กรมตำรวจนิวยอร์คเปิดเผยว่า เมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา มีคดีโจรกรรมผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ Apple ถึง 16,000 คดี ซึ่งคิดเป็น 14% ของอาชณากรรมทั้งหมดในนิวยอร์ค
ยิ่งไปกว่านั้น มากกว่าครึ่งของคดีปล้นชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ iPhone เนื่องจากราคาในการขายต่อมือสองนั้นสูง ทางตำรวจเชื่อว่าการโจรกรรม iPhone นี้ไม่ได้เป็นฝีมือของโจรธรรมดาทั่วไป แต่น่าจะทำกันเป็นเครือข่ายองค์กร
ปัจจุบัน ทางกรมตำรวจถึงขั้นต้องขอร้องให้โรงรับจำนำทั้งหลายทำการเก็บบันทึกเป็นไฟล์อิเล็คทรอนิกส์ไว้หากมีการรับซื้อ iPhone ซึ่งก็มีโรงรับจำนำประมาณ 700 แห่งยินยอมทำตาม แต่บางส่วนก็คัดค้าน ทางด้านสมาคมผู้ประกอบกิจการโรงรับจำนำก็ได้ให้ความเห็นว่าการออกกฎแบบนี้ เหมือนเป็นการชี้นำว่าของที่เอามาขายต่อมือสองเป็นของโจรทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นยังถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้าอีกด้วย
นายกเทศมนตรี Bill de Blasio และอัยการสูงสุด Eric Schneiderman เสนอให้ Apple และผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเจ้าอื่นๆใส่ฟังก์ชั่น Kill-Switches (ระบบที่ทำให้เจ้าของมือถือสามารถหยุดการใช้งานของโทรศัพท์ตัวเองจากระยะไกล ได้) ในผลิตภัณฑ์ทุกตัว แต่ปัจจุบันบริษัทต่างๆก็มีท่าทีไม่ยินยอมกับข้อเรียกร้องดังกล่าว
อ้างอิงจาก CNET
[…] […]