินาทีแรกที่สนใจเพศตรงข้าม เราอาจจะรู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดี แต่เอ๊ะ มันมีอะไรแปลกๆ หรือเปล่า เหมือนเขาไม่ใช่เพื่อน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทัช (ประทับใจ) ทุกคน ไม่ว่าคุณจะเคยฟังเพลงเก่า หรือดูละครเก่าๆ หรือไม่ก็ตาม องค์ประกอบทั้งหมดที่เราทำ นอกจากจะทำให้คนสนุกสนานแล้ว มันทำให้คนเอาตัวเองเข้าไปแทนได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ก็ตาม เพราะความรักเป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่แล้ว”
แฟนฉัน นำเสนอความผูกพันของทั้งสองตัวละครหลักได้อย่างมีเสน่ห์ ผ่านบริบทของชีวิตเด็กไทยยุค 80s
ได้อย่างสมจริงทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพลงประกอบจากวงสาวสาวสาว ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของเมืองไทย และการสะท้อนชีวิตของเด็กยุคนั้น ผ่านการละเล่นต่างๆ เช่น การที่เด็กผู้หญิงเล่นโดดยาง เล่นดาวพระศุกร์
ในขณะที่เด็กผู้ชายจับกลุ่มเล่นเป็นตัวละครจากเรื่องกระบี่ไร้เทียมทาน ที่ได้นักแสดงในเรื่องแต่งคอสเพลย์จากภาพยนตร์จีนสุดฮิตในการถ่ายทำฉากนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงภาพจินตนาการของเด็กจริงๆ และเป็นฉากคลาสสิก
ที่เรียกเสียงฮาได้จากผู้ชมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะดูซ้ำกี่ครั้งก็ตาม
คุณเอสฝากถึงวัยรุ่นที่ยังอาจยังไม่เคยได้ชมภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันว่า “ถ้าน้องๆ ดูเรื่องแฟนฉัน ก็คงจะได้ประสบการณ์ใหม่จากเหตุการณ์เก่าๆ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น การที่เราเล่นเกมกดแล้วมีปุ่มๆ เดียว
ในแง่หนึ่งก็เหมือนเราดูสารคดีย้อนยุคไปด้วยครับ”
“ในที่สุดแล้วผมว่าคนเราก็ต้องมีความรัก คุณจะเห็นเรื่องความรักของคนสองคนที่ได้เจอกัน เป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่เด็ก และรู้สึกดีที่ได้มีกันและกัน ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม คนเราก็ต้องมีความรัก และเจอคนที่ทำให้หัวใจของเราเต้นผิดปกติ เป็นประสบการณ์ที่ดีนะครับ อยากให้ดูครับ” – เอส คมกฤษ ตรีวิมล
จากเรื่องราวของความรักในวัยเด็ก สู่วัยความรักในวัยมหาวิทยาลัยกับภาพยนตร์เรื่อง เพื่อนสนิท (พ.ศ. 2548)
ที่กำลังจะครบรอบ 15 ปีเร็วๆนี้ โปรเจกต์ถัดมาของคุณเอสที่เล่าถึงช่วงวัยแห่งการค้นหาตนเองได้อย่างน่าติดตาม ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยการออกค้นหาตนเองของ “หมู” หรือที่เพื่อนๆเรียกว่า “ไข่ย้อย” ผู้มุ่งหน้าสู่ชีวิตใหม่บนเกาะพะงัน ในขณะเดียวกันที่บ้าน เขาคือหนุ่มเชียงรายขี้อายที่แอบหลงรักเพื่อนสนิทหน้าตาน่ารักที่ชื่อ “ดากานดา” และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปกว่า 15 ปี เนื้อหาและกลิ่นอายจาก เพื่อนสนิท ก็ยังคงสอดแทรกอยู่ในวัฒนธรรมในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนยังแสดงความคิดเห็นตามกระทู้ออนไลน์ต่างๆ ว่าตนเองยัง “อิน” กับความสัมพันธ์ของไข่ย้อย
และดากานดาไม่เสื่อมคลาย
“ผมไม่คิดหรอกนะครับว่ามันจะเป็นประเด็นให้พูดถึงเยอะ แสดงว่าประเทศเราเนี่ย มีพลังแฝง มีคนแอบรักเพื่อนเยอะอยู่เหมือนกันนะครับ” คุณเอสกล่าว
และด้วยการชูประเด็นของ การแอบรักใครสักคน ทำให้ภาพยนตร์เรื่องเพื่อนสนิทเป็นปรากฏการณ์ของวงการบันเทิงไทย ที่สร้างชื่อและรางวัลมากมายให้กับนักแสดงนำอย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ (ไข่ย้อย) นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา (ดากานดา) เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน (พยาบาลนุ้ย) รวมถึงนักแสดงผู้สร้างสีสันอย่าง โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล
ที่รับบท “พี่แตน” พยาบาลสาวสุดฮา
“ในสมัยนั้น หนังรักเป็นหนังที่คนมักมองว่าจะไม่ได้รายได้ ไม่ประสบความสำเร็จในแง่การแสดงหรือรางวัล แต่อย่างน้อยเพื่อนสนิทก็ทำให้คนประทับใจและตั้งคำถามตนเอง ส่วนทั้งนักแสดงและตัวหนังเองก็ได้รางวัล ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ว่าคุณจะทำหนังประเด็นอะไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องที่คุณอยากเล่า ก็จะกลายเป็นหนังที่คนดูเก็บไว้ในใจ ผมว่าเพื่อนสนิทคือหนังที่ทำเช่นนั้นได้”
นอกจากสองภาพยนตร์รักปนซึ้งของคุณเอส คมกฤษแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์จากยุคจีทีเอชที่เน็ตฟลิกซ์นำกลับมาให้ได้ประทับใจกันอีกครั้งคือ กวน มึน โฮ (พ.ศ. 2553) ผลงานแนวโรแมนติก-คอมเมดี้เรื่องแรกของผู้กำกับมือฉมัง โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล ที่สร้างชื่อจากภาพยนตร์แนวสยองขวัญอย่าง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ โดย กวน มึน โฮ ถูกสร้างขึ้นในช่วงที่วัฒนธรรมเกาหลีเริ่มก้าวขึ้นสู่ความนิยมสูงสุดในสังคมไทย หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ครั้งที่คนไทยเริ่มแห่ไปเที่ยวกรุงโซลเพื่อตามรอยซีรีส์เกาหลีสุดโปรด
ภาพยนตร์เรื่องนี้พูดถึงตัวละครที่เพิ่งผิดหวังกับความรักครั้งแรกในวัยผู้ใหญ่ สู่ความรักแบบอุดมคติเหมือนในซีรีส์เกาหลี กล่าวคือ การที่ “ชายหนุ่ม” และ “หญิงสาว” พบกันโดยไม่คาดคิด และใช้ชีวิตแบบที่ตนเองอยากทำมาตลอดในช่วงเวลาสั้นๆ ที่อยู่ด้วยกันในฐานะ “เพื่อนเที่ยว” ไม่ว่าจะเป็นการเสี่ยงโชคในบ่อน หรือการเช่ารถปอร์เช่มาขับ
สักครั้งให้สะใจ ส่งผลให้ กวน มึน โฮ ทำรายได้ถล่มทลายรวมกว่า 125 ล้านบาท คว้าตำแหน่งแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศไทยประจำปีนั้นไปครอง และทำให้ประโยคโดนใจในภาพยนตร์ “ยินดีที่ไม่รู้จัก” เป็นคำพูดที่ฮิตในหมู่วัยรุ่นสมัยนั้น
“คนที่เพิ่งเจอกันไม่นาน ทำไมเราถึงกล้าแชร์ความในใจอันลึกซึ้งกับเขา? ผมเลยรู้สึกว่าอยากผลักดันไอเดียนี้ให้
ยิ่งใหญ่ขึ้น เลยคิดคอนเซ็ปต์ขึ้นมาได้ว่าคนสองคนตกลงว่าจะไม่รู้จักกัน ตลอดทริปจะได้กล้าทำอะไรสุดเหวี่ยง
มันก็เป็นอารมณ์โรแมนติกแบบใหม่ดีครับ การที่เน็ตฟลิกซ์จะนำกวน มึน โฮมาฉาย ผมรู้สึกดีครับที่คนจะได้ดูหนัง
เรามากขึ้น บางคนก็อาจจะอยากดูซ้ำครับ” คุณโต้ง-บรรจง ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องกวน มึน โฮกล่าว
นอกเหนือจาก แฟนฉัน เพื่อนสนิท และ กวน มึน โฮ แล้ว ผู้ชมยังสามารถรับชมภาพยนตร์ไทยเรื่องอื่นๆ จากค่าย
จีดีเอช 559 ได้แล้ววันนี้บนเน็ตฟลิกซ์ แพลตฟอร์มที่เป็นเสมือนเป็นคลังเก็บภาพยนตร์ที่น่าประทับใจไว้ให้ดูตลอดกาล
“ผมดีใจและภูมิใจมากครับ เพราะโลกตอนนี้เป็นโลกสตรีมมิ่ง และเน็ตฟลิกซ์เป็นแพลตฟอร์มที่คนทั่วโลกดู อยากดูเมื่อไหร่ก็ดูได้ เช่น นั่งรถเมล์อยู่แล้วอยากดูฉากบอกรักก็เปิดดูได้ทันที ทำให้สิ่งที่เรารัก และสิ่งที่ทีมงานทุกคนทำมาได้อยู่ใกล้ชิดคนมากขึ้น … ที่สุดตั้งแต่ภาพยนตร์เกิดขึ้นมา” – เอส คมกฤษ ตรีวิมล