เมื่อปี 2016 Xiaomi Mi Mix ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่สร้างปรากฎการณ์หน้าจอไร้ขอบ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าและความสามารถของ Xiaomi ในการพัฒนานวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกของสมาร์ทโฟนที่แล้ว ๆ มา ซึ่งในปี 2017 ช่วงเวลาของการสานต่อจากรุ่นแรกในชื่อ “Xiaomi Mi Mix 2” และวันนี้เองที่ aripfan มีรีวิวของรุ่นนี้มาฝากผู้อ่านทุกท่านครับ
สเปค Xiaomi Mi Mix 2 มีดังนี้
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2160 พิกเซล (403 ppi), สัดส่วนการแสดงผล 18:9, กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 4
- รองรับสองซิม ประเภท NANO SIM
- ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat ครอบทับด้วย MIUI 9.1 (Global)
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.45GHz
- แรม 6GB, หน่วยความจำภายใน 64GB, ไม่รองรับ microSD Card
- กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.0, แฟลช Dual LED, ระบบ Auto Focus, กันสั่น 4-axis, บันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.0
- พอร์ต USB Type-C
- ไม่มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- รองรับ NFC, Bluetooth 5.0, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ความจุ 3400 mAh รองรับ Fast charging
- ราคา 17,990 บาท (ณ วันที่ 20 ธันวามคม 2560)
ตัวเครื่อง
ภายนอกของ Xiaomi Mi Mix 2 ด้านหน้าใช้กระจก Corning Gorilla Glass 4 ส่วนด้านหลังเป็นเซรามิกที่สะท้อนความเงางาม ให้ความสวย แทรกด้วยประโยคว่า “MIX DESIGNED BY XIAOMI” เพื่อบ่งบอกตัวตนที่ออกแบบโดย Xiaomi ขอบของกล้องหลังที่นูนออกมาเล็กน้อยเป็นโลหะที่เคลือบด้วยสีทอง ช่วงส่งเสริมให้ภาพรวมภายนอกมีลักษณะเด่นที่เชิญชวนให้ผู้พบเห็นต้องอยากลอง อยากสัมผัส
ซึ่งตอนที่ผมถือรู้สึกได้ว่าตัวเครื่องไม่ได้เบาเท่าใดนัก อาจจะหวั่น ๆ หน่อยเพราะตัวเครื่องใช้วัสดุที่ค่อนข้างให้ความเสี่ยงเมื่อตกพื้นอาจแตกกระจุยได้ในทันใด แต่ยังดีที่ภายในกล่องที่บรรจุจะมีเคสพลาสติกแถมมาให้ ช่วยกระชับมือมากขึ้นเวลาถือ และที่สำคัญขนาดตัวเครื่องของ Xiaomi Mi Mix 2 เทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนขนาด 5.5 นิ้วด้วยนั่นเอง
หน้าจอไร้ขอบ
ด้วยขนาดหน้าจอที่ 5.99 นิ้ว เล็กลงกว่ารุ่นแรก มาพร้อมอัตราส่วนการแสดงผลที่ 18:9 ใช้พื้นที่ด้านหน้ามากกว่า 80% เหลือพื้นที่ใต้หน้าจอเพียง 12% ด้านบนตัวเครื่องเหลือพื้นที่เพียงเล็กน้อยสำหรับฝังเซนเซอร์ต่าง ๆ เท่านั้น ไม่พอที่จะนำกล้องหน้าเอาไว้ในตำแหน่งเดิม !
ตำแหน่งของกล้องหน้า ถูกย้ายลงมาอยู่ใต้หน้าจอ
สำหรับตำแหน่งปุ่ม หรือพอร์ตต่าง ๆ ใน Xiaomi Mi Mix 2 เลือกใช้พอร์ต USB Type-C สำหรับการชาร์จและถ่ายโอนไฟล์ ขนาบข้างด้วยลำโพงคู่, ปุ่มเพิ่ม-ลดเพียง กับปุ่มพาวเวอร์อยู่ในด้านขวาตัวเครื่อง, ด้านซ้ายมีเฉพาะช่องใส่ซิม, ปุ่มควบคุมเป็นแบบ on screen, ไม่มีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรแล้ว และที่ผู้อ่านต้องรู้ คือ กล้องหน้าถูกโยกย้ายจากตำแหน่งบน มาอยู่ที่มุมขวาล่างของตัวเครื่อง ซึ่งก็ต้องสังเกตดี ๆ พร้อมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เซลฟี่กันใหม่ครับ
แรม 6GB, หน่วยความจำภายใน 64GB
แรมของ Xiaomi Mi Mix 2 ใส่มาถึง 6GB กล่าวว่าเยอะพอสมควรครับ สามารถใช้ไปเกทับไอโฟนได้สบาย ๆ … ฮ่าฮ่าฮ่า !! ซึ่งประโยชน์ของแรมระดับนี้จะคอยช่วยคอยช่วยให้การเรียกใช้แอปฯ , ไฟล์หรือข้อมูลต่าง ๆ แม้จะมีการใช้ในปริมาณที่มากก็ยังทำได้รวดเร็ว หรือหากสลับแอปฯ ไปมา, เรียกใช้แอปฯ ใหม่ โดยที่ยังเปิดแอปฯ เดิมค้างไว้อยู่ ก็ยังช่วยให้การเข้าถึงทำได้รวดเร็วครับ
ส่วนหน่วยความจำภายใน หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า “รอม” ให้มา 64GB สำหรับผมเชื่อว่าว่า “เพียงพอ” สำหรับการใช้เก็บข้อมูลในระยะยาวครับ รวมไปถึงรองรับขนาดของแอปฯ ยอดนิยมอย่าง Facebook หรือ LINE รวมไปโหลดเกมไว้เล่นหลาย ๆ เกมได้สบาย ๆ แถมยังเหมาะกับคนทั่วไปที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่าพื้นที่เก็บข้อมูลจะเต็มง่าย ๆ ครับ
กล้องถ่ายรูป
เริ่มกันที่กล้องหลัง เป็นเลนส์เดี่ยว ๆ ซึ่งตามสเปคนั้นมากับความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.0, แฟลช Dual LED, ระบบ Auto Focus, กันสั่น 4-axis, บันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K, มีโหมดให้เลือกตั้งแต่โหมดโปร, บิวตี้, HHT (ถ่ายภาพกลางคืน) ฯลฯ สามารถปรับอัตรส่วนก่อนถ่ายภาพให้เป็นขนาด 4:3 หรือ 16:9 ได้
UI บางส่วนของกล้องหลัง
การถ่ายภาพในอัตราส่วน 16:9 ผมแนะนำว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ครับ เพราะไม่เพียงให้เราเห็นภาพในมุมกว้าง ยังเป็นการใช้ประสิทธิภาพของหน้าจอแสดงผลที่ 18:9 ได้อย่างเต็มที่อีกด้วยครับ
ภาพถ่ายที่แสดงผลในอัตราส่วน 16:9
กล้องหน้า ตามสเปคมากับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.0 และอย่างที่บอกไปครับว่าตำแหน่งกล้องหน้าถูกย้ายจากด้านบนมาอยู่มุมขวาล่าง นั่นเป็นเหตุให้วิธีการเซลฟี่ต้องปรับเปลี่ยนไปครับ หากเปิดกล้องหน้าแล้วเซลฟี่เลยทันทีเหมือนที่ทำอยู่ปกติ ก็คงได้มุมที่ไม่สวยนัก แต่ผมขอแนะนำให้หมุนตัวเครื่องเพื่อให้กล้องหน้าตั้งอยู่ด้านบนสุด อาจจะยุ่งยากหน่อย แต่นั่นแหละครับถึงจะได้ใช้การเซลฟี่ในแบบที่เราใช้กันอยู่ประจำ
ตัวอย่างภาพถ่าย
ถ่ายด้วยกล้องหลังในอัตราส่วน 16:9
ซอฟต์แวร์
Xiaomi Mi Mix 2 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat ครอบทับด้วย MIUI 9.1 ซึ่งผมต้องขอย้ำกับผู้อ่านบางท่านที่ยังไม่รู้ครับว่า MIUI ของ Xiaomi นี้ เป็นเวอร์ชั่น Global ฉะนั้นจึงรองรับหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทย ลักษณะของ UI ของ Xiaomi จะออกแนวเรียบ ๆ ไอคอนมีหน้าตาที่แบน ขอบโค้งมนเล็ก ๆ มาพร้อมฟีเจอร์ “การแบ่งพื้นที่ทับซ้อน” เป็นเมนูเพื่อใช้แบ่งพื้นที่ในเครื่องเป็นสองส่วน เสมือนว่าเรามีสมาร์ทโฟนใช้สองเครื่องเพื่อแยกการทำงานที่แตกต่าง
มีเมนูวิเคราะห์การใช้แบตเตอรี่ ตัวช่วยบริหารจัดการการใช้พลังงาน เพื่อลดการใช้งานพลังงานที่ไม่จำเป็น รวมไปถึงคอยรายงานแอปฯ ที่ใช้งานพลังงานมากเกินไป
ทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ Benchmark
ผลคะแนนจาก Antutu Benchmark
สรุปภาพรวม รีวิว Xiaomi Mi Mix 2
สิ่งที่ Xiaomi Mi Mix 2 ทำได้ดีในความเห็นของผมขอยกเป็น 2 เรื่องครับ ได้แก่ 1.ดีไซน์ ที่ให้ความสวยงาม ยึดแนวทางของการเป็นสมาร์ทโฟนไร้ขอบได้เป็นอย่างดี, 2.กล้องถ่ายภาพ ในส่วนของกล้องหลังนั้นสำหรับการถ่ายในสภาพแสงแดด แสงธรรมชาติ หรือสถานการณ์ที่มีแสงเพียงพอ ถือว่าสีของภาพค่อนข้างเป็นธรรมชาติ เก็บรายละเอียดและความชัดเจนได้ดี
ส่วนอื่น ๆ ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นการบ้านของ Xiaomi ในการพัฒนาให้ดีขึ้นในรุ่นต่อไป อาทิ ตำแหน่งกล้องหน้า ที่ค่อนข้างขัดกับธรรมชาติการเซลฟี่ในปัจจุบัน อย่างที่สองเป็นประสิทธิภาพของเสียงที่ออกจากลำโพงที่คิดว่าควรพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
สำหรับผู้อ่านท่านสนใจและอยากไปเลือกซื้อตรงจากศูนย์บริการ Mi Store ของ Xiaomi สามารถไปได้ที่ 3 สาขานี้ครับ
1. อิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง
2. ซีคอน บางแค
3. พันธ์ทิพย์ ประตูน้ำ
หรือสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ที่ Lazada