บ่อยครั้งที่ผมเดินไปตามศูนย์การค้าไอที หรือโซนไอทีและมือถือตามห้างจะเห็นร้านค้ามากมายที่จำหน่ายสินค้าและให้บริการ ซึ่งบางอย่างก็ดูมีเหตุผล เช่นการจำหน่ายสินค้าและแนบบริการตามไปด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า แต่บริการบางอย่างนั้นเมื่อเห็นแล้วก็แอบคิด … เรื่องง่ายๆ อย่างนี้ยังต้องมาให้ร้านบริการทำให้อีกเหรอ?
ทีมงาน Computer.Today ฉบับนี้จึงขอนำเสนอเรื่องราวของการในการใช้งานอุปกรณ์ไอทีหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างง่ายๆ ที่ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องยกอุปกรณ์ไปที่ร้านให้ลำบากกาย และเสียค่าใช้จ่ายอีกต่อไป แต่คุณสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรเลย เพียงแต่คุณอาจจะไม่กล้าทำด้วยตัวเองเพราะกลัวว่าอุปกรณ์จะเสียหาย หรือไม่กล้าที่จะเริ่มลองทำเพราะคิดว่ามันยาก หรืออาจจะเห็นว่ามันยุ่งยากเสียเวลา ขี้เกียจทำ แต่ถ้าได้ลองทำเองแล้วจะรู้ว่ามันง่ายและสบายใจมากว่ามากทีเดียว
ติดตั้ง App ทั้งฟรีและเสียเงินบนสมาร์ทโฟน
เวลาที่เดินผ่านไปตามโซนมือถือเราจะเห็นร้านที่รับติดตั้ง App บนมือถือมากมาย เรียกได้ว่าแทบทุกร้านที่ขายสมาร์ทโฟน ก็มักจะมีบริการติดฟิล์มกันรอย รับลง App ให้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ iPhone, iPad หรือ iPod Touch ระบบ iOS ของ Apple ซึ่งนอกจากผู้ใช้จะต้องเก็บเงินซื้อเครื่องทีมีราคาแพงมาแล้วยังต้องเก็บเงินเพื่อมาซื้อ Application ต่างๆ ด้วย
ในกรณีของ iOS นั้นคุณสามารถดาวน์โหลด App ต่างๆ ได้จาก App Store ที่อยู่ภายในตัวเครื่อง ขอเพียงแค่ให้อุปกรณ์ของคุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทั้งจากเน็ตบนเครือข่ายมือถือเองก็ดีหรือเน็ตผ่าน WiFi ที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าก็ได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือคุณจะเป็นจะต้องสมัคร Apple ID เพื่อเอาไว้ใช้งานและดาวน์โหลด App ด้วย แต่หลายต่อหลายครั้งที่ถามผู้ใช้ iPhone บางคนยังไม่รู้จัก Apple ID เลยก็มี เพราะไม่เคยลง App เองเลย
: App Store บน iOS มี App ให้เลือกดาวน์โหลดเพียบ โหลดกันเองก็ได้
ปัญหาหลักๆ ที่ผู้ใช้งาน iOS จะเจอและทำให้ไม่อยากติดตั้ง App เองคือการสมัคร Apple ID นั้นดูเป็นเรื่องยุ่งยาก แม้ว่าขั้นตอนจะคล้ายกับการสมัครอีเมล์ที่เราทำกันจนชินมือ แต่หนึ่งขั้นตอนที่ยุ่งมากที่สุดก็คือการกรอกหมายเลขบัตรเครดิตหรือ Paypal เพื่อใช้ชำระเงินค่า App ที่เราซื้อมาจาก App Store นั่นเอง
: Android Market แหล่งโหลดซอฟต์แวร์สำหรับสาวก Android
อีกส่วนหนึ่งก็คืออยากได้ App ต่างๆ ที่เพื่อนใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น Angry Bird เวอร์ชันเต็ม หรือโปรแกรมแชทยอดนิยมอย่าง Whatsapp ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้ จำเป็นจะต้องเสียเงินเพื่อซื้อโปรแกรมมาใช้งาน ถ้าลำพังแค่ 1-2 โปรแกรมอาจจะพอรับได้ในราคาเพียงแค่ 0.99 เหรียญ หรือไม่น่าเกิน 10 เหรียญสำหรับ App ทั่วไป ซึ่งก็ตกราคาแค่ตัวละไม่เกิน 300 บาท แต่ลองนึกภาพดูว่าหากต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก อันนี้อาจจะทำให้คุณกระเป๋าฉีกจากในแจ้งหนี้บัตรเครดิตหลายพันบาทได้เช่นกัน แต่ต้องเข้าใจก่อนนะครับว่าอันนี้ซื้อครั้งเดียว หากครั้งหน้าต้องการโหลดมาใช้อีกก็สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีผ่าน Apple ID ของคุณเอง