แนะนำ 10 ทีวี LED จอ 40 นิ้วขึ้นไป ขนาดกำลังดี และราคาไม่แรง เตรียมพร้อมไปงาน HomePro Home Electric Super Sale วันที่ 17 – 26 สิงหาคม 61 นี้ ณ ไบเทคบางนา
ต่อจากบทความ “แนะนำ 10 เครื่องใช้ไฟฟ้า กับวิธีเลือกซื้ออย่างไร ให้ตรงใจเรามากที่สุด” ที่ผมบอกว่า ‘ทีวี’ เป็นเครื่องไฟฟ้ายอดนิยม ที่มีติดกันแทบทุกบ้าน ต่อไปลองมาดู 10 ทีวีน่าสอยประจำปี 2018 กันครับ โดยผมขอคัดทีวีหน้าจอ 40 นิ้วขึ้นไป (ไม่เกิน 50 นิ้ว) ที่คิดว่าเป็นขนาดไม่เล็กเกินไป กับมีราคากำลังดี สำหรับบ้านอยากมีทีวี LED ติดสักตัว และเผื่อเจอในงาน HomePro Home Electric Super Sale ในวันที่ 17 – 26 สิงหาคม 61 นี้ ณ ไบเทคบางนา
Samsung NU7100
เป็นทีวีซีรีย์ใหม่ล่าสุดจาก Samsung ที่เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปี 61 โดยแบ่งเป็น NU8500, NU8000, NU7300 และรุ่น NU7100 ที่แนะนำนี้เอง ก็เป็นรุ่นขนาดจอ 40 นิ้ว (สูงสุด 75 นิ้ว) จุดเด่นคือ ความละเอียดระดับ 4K รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ และฟีเจอร์ Game Mode โหมดปรับภาพให้เหมาะกับการเล่นเกมด้วย ซึ่งน่าจะถูกใจคอเกมในยุคนี้พอควร ส่วนราคาก็อยู่ที่ประมาณ 16,990 บาท
Samsung MU6300
เป็นทีวี 4K แต่ขนาด 49 นิิ้ว นับเป็นอีกทางเลือกจาก NU7100 ส่วน MU6300 รุ่นนี้ ก็ถือเป็นทีวีซีรีย์ยอดฮิตของ Samsung เลย โดยตัวมันก็มีฟีเจอร์พิเศษที่เรียกว่า PurColour ช่วยแสดงสีสันได้แม่นยำสมจริงยิ่งขึ้น กับมี UHD Dimming ช่วยปรับคอนทราสต์ให้อัตโนมัติ และดีไซน์บางเฉียบ ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 15,490 บาท
Sony KD43X720E
ต่อไปลองมาดูแบรนด์ Sony กันบ้าง รุ่นนี้ก็เป็นทีวี 4K อีกแล้ว โดยมาพร้อมขนาด 43 นิ้ว ความพิเศษคือมี X-Reality PRO เป็นชิปช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงผลระดับ 4K ได้ดียิ่งขึ้น จอ Triluminos เทคโนโลยีแสดงผลเฉพาะตัวของ Sony (ในสมาร์ทโฟนของ Sony ก็มีด้วยนะ) และมี Edge-lit LED ช่วยเพิ่มความสว่าง ราคาอยู่ที่ 499 เหรียญฯ (อิงจากเว็บ Sony) หรือประมาณ 16,700 บาท
Sony X800E
อัพเกรดสเปกขึ้นมาหน่อย ในขนาดจอที่ 43 เหมือนเคย สำหรับฟีเจอร์เด่น ๆ ก็มีชิป 4K X-Reality PRO กับจอแสดงผล TRILUMINOS เหมือน 720E แนะนำไป ส่วนรุ่นนี้มีจอแสดงผล TRILUMINOS ส่วนความแตกต่าง รุ่นนี้จะมีเทคโนโลยี Live Colour ช่วยความสดของสี และ Motionflow XR 200 (50Hz) ช่วยเพิ่มการแสดงผลภาพเคลื่อนไหวแบบเร็ว ๆ ได้ดีขึ้นในระดับ เหมาะสำหรับดูหนัง Action หรือเล่นเกมยิ่งขึ้น ราคาอยู่ที่ 20,990 บาท
LG 43UK6300
มาฝั่ง LG กันบ้าง สำหรับแบรนด์นี้ จากที่เคยสำรวจมา มักจะชอบทำทีวีราคาคุ้มสเปก เป็นมิตรสำหรับใครที่อยากได้ทีวี 4K ในราคาไม่โหดมากนั้นเอง และแน่นอนว่ารุ่นที่แนะนำนี้ ก็เป็นทีวี 4K โดยมาพร้อมความพิเศษอย่าง AI ThinQ ระบบ AI ในตัว ช่วยปรับการแสดงผลต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับ Content นั้น ๆ ได้เองอัตโนมัติ นอกจากนี้ก็มีฟีเจอร์ช่วยอำนวยการแสดงผล 4K อย่าง 4K Ultra HD Resolution กับ 4K Active HDR ด้วย และราคาก็อยู่ที่ประมาณ 16,990 บาท
LG 43LJ5500
แนะนำทีวี 4K มาเยอะแล้ว ลองมาดูทีวี 1080P หรือความละเอียด Full HD กันบ้างอย่าง LG 43LJ5500 ในขนาด 43 นิ้ว กับสเปกที่ไม่ธรรมดา อาทิ Color Master Engine ระบบช่วยประมวลผลสีสันและปรับภาพให้เหมาะกับ Content ที่แสดงอยู่ Resolution Upscaler ช่วยยกระดับความคมชัดของภาพหรือ Content ระดับ HD/SD (720P) ให้มีความคมชัดใกล้เคียงกับระดับ Full HD มากที่สุด ราคา 18,990 บาท
TCL 43S517
ลองมาดูแบรนด์ TCL ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี ในเรื่องของความถูกคุ้มค่าแบบสุด ๆ เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น สำหรับรุ่น TCL 43S517 ก็เป็นทีวี 4K จอ 43 นิ้ว มี Dolby Vision HDR10 , Wide Color Gamut และ HDR Dynamic Contrast ในราคาแค่ 379 เหรียญฯ หรือประมาณ 12,700 บาท เท่านั้น
Vizio D40-D1
อีกทางเลือกจาก TCL ก็มีแบรนด์ Vizio รุ่น D40-D1 เป็นทีวี Full HD จอ 40 นิ้ว ซึ่งมีขนาดจอเล็กกว่าก็จริง แต่รุ่นนี้มี Full-Array LED คล้าย ๆ กับ Edge-lit LED ใน Sony KD43X720E ด้วย มี Clear Action 240 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงภาพเคลื่อนไหวแบบเร็ว ๆ อีก และราคาก็อยู่ที่ 349 เหรียญฯ หรือประมาณ 12,600 บาท
Panasonic TX-40DX600
กลับเข้าสู่ทีวี 4K อีกครั้งกับ TX-40DX600 ในขนาดจอ 40 นิ้วจาก Panasonic ส่วนฟีเจอร์เด่นก็มี Quad Core Pro ระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง กับมีฟีเจอร์ My Home Screen 2.0 ในระบบปฏิบัติการ Firefox OS ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเรียกใช้งานเมนูต่าง ๆ มี Adaptive Backlight Dimming และพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน ส่วนราคาก็อยู่ที่ 499 ปอนด์ หรือประมาณ 22,000 บาท
Hisense 43N2170PW
ปิดท้ายด้วยรุ่นถูกสุดอย่าง Hisense 43N2170PW เป็นทีวีจอ 43 นิ้ว ความละเอียด Full HD มี VIDAA Smart, DVB-T2 และมี Wireless LAN Built-in ส่วนราคาก็อยู่ที่ 10,990 บาท เท่านั้นครับ