ช่วงนี้ใครที่กำลังหาซื้อโน้ตบุ๊คหรือจอ Monitor ใหม่ เราอาจจะเห็นโลโก้ปริศนาอย่าง “Delta E” หรือรูปไอคอนสามเหลี่ยมและตัว “E” กับน้อยกว่า “<” ตามด้วยตัวเลข 1 – 3 เช่น Delta E < 3 หลายคนอาจส่งสัยว่ามันคืออะไร มีแล้วส่งผลอะไรกับหน้าจอ เดี๋ยววันนี้มาไขคำตอบแบบง่าย ๆ กันครับ
สำหรับตัว Delta E หรือ DE ก็คือหน่วยชี้วัดมาตรฐานค่าความต่างหรือผิดเพื้ยนของสี (จากสายตาคนเรา) โดยอ้างอิงความถูกต้องของสีจาก CIELAB หรือ L*a*b (ส่วน CIELAB กับ L*a*b คืออะไรนั้น ต้องขอข้ามไปก่อนไม่งั้นยาวแน่ ตอนนี้เอาแค่ตัว Delta E ก่อนนะครับ)
เราอาจจะได้ยินคำว่า ‘จอสีเพื้ยน’ ซึ่งก็มาจากจอ Monitor ที่เราใช้ ๆ กันอยู่มักจะแสดงสีได้ไม่ค่อยตรงกับของจริงเท่าไรนัก ความต่างอาจจะเห็นได้ชัดตอนสั่งปริ้นงาน
คำถามคือ ?
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจอ Monitor นั้น ๆ สามารถแสดงสีได้ตรงกับของจริงขนาดไหน ?
ตัว Delta E จึงเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้เอง
Delta E ในที่นี้คือ หน่วยวัดมาตรฐานการแสดงผลในจอ Monitor ซึ่ง “ยิ่งมีค่าน้อยเท่าไรยิ่งดี” หรือให้กล่าวจริง ๆ คือ ยิ่งตัวเลขน้อยเท่าไร ก็แสดงว่าจอ Monitor นั้นมีค่าความผิดเพื้ยนของสีน้อยเท่านั้น
เช่นระดับ Delta E < 3 หรือ Delta E < 2 ถือว่าน้อยจนสายตาเรามองแทบไม่ออกเลยว่า มันต่างกับของจริงขนาดไหน
จุดนี้เอง หากเป็นผู้ใช้ทั่วไปคงไม่ส่งผลอะไรมาก แต่สำหรับคนที่ทำงานด้านกราฟฟิกหรืองานออกแบบ ถ้าจอ Monitor ที่ใช้อยู่แสดงสีเพื้ยน ก็ยิ่งทำให้งานออกมาเพื้ยนตาม ดังนั้นจอ Monitor ที่คนเหล่านี้ใช้ จึงควรเป็นจอที่สามารถแสดงค่าสีได้แม่นยำสูง
ตัวอย่างเช่นจอ Monitor ที่มีค่า Delta E ระดับ 3 หรือ 2 ก็ถือว่าน้อยมาก ๆ แล้ว แต่ถ้าจอไหนมี Delta E < 1 นั้นหมายความว่าจอ Monitor นั้น สามารถแสดงสีสันได้ผิดพลาดน้อย น้อยสุด ๆ น้อยจนเรามองไม่ออกว่ามันต่างกับของจริงยังไง ถือเป็นจอที่ระดับมืออาชีพใช้กัน
แต่ก็แน่นอนว่า Delta E ยิ่งน้อย (โดยเฉพาะ Delta E < 1) ราคาก็ยิ่งสูงตามนั้นเองครับ : b