[มรสุมที่ไม่คาดคิด] เมื่อช่วงเข้าที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่จากวงการ Cryptocurrency ทั้งไทยและต่างประเทศไทย ข่าวแรกคือ Elon Musk ให้ Tesla เทขาย Bitcoin ในมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท และอีกข่าวที่ทำเอาเหล่า ‘นักเทรด’ ในไทย ต้องใจหายกันตาม ๆ กันคือ Zipmex ระงับการฝากถอนหรือโอนในแพลตฟอร์ม !! อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทาง Zipmex Thailand ได้มีชี้แจ้งให้พอใจชื้นบ้างแล้ว
รู้จักกับ Zipmex ก่อนเล็กน้อย หากพูดถึงแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือบริการเทรดเหรียญ Crypto สัญชาติไทยแล้ว หนึ่งในนั้นย่อมมี Bitkub ที่หลาย ๆ คนคงรู้จักกันดี ถัดมาคือ Bitazza กับ Satang Pro และสุดท้าย Zipmex ซึ่งก็นับเป็นแพลตฟอร์มเทรด Crypto ชื่อดังอีกราย
Zipmex มีบริการอยู่ตัวหนึ่งคือ ZipUp+ เป็นบริการ “ออม” หรือฝากสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อรับผลตอบแทนเพิ่มเติมนั้นเอง ซึ่งสามารถฝากหรือถอนเมื่อไรก็ได้ นับเป็นบริการที่น่าสนใจไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ตัวสินทรัพย์ที่ฝากไว้ จะถูกเก็บไว้กับทาง Zipmex Global ที่สิงคโปร์ จนกระทั่งบริษัทดังกล่าว เกิดประสบวิกฤตสภาพคล่องกับ “คู่ค้า” รายสำคัญ จึงเป็นที่มาของการ “สะดุด” ทั้งกระดานในครั้งนี้เอง
ผลกระทบอย่างแรกเลยคือ การสั่งระงับระบบถอนเงินจาก Trade Wallet ชั่วคราว ส่งผลให้เกิดความฮือฮาอย่างมาก โดยเฉพาะเหล่านักเทรดที่ใช้บริการแพลตฟอร์มดังกล่าว สืบเนื่องจากมีความกลัวว่า ทางแพลตฟอร์มจะปิดไปแบบนี้เลยหรือไม่ ? จนมีการแห่ถอนเงินหรือทำธุรกรรมจำนวนมากพร้อม ๆ กัน ส่งผลให้บริการหรือแอปฯ Zipmex เกิดล่มชั่วคราวด้วยเช่นกัน ยิ่งทำให้เกิดความกังวลหนักข้อขึ้นไปอีก
ในระหว่างนี้เอง ทาง Zipmex ก็มีการแจงเหตุผลว่า
“เนื่องด้วยสถานการณ์ต่างๆ รวมถึง ความผันผวนของตลาด เหตุการณ์ต่างๆในอุตสาหกรรม ตลอดจนปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นจากคู่ค้าทางธุรกิจหลัก อันอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท เพื่อรักษาเสถียรภาพของแพลตฟอร์ม บริษัทฯ จะระงับการถอนทุกกรณีชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม”
หากมองดูแล้ว ก็นับว่าเป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ เนื่องจากการที่อยู่ดี ๆ “คู่ค้า” รายนั้น เกิดขาดสภาพคล่องกะทันหัน ก็เป็นอะไรที่อยู่เหนือการควบคุม อย่างที่ได้มีการประกาศไว้เลย แน่นอนว่าหลังจากนี้ทาง Zipmex ไม่ปล่อยไว้แน่ แต่ ณ ตอนนั้นมันมีเหตุเกิดขึ้่นแล้ว สิ่งที่ต้องทำอย่างแรก ก็คงเป็นการรองรับความปลอดภัยเบื้องต้นก่อน จึงอาจเป็นที่มาของการสั่งระงับบริการหลักอย่าง Trade Wallet ไปก่อนนั้นเอง จากนั้นค่อยหาวิธีรับมือกันใหม่
ไม่เวลานานนัก ดร. เอกลาภ ยิ้มวิไล ซีอีโอของ Zipmex Thailand ก็ได้ออกแถลงการณ์ผ่าน Facebook ส่วนตัว ซึ่งก็ได้เผยที่มาชัดเจนว่า เกิดจากคู่ค่า (Partners) ขาดสภาพคล่อง ซึ่่งส่งผลต่อบริการ ZipUp+ โดยตรง แต่กระนั้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริการหลักอย่าง ZMT และ Trade Wallet จนทำให้สามารถกลับมาให้บริการได้ตามปกติ หลังมีการระงับการใช้งานเพียงไม่ถึงหนึ่งวัน
ส่วนบริษัทคู่ค้าที่พูดถึงมาตลอดนี้นั้น ก็คือ “Babel” กับ “Celsius” ที่ทาง Zipmex ออกมาเปิดเผยเองเลย พร้อมกับชี้แจ้งว่ามีการฝากเงินไว้กับทาง Babel ถึง 48 ล้านดอลลาร์ฯ ส่วน Celsius อยู่ที่ 5 ล้านดอลลาร์ฯ แต่กระนั้น Zipmex ก็บอกว่า “บริษัทฯ ได้รับผลกระทบเพียงส่วนน้อยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
ส่วนการแก้ไขนั้น Zipmex เผยว่าจะนำเงินทุนของบริษัทมาใช้ในการจัดการความเสียหายส่วนนี้ก่อน จากนั้นจะดำเนินการในทุก ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น การระดมทุน การดำเนินการตามกฎหมาย หรือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่กันเลย
สรุปแล้ว Zipmex มีการสั่งปิดระบบหลักอย่าง Trade Wallet ชั่วคราว เพื่อป้องกันปัญหาเบื้องต้น (แต่ก็ส่งผลให้แอปฯ ล่มชั่วขณะไปด้วย) จากนั้นก็มีการเปิดให้ใช้งานตามปกติในเวลาเพียงไม่นาน พร้อมกับออกมาเผยเบื้องลึกเบื้่องหลังว่า เกิดจากการที่คู่ค้าเกิด “สะดุดล้ม” ขึ้นมาเฉย ๆ จนพาให้ Zipmex Global ที่สิงคโปร์ล้มไปด้วย ส่งผลให้บริการเสริมอย่าง ZipUp+ เป็นอันต้องปิดให้บริการกันไปสักระยะนั้นเอง
แต่ระหว่างนี้ทางบริษัทก็มีการยืนยันว่า จะมีการชดใช้ในส่วนนี้อย่างจริงจัง ทุกทางที่ทำได้ มีการหาลือกับสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่า “ไม่หนีไปไหน” ด้วย ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป Zipmex จะสามารถนำ ZipUp+ กลับมาโดยไว และช่วยเหลือผู้ที่ใช้บริการส่วนนี้ได้ตอนไหนกันครับ