เทรนด์หน้าจอสมาร์ทโฟนในอัตราส่วน 18:9 ดูท่าจะฮิตกันไม่น้อย เพราะแม้แต่สมาร์ทโฟนในราคาไม่เกิน 6,000 บาท ก็ขอลิ้มลองเดินทางตามเทรนด์บ้าง Wiko View XL ถือเป็นหนึ่งในนั้นครับ และวันนี้ผมเองก็ไม่พลาดหยิบเครื่องรุ่นดังกล่าวมาบอกเล่าสู่กันฟัง จะมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร อ่านรีวิวนี้กันได้เลยครับ
สเปค Wiko View XL
- ขนาดตัวเครื่องโดยรวม ขนาด: 158.1 x 76.5 x 8.2 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 171 กรัม
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 720 พิกเซล อัตราส่วน 18:9
- ใส่ได้ 2 ซิม ประเภท Nano SIM
- ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.2 Nougat
- ชิพประมวลผล Qualcomm Snapgragon 425 แบบ Quad Core ความเร็ว 1.4GHz
- แรม 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ microSD card ความจุสูงสุด 128GB
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, แฟลช LED,
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมแฟลช Soft Light
- มีสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มด้านหลังเครื่อง
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
- ราคา 5,990 บาท
ตัวเครื่อง
ใครที่เห็นสเปคขนาดหน้าจออย่าเพิ่งตกใจครับว่า 5.99 นิ้ว จะใหญ่จนพกใส่กระเป๋ากางเกงลำบาก ซึ่งการออกแบบหน้าจอในอัตราส่วน 18:9 ตัวเครื่องจะมีออกแนวผอมสูง สมส่วน เพื่อให้การหยิบถือนั้นมีความง่ายและสะดวกกับการพกพา
ความละเอียดหน้าจอไม่สูงมากครับ อยู่ที่ 1440 x 720 พิกเซล หรือ HD+ เป็นไปตามความเหมาะสมกับราคา แต่สิ่งที่ได้มาก็ถือว่าเพียงพอต่อใช้งานทั่วไปครับ ส่วนปุ่มโฮม, ปุ่ม back และปุ่ม recent app เป็นแบบ on screen หรืออยู่ในตำแหน่งท้ายสุดบนหน้าจอครับ
หันมาชมด้านหลังกันบ้าง วัสดุที่ใช้เป็นโลหะตามสไตล์การออกแบบสมัยนี้ ประกอบไปด้วยกล้องหลัง, แฟลช, สแกนลายนิ้วมือ ปิดท้ายด้วยโลโก้ Wiko ส่วนรูเล็กๆ ที่เห็นอยู่เหนือกล้องหลังทำหน้าที่เป็นไมโครโฟนตัดเสียง และแทบเส้นที่เห็นจะเป็นตัวรับสัญญาณครับ
ส่วนอื่นๆ ที่เราควรรู้อย่างช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ยังมีมาให้อยู่บนสุดของตัวเครื่อง พอร์ตที่ใช้เป็น Micro USB 2.0 และใส่ได้ 2 ซิม ประเภท Nano SIM
กล้อง
กล้องหลังมากับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เลนส์มีลักษณะนูนออกมาเล็กน้อย มีระบบ Auto Focus มาให้ พร้อมโหมดอื่นๆ ให้เลือก ได้แก่ ซุปเปอร์พิกเซล (การถ่ายภาพความละเอียดสูงถึง 52 ล้านพิกเซล ขนาด 4160 x 3120 พิกเซล), โหมดหน้าสวย, ถ่ายภาพมืออาชีพ (โหมดโปร), ถ่ายภาพพาโนรามา, ถ่ายภาพกลางคืน, QR Code, ถ่ายเร่งความเร็ว (Time lapse) และถ่ายภาพบุคคล ซึ่งการเข้าถึงโหมดเหล่านี้ทำได้ง่ายครับ เช่นเดียวกับเมนูการตั้งค่า สามารถเลือกได้จากแถบ UI ด้านบนของแอปฯ กล้อง ส่วนการถ่ายวีดีโอมีให้เลือกตั้งแต่ความละเอียด 1080p, 720p และ 480p ครับ
UI ของกล้องหลัง
ในส่วนของเมนูการตั้งค่ายังมีโหมดให้เลือกปรับเลือกใช้กันได้อีกพอสมควรครับ ยกตัวอย่าง ขนาดของภาพที่ปกติจะกำหนดให้ใช้ความละเอียดสูงสุดที่ 13 ล้านพิกเซล ในอัตราส่วน 4:3 แต่หากใครที่อยากใช้คุณสมบัติของอัตราส่วน 18:9 ก็สามารถปรับเลือกใช้ได้ครับ เพียงแต่ความละเอียดจะลดเหลือเพียง 8 ล้านพิกเซลเท่านั้น
UI ของกล้องหน้า
กล้องหน้าจัดว่าเป็นอีกจุดเด่นถัดจากหน้าจอ 18:9 ก็ว่าได้ครับ เพราะให้ความละเอียดมาถึง 16 ล้านพิกเซล อัตราส่วน 4:3 สามารถปรับรูปแบบการถ่ายเป็นอัตราส่วน 18:9 ได้ เช่นเดียวกับกล้องหลัง แต่ความละเอียดก็จะลงเหลือเพียง 10 ล้านพิกเซล ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ยังถือว่าสูงกว่ากล้องหน้าในสมาร์ทโฟนบางรุ่นครับ
ตัวอย่างภาพกล้องหลัง
อัตราส่วน 4:3
อัตราส่วน 18:9
ซอฟต์แวร์
Wiko View XL ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat ใช้ UI ของ Wiko ครอบทับอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งหน้าตายังคงยึด Android เป็นหลักด้วยความเรียบง่าย ไม่ได้ยัดฟีเจอร์มามากจนเกินความจำเป็น มี Smart Action หรือการใช้ท่าทางเพื่อเรียกเข้าถึงการแจ้งเตือนและปฏิเสธการโทร หรือจะเป็นการวาดตัวอักษรภาษาอังกฤษเพื่อเรียกใช้แอปฯ ก็มีมาให้เช่นกัน
รีวิว Wiko View XL กับบทสรุป
ในด้านดีไซน์นับว่ามีความสมดุลลงตัวครับ หน้าจอในอัตราส่วน 18:9 ช่วยให้การรับชมความบันเทิงได้กว้างขึ้น ขนาดตัวเครื่องไม่เป็นอุปสรรคเท่าไหร่ต่อการหยิบจับหรือพกใส่กระเป๋ากางเกง กล้องหลังถ่ายใช้ได้ครับ สามารถเก็บภาพวิวในมุมกว้างได้ดี แต่เหมาะกับการถ่ายในสภาพแสงปกติมากกว่าช่วงแสงน้อยครับ
ภาพรวมจัดว่าการใช้งานอยู่ระดับดีครับ ในราคา 5,990 บาท ซึ่งก็ถือเป็นเป็นทางเลือกหนึ่งที่่น่าสนใจสำหรับคนไม่เน้นของแพงครับ