Word 2013 ตอนที่ 4 : รู้จักกับฟีเจอร์เด็ด

Word 2013 ตอนที่ 4

ขีดความสามารถของ Word ในเรื่องการนำภาพเข้ามาประกอบมีประสิทธิภาพสูง มีคำสั่งเพื่อจัดการได้อย่างยืดหยุ่นกันอยู่หลายคำสั่ง เพียงแค่เข้าใจคอนเซ็ปต์การใช้งานให้ถูกต้อง เพียงแค่นี้งานดีไซน์เอกสารให้สวยๆ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป (ดูย้อนหลังตอนอื่นได้ที่นี่)

บีบลดเนื้อที่จัดเก็บไฟล์ภาพ

วิธีการดึงไฟล์ภาพเข้ามาประกอบในงานเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก น่าจะคุ้นเคยกันดี แต่สิ่งที่จะนำมาพูดเป็นเรื่องของการบีบลดเนื้อที่จัดเก็บไฟล์ภาพเมื่อรวมเข้าไปในไฟล์งาน ซึ่งอาจทำให้ได้ไฟล์งานที่มีขนาดใหญ่เกินจริง แม้ว่าไฟล์ภาพที่นำมาใช้เป็นไฟล์ที่มีคุณภาพสูง ขนาดไฟล์เล็ก อย่างฟอร์แมต .JPG และ .PNG แล้วก็ตาม

– การ Crop เป็นเทคนิคหนึ่งในการตัดภาพให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการใช้งานจริงๆ วิธีการ Crop ไม่ยาก แค่คลิกเลือกรูปภาพที่ต้องการ ตามด้วยการคลิกตรงแท็บ PICTURE TOOLS จะพบกับปุ่ม Crop โดยการ Crop มีอยู่ 2 อย่างคือ Crop เฉยๆ คุณสามารถเลือกตัดส่วนที่ไม่ต้องการออกจากด้านใดด้านหนึ่งของภาพ และ Crop To Shape เป็นการ Crop ให้ภาพไปอยู่ในรูปทรงตามความต้องการ (รูป 1)

Word 2013
รูปที่ 1

– ตามปกติเมื่อคุณสั่ง Crop ภาพไปแล้ว เนื้อที่ที่ใช้จัดเก็บไฟล์ภาพดังกล่าว เมื่อรวมไปกับไฟล์ยังคงเหมือนกับภาพที่ยังไม่ได้ Crop วิธีการสั่งให้มีการบีบลดเนื้อที่ตามการ Crop ให้คลิกตรงปุ่ม Compress Pictures ที่อยู่ในแท็บ PICTURE TOOLS

ให้เลือกรายการ Delete cropped areas of pictures และสามารถกำหนดให้มีผลเฉพาะภาพนี้ (Apply only to this picture) หรือทุกๆ ภาพ นอกจากนี้เทคนิคการบีบลดเนื้อที่สามารถทำได้จากการกำหนด Target output โดยเลือกว่าไฟล์ดังกล่าวจะนำไปใช้กับอะไร หากต้องการให้ไฟล์นี้ได้แค่เปิดอ่าน สามารถกำหนดให้เป็น Screen (150 ppi) หรือ E-mail (96 ppi) ซึ่งเพียงพอคมชัดต่อการดูไฟล์ภาพบนหน้าจอ แต่ถ้าต้องการพิมพ์ภาพออกมาด้วย ตัวเลือก Print (220 ppi) จะช่วยให้การพิมพ์ภาพออกมาดูดีกว่า (รูป 2)

Word 2013
รูปที่ 2
รู้จักกับ In Line Graphic

การดึงไฟล์รูปภาพเข้ามาใช้งานใน Word นั้นไม่ยาก ง่ายมากๆ แต่วิธีจัดการเกี่ยวกับเลย์เอาต์รูปภาพให้อยู่ร่วมกับข้อความอย่างสวยงามและเป็นระเบียบ เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง และต้องเข้าใจการทำงานรูปภาพของ Word ให้ดีกันสักหน่อย

– ปกติไฟล์ภาพที่ถูกดึงเข้ามา จะอยู่ในตำแหน่งที่เคอร์เซอร์อยู่ และไฟล์ภาพที่ถูกดึงเข้ามา ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งกับข้อความนั้น ข้อความนั้นไปที่ไหน ภาพก็จะตามไป ลักษณะเช่นนี้เรียกว่า In Line Graphic วิธีการเปลี่ยนเลย์เอาต์เพื่อให้จัดการกับรูปภาพได้ดีขึ้น ให้คลิกตรงปุ่ม LAYOUT OPTIONS ที่อยู่ข้างๆ รูปภาพ (จะต้องมีการคลิกรูปภาพนั้นเสียก่อน)

เปลี่ยนจาก In Line With Text ไปเป็น With Text Wrapping ซึ่งมีรูปแบบของการจัดเลย์เอาต์เพื่อให้ข้อความอยู่ล้อมรอบรูปภาพได้หลายแบบ หากต้องการสลัดรูปภาพออกจากข้อความไม่ให้เคลื่อนไปตามข้อความ ให้เปลี่ยนจาก Move with text ไปเป็น Fix position on page ภาพจะคงอยู่ตำแหน่งนี้ตลอด (รูป 3)

Word 2013
รูปที่ 3

– ส่วนรายละเอียดที่กำหนดให้ข้อความเว้นระยะห่างล้อมรอบรูปภาพ สามารถกำหนดได้ โดยหลังจากที่คลิกตรง See more ใน LAYOUT OPTIONS จะได้หน้าต่าง Layout ให้เลือกไปตรงแท็บ Text Wrapping ไปกำหนดระยะห่างได้ตามสะดวกตรง Distance form text (รูป 4)

Word 2013
รูปที่ 4

– เทคนิคในการจัดวางข้อความเพื่ออธิบายรูปภาพ ในกรณีที่ต้องใช้ภาพประกอบเป็นจำนวนมากๆ จะใช้ตารางเข้ามาเป็นตัวช่วย ในตัวอย่างได้กำหนดตารางเป็นแบบ 2 คอลัมน์ คอลัมน์แรกใส่คำอธิบาย อีกคอลัมน์ใส่ภาพประกอบ จากนั้นกำหนดให้เส้นตารางไม่มี (No Border) (รูป 5)

Word 2013
รูปที่ 5

– แล้วใช้คำสั่ง Alignment จัดการกับข้อความที่ใช้ประกอบกับรูปภาพในตาราง ว่าจะให้ข้อความอยู่กึ่งกลางเซลล์ ชิดซ้าย ชิดขวาได้ตามสะดวก ซึ่งคำสั่ง Alignment จะอยู่ในแท็บ TABLE TOOLS -> LAYOUT (รูป 6)

Word 2013
รูปที่ 6
Capture Screen จากในตัว Word

หากต้องการจับภาพหน้าจอโปรแกรมที่ทำงานอยู่ (Capture Screen) ไม่ว่าจะเป็นข้อความ หรือรูปภาพจากเว็บใดๆ เพื่อนำมาเป็นภาพประกอบในไฟล์งาน สามารถสั่งทำงานได้ทันที ซึ่งฟีเจอร์นี้มีพร้อมอยู่ในตัว Word โดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเสริมตัวอื่นๆ

1. เลือกทำงานไปยังแท็บ INSERT คลิกไปตรงปุ่ม ScreenShot จะมี ScreenShot ของโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่ในขณะนั้น หากต้องการจากโปรแกรมตัวไหนให้คลิกเลือกได้เลย หรือหากต้องการกำหนดพื้นที่ในการ Capture เอง ให้เลือกมาที่ Screen Clipping (รูป 7)

Word 2013 ตอนที่ 4
รูปที่ 7

2. หลังจากนั้นหน้าจอจะเป็นสีขาวๆ ให้แดร็กเมาส์เลือกบริเวณที่ต้องการ Capture ได้ตามสะดวก ภาพที่ถูก Capture จะถูกนำมาวางไว้ในเอกสาร Word ให้เรียบร้อยใช้งานได้ต่อไป

ใช้ภาพวิดีโอแบบออนไลน์

ทางไมโครซอฟท์ได้เปิดช่องทางในการหาไฟล์ภาพออนไลน์ได้จากในตัว Word เพื่อให้คุณสามารถค้นหา คัดเลือกไฟล์ภาพนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามเรื่องของลิขสิทธิ์ไฟล์ภาพที่นำมาใช้ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง นอกจากไฟล์ภาพแล้ว ยังสามารถนำไฟล์วิดีโอเข้ามาประกอบในเอกสารได้ด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า การเผยแพร่ไฟล์งานไม่ได้เป็นแค่สั่งพิมพ์เท่านั้น แต่สามารถทำเป็นไฟล์ดิจิตอลอ่านจากดีไวซ์ต่างๆ การมีไฟล์วิดีโอได้ช่วยให้เอกสารมีความสมบูรณ์ในการอ้างอิง และสื่อสารมากขึ้น

1. การค้นหาภาพออนไลน์ ให้คลิกไปตรงแท็บ INSERT คลิกที่ปุ่ม Online Pictures ตามด้วยการพิมพ์คีย์เวิร์ดภาพที่ต้องการค้นหา แล้วรอดูผลลัพธ์การค้นหาภาพ หากต้องการภาพไหน ก็เพียงแค่คลิกเลือกภาพนั้น ตามด้วยการคลิกปุ่ม Insert (รูป 8)

Word 2013 ตอนที่ 4
รูปที่ 8

2. สำหรับไฟล์วิดีโอ ให้คลิกไปตรงปุ่ม Online Video Media โดยมีแหล่งให้นำไฟล์วิดีโอเข้ามาใช้งานได้ คือ (รูป 9)

– Bing Video Search ใช้คีย์เวิร์ดค้นหาไฟล์วิดีโอตามต้องการจากอินเทอร์เน็ต
– Youtube ใช้คีย์เวิร์ดค้นหาไฟล์วิดีโอจาก Youtube
– From a Video Embed Code กรณีที่มีโค้ดภาษาของไฟล์วิดีโอ สามารถนำมาวางไว้ตรงนี้

Word 2013 ตอนที่ 4
รูปที่ 9

3. ตัวอย่างการใช้ Embed Code เป็นการขอดูโค้ดจากไฟล์วิดีโอใน Youtube ให้คลิกไปตรง Embed ซึ่งจะได้โค้ดของไฟล์วิดีโอตัวนั้น ให้ก๊อบปี้แล้วนำมาวางไว้ในช่อง Form a Video Embed Code (รูป 10)

Word 2013 ตอนที่ 4
รูปที่ 10

เป็นอย่างไรบ้างครับ กับฟีเจอร์ที่หลายท่านอาจจะยังไม่เคยเรียกออกมาใช้งาน ลองใช้ดูนะครับ ได้ประโยชน์มากจริงๆ ..สวัสดีครับ

=== คำถาม ===

  1. สามารถตัดรูปภาพให้ไปอยู่ในกรอบที่ต้องการได้ด้วยวิธีไหน เช่น มีกรอบเป็นรูปหัวใจ
  2. ภาพที่ตัดเข้าไปไว้ในกรอบ สามารถทำเอฟเฟ็กต์อะไรต่อได้บ้าง

=== คำตอบ ===

  1. คลิกเลือกรูปภาพ ตามด้วยการคลิกไปตรงแท็บ PICTURE TOOLS คลิกตรงปุ่ม Crop To Shape แล้วเลือกรูปทรงเป็นรูปหัวใจ
  2. หลังจากตัดภาพเข้ามาอยู่ในรูปทรงตามต้องการแล้ว สามารถใส่เส้นให้กรอบ โดยคลิกไปที่ปุ่ม Picture Border และใส่เงา ทำภาพนูนได้ด้วยการคลิกที่ปุ่ม Picture Effects
เรียบเรียงโดย นิพนธ์ กิตติปภัสสร
อ่านย้อนหลังตอนที่แล้ว คลิกที่นี่ >> Word 2013 <<

 

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here