VPN นั้นมีมานานมากแล้ว แต่ที่พึ่งมาฮิตตอนนี้อาจเป็นเพราะบ้านเรารู้จักการใช้งาน VPN มากขึ้น สาเหตุน่าจะมาจากเหตุการณ์บ้านเมืองที่ไมค่อยดีนัก ทำให้หลายคนต้องการซ่อนตัวตนของตน และอีกส่วนก็ต้องการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบล็อคไว้
ตามหัวข้อเรื่องแล้ว มีอยู่สองประเด็นหลัก ๆ นะ ว่า 1.1.1.1 คืออะไร แล้ว VPN เข้ามาเกี่ยวกับข้องยังไง ผมจะขออธิบายทีละหัวข้อแบบภาษาบ้าน ๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายหน่อยละกัน
1.1.1.1 เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับเปิด VPN จากผู้ให้บริการชื่อ Cloudfare ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการระบบ Network ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเจ้าหนึ่ง และเค้าได้เปิดตัวแอป 1.1.1.1 มาให้สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเรา ๆ ตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว สามารถใช้ได้ iOS Android Windows หรือแม้แต่ MAC
ส่วน VPN คืออไร ถ้าให้พูดแบบเข้าใจง่าย ๆ มันเหมือนตัวแปลงชื่อเรา ให้เป็นชื่อใครก็ไม่รู้ อยู่ที่ใดก็ไม่ทราบ สามารถใส่หน้ากากท่องในโลก Internet ได้อย่างปลอดภัย ไม่มีใครติดตาม ไม่มีโฆษณามาหา ข้อมูลไม่หลุดไปไหน
เพราะในความเป็นจริง เวลาเราไปขอติดเน็ตบ้านกับผู้ให้บริการอย่าง ทรู เอไอเอส หรือ 3bb เค้าก็จะให้ชื่อ (IP Address) เรามา เวลาเราเล่นเน็ตด้วยชื่อนี้ ผู้ให้บริการ (ISP) เค้าก็รู้ว่า เราชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน อยู่ในประเทศไหน และเราไม่มีทางรู้เลย หากเค้าหรือพนักงานของเค้าแอบเอาข้อมูลเราไปขาย
แต่ถ้าเราเปิด VPN มันจะแปลงชื่อเราเป็นชื่ออื่น มาจากสถานที่อื่น ที่ผู้ให้บริการก็ไม่รู้ว่าชื่อที่เราใช้ คือตัวตนของเราจริง ๆ หรือเปล่า โดยจะสุ่มไปตามเซิฟเวอร์ของผู้ให้บริการ VPN ที่มีอยู่ทั่วโลก และเพื่อให้เข้าใจง่าย ลองดูภาพด้านล่างครับ
แต่หากไม่มี VPN เราเชื่อมต่อตรง ๆ ไปที่เว็บไซต์เลย
ผมได้เปิดลองเปิดใช้งาน VPN แล้วแล้วทดสอบดูว่า ผมจะไปโพล่อยู่ที่ใดของโลกนี้
- ในภาพที่ 1 ไม่ได้เปิด VPN ผมอยู่ที่กรุงเทพปกติ
- ในภาพที่ 2 ลองเปิดใช้งาน VPN ผมไปโพล่อยู่ที่สิงค์โปร์ ซึ่งก็ได้ปิดบังที่อยู่หรือ IP Address ของผม และผู้บริการอินเทอร์เน็ตหรือ ISP ก็จะมองเห็นว่าผมมาจาก Singapore โดยหากเขาจะตรวจสอบ ก็ต้องขอเอกสาร ขออนุญาตไปทางสิงค์โปร์ กว่าจะเจอก็กินเวลาไปหลายวัน ทำให้ข้อมูลผมอาจถูกลบออกไปแล้ว
นอกจากนี้ ความสามารถของ VPN อีกอย่างคือ เราสามารถเข้าเว็บที่ถูกบล็อคได้
ยกตัวอย่างเว็บไซต์ change.org ที่ถูกบล็อคไม่ให้เข้าโดยผู้ให้บริการ (ISP) ในบ้านเรา หากเราใช้เน็ตแบบปกติที่มีชื่อ (IP Address) มาจากประเทศไทย ก็จะถูกบล็อค แต่หากเราเปิด VPN แล้วแปลงชื่อว่าที่มาจากสิงค์โปร เราก็เข้าเว็บนั้นได้ปกติ แล้วทำได้จริงไหม ไปดูในวีดีโอด้านล่างกันครับ
จะเห็นว่าทำได้จริงนะครับ ขออธิบายเพิ่มเติมในในวีดีโอและใช้ Edge เปิดเข้าเว็บเดิม แต่ทำไมเข้าไม่ได้ นั่นเพราะติด Cache ที่ยังจำค่าเดิมอยู่ แต่พอเข้าจากบราวเซอร์อื่น ก็เข้าได้ปกตินะครับ
Cache หรือแคช เป็นหน่วยความจำของเว็บ จะจำว่าเราเคยเข้าเว็บไหนไว้และหน้าเว็บนั้นแสดงผลยังไง เพื่อที่เวลาเข้าใหม่จะได้เข้าเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ข้อเสียก็คือ หากมีการเปลี่ยนแปลง มันจะไม่ได้เปลี่ยนทันที ต้องรอสักพัก
ทำไม 1.1.1.1 ถึงได้รับความนิยม
ปัจจุบันมีผู้ให้บริการ VPN หลายราย แต่ผู้บริการที่เชื่อถือได้และมีเซิฟเวอร์อยู่ที่โลกคือ Cloudfare โดย 1.1.1.1 เป็นโปรดักส์ที่ออกมาให้สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ใช้ง่ายและราคาถูก โดยมีค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 59 บาท เท่านั้น เอาจริง ๆ ข้าวบางมื้อยังแพงกว่าอีก
โดย Cloudfare ยืนยันว่า จะไม่เอาข้อมูลเราไปขาย ไม่มีโฆษณา และข้อมูล IP Address เราจะถูกลบหลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง เรียกได้ว่า หากบ้านเราใครต้องการจะตรวจสอบ ก็ต้องดำเนินเอกสารและทำเรื่องไปถึงต่างประเทศให้เสร็จก่อน 1 ชั่วโมงเท่านั้น (คิดว่าทำได้ไหมล่ะ)
และทั้งหมดนี้ คือเรื่อง VPN และ Cloudfare แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกทุกคนไว้ สำหรับใครที่ต้องการจะซ่อนตัวตนของตัวเอง หากเปิด VPN แต่ยังโพสต์รูปส่วนตัว โพสต์ชื่อจริง นามสกุลจริง หรือรูปถ่ายตัวเองชัด ๆ VPN ก็ไม่มีผลอะไรนะครับ ยังไงก็ตามตัวได้ตามข้อมูลส่วนตัวอยู่ที่ ฝากไว้ให้คริสสสสส!!!
