[อัดฉีด] หากพูดถึงศูนย์กลางเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เชื่อว่าหลายคนนึกถึง Silicon Valley (ซิลิคอนวัลเลย์) ที่อยู่ของเหล่าบริษัทไอทีชื่อดังมากมาย ล่าสุดทางฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน และกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้เตรียมจัดตั้งภูมิภาคใหม่ 31 แห่ง ให้กลายเป็น “Tech Hubs” หรือ ศูนย์กลางเทคโนโลยี ซึ่งจะกระจายอยู่ทั่วประเทศ หวังกระตุ้นการลงทุนในเทคโนโลยีให้มากขึ้น
เพื่อทำให้ชุมชนทั่วประเทศกลายเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม นอกเหนือจากศูนย์กลางที่คุ้นเคยอย่าง Silicon Valley , Seattle และ Boston ทาง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ จึงมีแผนจัดตั้งศูนย์กลางเทคโนโลยีแห่งใหม่ถึง 31 แห่ง ซึ่งยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน ความมั่นคง และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย
ในแต่ละศูนย์กลางนั้น จะตั้งอยู่ในเมืองขนาดเล็กหรือขนาดกลาง ซึ่งจะมุ่งเน้นเทคโนโลยีเด่น ๆ อย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) , เทคโนโลยีชีวภาพ , พลังงานสะอาด (EV) , เซมิคอนดักเตอร์ , คอมพิวเตอร์ควอนตัม และอื่น ๆ ซึ่งก็มีเทคโนโลยีน่าสนใจอย่าง วิจัยเชื้อเพลิงเครื่องบินประหยัด , แบตเตอรี่แบบใหม่ และการแพทย์สมัยใหม่
Gina Raimondo รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กล่าวกับสื่อด้วยว่า ศูนย์กลางเทคโนโลยีเหล่านี้ จะช่วยให้คนในพื้นที่ได้งานดี ๆ โดยไม่ต้องย้ายไปอยู่ที่ใหม่ และจะมี 5 ถึง 10 แห่งจะได้รับเงินสนับสนุนสูงถึง 75 ล้านดอลลาร์ฯ หรือราว ๆ 2.7 พันล้านบาท แต่ละจุดสามารถแบ่งปันเงินทุนได้ 500 ล้านดอลลาร์ฯ อิงตามรายละเอียดในกฎหมาย CHIPS และ Science Act ที่ลงนามในปี 2022 ซึ่งเน้นให้ผลิตชิปประมวลและลงทุนงานวิจัยในประเทศมากขึ้น ช่วยลดการว่างงานที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่นั้นเอง
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ อาจส่งผลให้เกิดบริษัทด้านเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งหากประสบความสำเร็จด้วยดี เราจะอาจได้ใช้อุปกรณ์กับบริการใหม่ ๆ หลังจากนี้อีกเพียบ หรืออาจถึงขั้นเกิดบริษัทไอทีเปลี่ยนโลก แบบเดียวกับ Apple , Microsoft และ Google ในปัจจุบันก็เป็นได้
ที่มา : Engadget