เรื่องน่าเศร้าเมื่อ Windows 11 มีสัดส่วนการใช้งานลดลงเหลือเพียง 25% ซึ่งเป็นยอดที่ร่วงต่อเนื่องจากเดือนที่แล้ว
ข้อมูลจาก Statcounter ชี้ว่า หลังจาก Microsoft วางจำหน่าย Windows 11 มานานสองปีครึ่งแล้ว แต่สัดส่วนการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 ทั่วโลกยังไม่ถึง 30% แม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเล็กน้อยในผลสำรวจจากแพลตฟอร์มเกมอย่าง Steam
นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2021 Windows 11 มีการเติบโตแบบช้าๆ แต่ต่อเนื่อง จนกระทั่งมีสัดส่วนการใช้งานสูงสุดที่ 28.16% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้น สัดส่วนการใช้งานก็ลดลงประมาณสองและครึ่งเปอร์เซ็นต์
ความต้องการสเปคคอมพิวเตอร์ที่ค่อนข้างสูงของ Windows 11 อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้มีผู้ใช้งานน้อย และการอัปเดตครั้งใหญ่ครั้งต่อไปของระบบปฏิบัติการนี้ในปลายปีนี้อาจส่งผลกระทบแย่ลงไปอีก เนื่องจาก Windows 11 เวอร์ชั่น 24H2 จะรองรับเฉพาะซีพียูที่มีคำสั่ง POPCNT และ SSE4.2 ซึ่งตัดเครื่องรุ่นเก่าหรือเครื่องที่พยายามแอบลงออกไปจำนวนมาก
และน่าเสียที่แพทซ์ 24H2 จะมีการนำเสนอฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากมาย รวมถึงผู้ช่วยอัจฉริยะ Copilot ที่ได้รับการพัฒนาแบบขั้นสูงขึ้น และอาจมีการใช้หน่วยประมวลผลประสาทเทียม (NPU) เพื่อทำงานโดยลดการพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ และจะมีระบบรองรับ Wi-fi 7 ด้วย
อีกปัจจัยที่อาจส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้คือ การที่ Microsoft พยายามที่จะใส่โฆษณาลงในเมนู Start ซึ่งการอัพเดทเสริมในตอนนี้ ได้เพิ่มส่วนแนะนำ หรือ recommended ที่เป็นแอปพลิเคชั่นจากผู้พัฒนาที่ไมโครซอฟท์คัดเลือกไว้
ส่วนตัวมองว่า แม้ว่า Windows 11 จะใช้งานได้สะดวกขึ้นแล้ว หลังจากมีการแก้บักหรือปัญหาบางอย่างออกไป แต่ผู้ใช้หลายคน อาจจะยังไม่รู้สึกว่า Windows 10 นั้นล้าสมัย เพราะเกมและโปรแกรมส่วนใหญ่ยังคงรองรับอยู่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า Windows 11 อาจจะมีฟีเจอร์บางอย่างที่เหนือกว่า เช่น เรื่องของ HDR หรือ AI
คนอื่นล่ะ คิดยังไง ?
ที่มา
techspot