ไมโครซอฟท์ประกาศหนักแน่นว่าในวันที่ 8 เมษายน 2557 จะหยุดสนับสนุน Windows XP อย่างเป็นทางการ หลังโลดแล่นในตลาดคอมพิวเตอร์มายาวนานกว่า 12 ปี ซึ่งนั่นแปลว่าใครที่ยังใช้ Window XP อยู่ ก็จำเป็นต้องหันไปใช้ Windows 7, Windows 8 หรือ Windows 8.1 แทน นอกจากนี้แล้วโปรแกรมรุ่นเก๋าอย่าง Microsoft Office 2003 ก็จะได้รับผลพวงไปด้วย โดยหากใครที่ยังดื้อดึงไม่ยอมเปลี่ยนอีกล่ะก็ ก็อาจจะต้องพบเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ………..
1. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากไมโครซอฟท์ออกมาบอกเลยว่าการหยุดสนับสนุน Windows XP ก็เพราะพวกโจรขโมยข้อมูลหรือเหล่าแฮกเกอร์สมัยนี้จะสบโอกาสใช้ช่องโหว่ของซอฟต์แวร์เมื่อในขณะที่เราเปิดใช้อินเตอร์เน็ตหรือดาวน์โหลดโปรแกรม แอบฝังไวรัส สปายแวร์และมัลแวร์ต่างๆ เพื่อเข้ามาขโมยข้อมูลส่วนตัวโดยที่เราไม่รู้ตัว และหากเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจขององค์กรด้วยแล้วละก็ ยิ่งสร้างความเสียหายให้มากขึ้นไปอีก
2. ซอฟต์แวร์ต่างๆที่สนับสนุน Windows XP จะเริ่มหายากมากขึ้นหรือซอฟต์แวร์บางตัวไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ รวมไปถึงจะไม่การปล่อยอัพเดตออนไลน์เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาในส่วนใดๆ ของ Windows XP หรือ Office 2003 อีกต่อไป
3. การใช้ Windows XP ยังสะท้อนให้เห็นการเห็นถึงการใช้ฮาร์ดแวร์ที่เก่าไปแล้วสำหรับในปัจจุบัน ฉะนั้นการใช้งานต่อไปในอนาคตอาจไม่ราบรื่น จนกลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้งานส่วนตัวหรือกระทบต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กรได้
จากข้อมูลที่ผมรายงานไปนี้เพื่อเป็นการให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ตระหนักถึงความสำคัญของการอัพเดต Windows XP สู่ Windows 7, Windows 8 หรือ Windows 8.1 ตลอดจนโปรแกรม Office เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งผมก็เข้าใจล่ะครับว่าการเปลี่ยนแปลงหน้าตาการใช้งานย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บางรายที่จะต้องมาเรียนรู้การใช้งานใหม่และไม่อยากเปลี่ยนเพราะความเคยชินจากการใช้งานมายาวนานนั่นเอง
อย่างไรก็ดีการอัพเดตสู่สิ่งที่ดีว่าย่อมนำมาซึ่งผลดีในหลายๆด้าน ทั้งในแง่ของความปลอดภัย ซอฟต์แวร์ต่างๆที่จะมีการอัพเดตอยู่เรื่อยๆ รวมไปถึงส่วนติดต่อกับผู้ใช้ที่จะเข้าถึงได้ง่าย สะดวกและรวดเร็วมาขึ้นตามไปด้วย
แน่นอนว่าเป้าหมายของไมโครซอฟท์คืออย่างน้อยๆคือการดึงให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์เปลี่ยนมาใช้ Windows 7 ให้มากที่สุด แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการชักชวนให้ผู้ใช้หันมาใช้ Windows 8.1 นั่นเอง