ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในชื่อ “Xiaomi Mi A1” พร้อมถูกขนานนามว่าเป็นคู่แฝดกับ Xiaomi Mi 5X แต่จุดเด่นของรุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนที่เกิดขึ้นในโครงการ Android One หรือว่ากันง่ายๆ เป็นรุ่น Pure Android นั่นเอง ซึ่ง aripfan อาสาเป็น buyer’s guide อีกครั้ง รีวิว Xiaomi Mi A1 เพื่อบอกเล่าความน่าใช้ให้กับทุกท่านครับ

ก่อนซื้อ ต้องรู้สเปก

• หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080p 403ppi
• รองรับ 2 ซิมการ์ด (nano sim, hybrid slot)
• ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.2 Nougat
• ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 Octa-core ความเร็ว 2.0GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506
• แรม 4GB, หน่วยความจำภายใน 64GB, รองรับ microSD Card ความจุสูงสุด 128GB
• กล้องหลังคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Wide ค่ารูรับแสง f/2.2, เลนส์ Telephoto ค่ารูรับแสง f/2.6, แฟลชคู่ Dual LED, ระบบโฟกัส PDAF, รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 2160p ที่ 30fps
• กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p ที่ 30fps
• เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มหลัง
• พอร์ต USB Type-C
• การเชื่อมต่อ : LTE; Dual-band Wi-Fi a/b/g/n/ac; GPS/GLONASS/Beidou, Bluetooth v4.2, IR blaster
• แบตเตอรี่ความจุ 3080 mAh (ไม่สามารถอดแบตเตอรี่ได้)

ตัวเครื่อง

การออกแบบถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับ ด้านหน้าใช้กระจก Corning Gorilla Glass เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ด้านหลังเป็นโลหะ มีความบาง น้ำหนักเบา เส้นรับสัญญาณด้านหลังถูกขยับขึ้นด้านบนทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเรียบง่าย ดูทันสมัย แต่อีกมุมหนึ่งสำหรับด้านหลังที่เป็นโลหะค่อนข้างสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดรอยขีดข่วน ซึ่งในกล่องจะไม่มีเคสใสแถมมาให้เหมือนบางรุ่น นอกจากนี้ตัวเครื่องที่มีลักษณะกว้างตามสไตล์สมาร์ทโฟนขนาด 5.5 นิ้ว จะไม่เอื้อต่อการหยิบจับด้วยมือเดียว

ปุ่มโฮม, ปุ่มย้อนกลับ และปุ่ม recent apps เป็นประเภท capacitive ใช้การสัมผัสบนแถบสีดำที่อยู่ถัดลงมาจากหน้าจอ เมื่อสัมผัสหรือกดปุ่มต่างๆ จะแสดงไฟ LED ขึ้นมา

ตัวเครื่อง Xiaomi Mi Ai เลือกใช้พอร์ตสำหรับโอนย้ายข้อมูล และสำหรับใช้ชาร์จแบตเตอรี่เป็น USB Type-C ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีของรุ่นนี้ครับ

ถาดใส่ซิมของรุ่นนี้เป็นแบบ hybrid slot ครับ หมายความว่า สามารถใส่ nano sim ได้พร้อมกัน 2 ซิมก็จริง แต่หากต้องการเพิ่ม microSD Card ล่ะก็ ต้องสละซิมหนึ่งซิมใดไปนั่นเองครับ

กล้องหลังคู่

เป็นจุดขายสำหรับ Xiaomi Mi A1 เลยก็ว่าได้ ซึ่งกล้องหลังคู่นี้มาพร้อมความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ประเภทของเลนส์ที่ใช้มีความแตกต่างกัน โดยเลนส์ตัวแรกเป็นเลนส์ Wide ค่ารูรับแสง f/2.2 ส่วนเลนส์ตัวที่สองเป็นเลนส์ Telephoto ค่ารูรับแสง f/2.6 ซึ่งสเปกกล้องจะค่อนข้างใกล้เคียงกับ iPhone 7 Plus แต่น่าเสียดายที่สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ของ Xiaomi ไม่ได้ติดตั้งระบบกันสั่นหรือ OIS มาให้ด้วยในตัว ดังนั้นการถ่ายภาพต้องมือนิ่งกันสักหน่อย มิเช่นนั้นโอกาสที่ภาพเบลอจึงเกิดขึ้นได้ง่าย

การซูมก่อนถ่ายภาพโดยไม่เสียความละเอียดสามารถทำได้ในระดับ 2X เป็นการใช้คุณสมบัติจากเลนส์ Telephoto ที่มีรูรับแสง f/2.6 ซึ่งจะเหมาะกับการถ่ายภาพในที่แสงปกติมากกว่า ส่วนการถ่ายภาพในที่แสงน้อย เราสามารถใช้โหมด HHT คอยช่วยได้ ซึ่งจะทำให้ภาพมี noise หรือจุดบนภาพลดน้อยลงจากโหมดปกติ และช่วยให้ภาพชัดขึ้นเล็กน้อย

โหมดถ่ายภาพ Portrait และเมนูการถ่ายภาพต่างๆ ของกล้องหลัง

การถ่าย Portrait เป็นประโยชน์ที่เกิดจากการใช้กล้องหลังคู่ เป็นกระบวนการถ่ายภาพบุคคลหรือวัตถุแบบหน้าชัดหลังเบลอ เปิดใช้งานง่ายเพียงแตะที่ไอคอนรูปตัวคน ส่วนการถ่ายภาพให้หน้าชัดหลังเบลอจะต้องเว้นระยะห่างระหว่างกล้องกับบุคคลหรือวัตถุที่เป็นแบบประมาณ 2 เมตร ซึ่งก่อนจะลงมือถ่ายภาพในหน้าจอจะมีข้อความขึ้นบอกเราว่าเราถือกล้องอยู่ในระยะที่เหมาะสมแล้วหรือยัง

แต่จากประสบการณ์ที่ผมใช้รู้สึกว่าเป็นการใช้งานที่เพิ่มความยุ่งยากครับ เพราะอย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้เรื่องการถ่ายภาพ และการต้องวัดระยะเพื่อให้เกิดหน้าชัดหลังเบลอที่สมบูรณ์อาจต้องใช้เวลามากกว่าการถ่ายภาพปกติครับ

เมนูการปรับตั้งค่าอื่นๆ 

ส่วนเมนูอื่นๆ ในกล้องถ่ายภาพจะมีฟิลเตอร์เพื่อปรับโทนสีได้ สามารถเลือกใช้อัตราส่วนของภาพถ่ายระหว่าง 4:3 หรือ 16:9 ได้ รวมไปถึงการปรับระดับความคมได้

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

โหมด Portrait

โหมดปกติ

Pure Android

ซอฟต์แวรใน Xiaomi Mi A1 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.2 Nougat ไม่มีการปรับแต่งหรือครอบทับด้วย UI ใดๆ เป็นการใช้ประสิทธิภาพจาก Android อย่างเต็มที่ จะมี UI ของกล้องถ่ายภาพจาก Xiaomi ที่เพิ่มเข้ามาเพียงเล็กน้อย และที่สำคัญยังรองรับการอัพเดท Android เวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้อีกอย่างน้อย 2 เวอร์ชั่นในอนาคต

การเล่นเกม

ในที่นี้ผมได้ทดลองใช้เล่นเกม Asphalt Extream ซึ่งเรื่องความลื่น การตอบสนองกับการหมุนตัวเครื่อง การกดต่างๆ ถือว่าทำได้ดีครับ

รีวิว Xiaomi Mi A1 กับบทสรุป

เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนจาก Xiaomi ที่ออกแบบได้อย่างทันสมัย การใช้ซอฟต์แวร์ในแบบ Pure Android ส่งผลต่อการใช้งานที่รวดเร็วและราบรื่น แต่ต้องทำใจกันเล็กน้อยว่าหน้าตาของ UI อาจดูจืดชืดไปบ้าง กล้องหลังคู่จัดว่าให้คุณภาพของภาพถ่ายดีเยี่ยมในสภาพแสงปกติ แต่คุณภาพจะด้อยลงทันทีเมื่อต้องเผชิญกับที่แสงน้อย และอย่างที่บอกครับในรุ่นนี้ไม่มีระบบกันสั่นมาให้ เวลาถ่ายภาพจะต้องมือนิ่งกันสักหน่อย ไม่ว่าจะถ่ายด้วยโหมดปกติ, Portrait, หรือโหมดใดๆ ก็ตาม

ฉะนั้นแล้วเมื่อถามว่า Xiaomi Mi A1 ในราคา 7,990 บาท น่าใช้ น่าซื้อหรือเปล่า ? คงขึ้นอยู่กับความพอใจครับ เพราะหากคนที่ชอบสเปกแบบกลางๆ ไม่ต้องหวือหวามาก เน้นราคาถูก รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์คุณได้ครับ