ก่อนเราจะซื้อผลิตภัณฑ์อะไรก็ตามแต่ คนส่วนใหญ่มักตั้งคำถามเสมอว่า “อะไร คือ ความคุ้มค่า” ยิ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่พลัดกันเปิดตัวกันแทบจะทุกเดือนทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ยิ่งต้องตั้งคำถามให้มากว่าทำไมฉันถึงต้องเปลี่ยนเครื่องเดิมที่ใช้อยู่ไปใช้เครื่องใหม่ ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนมีให้เราเลือกหลายแบรนด์ หลายราคาเหลือเกิน การจะหาที่เหมาะสมกับเรานั้นคงต้องพินิจพิเคราะห์กันมากหน่อย โดยเฉพาะการประเมินจากสภาพเศรษฐกิจของเราเอง
แต่หากวัดจากความคุ้มค่าและราคาสมเหตุสมผล สมาร์ทโฟน Xiaomi Redmi 5 Plus นับเป็นยี่ห้อหนึ่งที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยราคาเพียง 5,790 บาท แต่สิ่งที่ตอบสนองปัจจัยพื้นฐานของการใช้สมาร์ทโฟนเรียกได้ว่ามีความคุ้มค่ามากกว่าราคาที่เห็นอีกครับ
ตัวเครื่อง
การใช้งานมาระยะหนึ่ง Xiaomi Redmi 5 Plus ให้ความรู้สึกถึงความเบาในระหว่างการหยิบจับ ใครที่กังวลว่าหน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมวัสดุที่เป็นโลหะ จะทำให้ตัวเครื่องหนัก เป็นอุปสรรคต่อการหยิบจับโดยเฉพาะเวลาถือด้วยมือเดียว ขอให้สบายใจได้ ส่วนของงานประกอบทำออกมาได้อย่างแน่นหนา ไม่รู้สึกว่าเป็นสมาร์ทโฟนกร๊อบแกร๊บเหมือนในยุคก่อนๆ อีกแล้ว แถมตัวเครื่องสีขาว + สีฟ้า เป็นอีกทางเลือกที่ยั่วใจสำหรับคนไม่ชอบความจำเจในสีขาวหรือสีดำล้วน
จอแสดงผล
เมื่อวัดจากแนวทแยงมุม จอแสดงผล Xiaomi Redmi 5 Plus มีขนาด 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ตามยุคสมัยของสมาร์ทโฟนปัจจุบัน ช่วยให้เราเห็นภาพหรือดูวีดีโอได้กว้างมากขึ้น ใครที่ชอบดูละครย้อนหลังผ่านสมาร์ทโฟนคงได้เพลินเพลินกับความใหญ่ที่มีมาให้นี้ นอกจากนี้ยังมากับความละเอียด Full HD+ (2160 x 1080 พิกเซล) แต่จากภาพตัวเครื่องนี้ที่เห็นสีสันจากการแสดงผลที่ออกจะดูซีดๆ หน่อย เป็นเพราะมีการติดฟิลม์แบบด้าน ซึ่ง Xiaomi ติดมาให้เสร็จสรรพตั้งแต่ในกล่องครับ
ภายนอกยังประกอบไปด้วยอะไรอีกบ้าง ?
แทบด้านบนของจอที่เห็นรูกลมๆ เล็กๆ ทั้งสามจุด อาจทำให้หลายคนงงว่าเป็นกล้องหน้า 2 ตัวรึเปล่า จริงๆ แล้วแบ่งเป็นเซนเซอร์ 2 จุด อีกจุดจะเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลครับ ขณะที่แทบท้ายสุดของหน้าจอไม่มีปุ่มโฮมหรือปุ่มอะไรอยู่ตรงนั้น แต่ปุ่มโฮม, ปุ่มย้อนกลับ และปุ่มเคลียร์แอพทั้งหมดจะเป็นลักษณะของ on-screen คืออยู่บนหน้าจอนั่นเองครับ
ขณะที่ด้านหลังเป็นนอกจากกล้องกับแฟลชแล้ว ยังมีปุ่มสแกนลายนิ้วมืออันเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟน Android หลายๆ รุ่นในช่วงหลายปีมานี้ จากที่ได้ทดลองใช้งานก็จัดว่าความเร็วในการปลดล็อคใช้ได้ดีเลยครับ
ส่วนสุดท้ายอย่างพอร์ตที่ติดมาด้วยเป็นแบบ USB 2.0 ครับ และลำโพงคู่ เปิดเสียงดังได้แบบสุดๆ โดยเสียงไม่แตก … อ่อ ! เกือบลืมบอกครับ รุ่นนี้ใส่ NANO SIM ได้ถึง 2 ซิม แต่ก็สำหรับผู้ที่ไม่นิยมใส่ microSD Card แต่หากจำเป็นต้องใช้ก็ต้องจำยอมใช้ซิมเดียวครับ
เล่นเกมล่ะไหวไหม ?
เห็นราคาระดับนี้อย่าดูถูกเชียวนะครับ เพราะจากที่ลองเทสกับเกม Lineage 2: Revolution ผลลัพธ์ของการประมวลผล, การเคลื่อนไหวของตัวละคร และความไวในการตอบสนองของการสัมผัส นับว่าทำได้อย่างลื่นในระดับที่รับได้ อาจจะไม่ลื่นปรื๊ดเท่าสมาร์ทโฟนในสเปกสูงๆ แต่นี่ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนในราคาระดับล่าง ภายใต้ความคาดหวังว่าสมาร์ทโฟนระดับนี้จะสามารถเล่นเกมได้ไหว
ขณะที่เรื่องความร้อนในระหว่างอันนี้ก็ค่อนข้างน่าประทับใจสำหรับผมอยู่ไม่น้อย เพราะจากที่ผมเทสให้เล่น พร้อมเปิดกราฟิกในระดับสูงทั้งหมด ตัวเครื่องแทบไม่แสดงให้รู้สึกถึงความร้อน อาจมีอุ่นๆ บ้าง แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแบตเตอรี่เองก็อึดพอที่จะเล่นติดต่อกันได้เป็นเวลานานครับ
กล้อง
ว่าด้วยกล้องหลังกันก่อน ใครที่ไม่ใช่สายถ่ายรูป แต่คาดหวังว่าสมาร์ทโฟนระดับราคาไม่เกิน 6 พันนี้ การเลือก Xiaomi Redmi 5 Plus มีให้ความละเอียดของกล้องมาที่ 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f2.2 จัดว่าให้คุณภาพของภาพนิ่งและถ่ายวีดีโอได้โอเคระดับหนึ่ง ความไวของ Auto Focus ของการถ่ายภาพนิ่งอยู่ในเกณฑ์พอใช้ จังหวะของการจับภาพมีหน่วงอยู่เล็กๆ สามารถกดปุ่มชัตเตอร์ค้างเพื่อถ่ายรัวหลายช็อตได้ ขณะที่การถ่ายภาพกลางคืนก็ต้องบอกกันตามตรงครับว่า เกิด Noise หรือจุดบนภาพเยอะพอสมควรครับ
โหมดสำหรับถ่ายภาพนิ่งมีให้เลือกอยู่ 9 โหมด ซึ่งใครที่นิยมถ่ายภาพแบบหน้าชัดและเบลอบริเวณรอบๆ Xiaomi Redmi 5 Plus มีโหมด “ปรับเบลอ” (ไอคอนรูปหยดน้ำ) ให้ใช้ มีให้เลือกด้วยว่าจะเบลอเป็นลักษณะแนววงกลมหรือแนวนอนก็ได้
ด้านการถ่ายวีดีโอ รองรับความละเอียดสูงสุด 4K แต่ต้องทำใจสักเล็กน้อยๆ ว่า หากมือไม่นิ่งจริงๆ วีดีโอที่ออกมามีสั่นไหวพอสมควรแน่นอนครับ
กล้องหน้า ดูจะไม่ใช่จุดขายเท่าไหร่ จากความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม Beautify 3.0 ปรับหน้าเนียนได้ แต่การจับโฟกัสยังทำได้ช้า
ตัวอย่างภาพถ่าย (เน้นกล้องหลังเป็นส่วนใหญ่นะครับ)
ซอฟต์แวร์
พื้นฐานซอฟต์แวร์ใน Xiaomi Redmi 5 Plus เป็น Android 7.1.2 ซึ่งผมเองก็ไม่สามารถตอบได้เหมือนกันว่าจะไปต่อกับ Android 8.0 หรือไม่ แต่ก็แอบหวังอยู่ลึกๆ นะครับ ส่วนอินเทอร์เฟซที่ครอบทับยังเป็น MIUI 9.5 ใช้การออกแบบที่เรียบง่ายอิงตามการออกแบบระบบปฏิบัติการของ Google ในสมัยนี้
ในภาพรวมถือว่าไม่มีอะไรที่แตกต่างจาก MIUI ที่เคยมีมาในช่วง 1-2 ปีมานี้เท่าไหร่นัก ใครที่ต้องการใช้บริหารจัดการเครื่องให้มีประสิทธิภาพเหมือนใหม่และปลอดภัยอยู่เสมอ ก็สามารถเลือกใช้แอพที่เรียกว่า “แอพความปลอดภัย” ได้ หรือหากใครที่รู้ตัวว่าต้องคุยธุรกิจกับเรื่องส่วนตัวในเครื่องเดียวก็สามารถแบ่งแยกพื้นที่การใช้งานได้เพียงใช้เมนู “พื้นที่ทับซ้อน” ใครมีความลับ “เยอะ” แนะนำให้ใช้เมนูนี้ครับ
สรุปภาพรวม Xiaomi Redmi 5 Plus คุ้มค่า สมราคาคุยไหม ?
หากว่ากันตามการใช้งานโดยทั่วไปที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ เช่น การถ่ายภาพ, เล่นโซเชียล, เล่นเกม, ดูละครย้อนหลังบน YouTube เรียกได้ว่า Xiaomi Redmi 5 Plus ตอบโจทย์ได้ครบ แถมคนใช้ก็ไม่ต้องจำเจกับตัวเครื่องสีเดิมๆ เช่น สีดำหรือสีขาว เพราะมีตัวเลือกอย่างสีฟ้ามาให้ด้วย สำหรับผมติดอยู่บางจุด นั่นคือ กล้องหน้า อาจจะให้ใบหน้าเนียนได้จริง แต่การจับโฟกัสยังทำได้ช้าอยู่มาก
ดังนั้นใครที่ไม่ซีเรียสกล้องหน้า เน้นหาความคุ้มค่าที่ตัวสเปกและราคาที่พอเหมาะกับงบประมาณที่ตัวเองมีอยู่ Xiaomi Redmi 5 Plus ครบ คุ้มจริงๆ ครับ
สเปกของ Xiaomi Redmi 5 Plus
- หน้าจอ IPS ขนาด 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด Full HD+ (2160 x 1080 พิกเซล)
- ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.2 ครอบทับด้วย MIUI 9.5
- ใส่ NANO SIM ได้ 2 ซิม, รองรับ microSD Card
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 แบบ Octa-Core, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506
- แรม 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB (รุ่นที่นำมารีวิว)
- กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.2, แฟลชคู่ LED, ระบบโฟกัสแบบ PDAF, รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม Beautify 3.0, ถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียด 1080p/720p
- แบตเตอรี่ 4000 mAh
- ตัวเครื่องมีสีดำ, ทอง และฟ้า
- ราคา 5,790 บาท