ปลดล็อกพลัง AI กับโน้ตบุ๊ก 2-in-1 Lenovo Yoga 9i 14IMH9

Lenovo Yoga 9i 14IMH9

ในยุคที่ AI กำลังมาแรงขั้นสุด  เราจะได้เห็นการนำเทคโนโลยีนี้มาใส่ในโน้ตบุ๊กมากขึ้นเรื่อย ๆ  โดยมีส่วนช่วยทั้งเรื่องของการประหยัดแบตเตอรี่ และช่วยเร่งความเร็วในงานด้าน AI อย่าง Copilot PC หรือฟีเจอร์ในโปรแกรมต่าง ๆ ที่มีการใช้หน่วยประมวลผล AI เข้ามาร่วมด้วยครับ 

Techhub แนะนำ Lenovo Yoga 9i 2-in-1 14IMH9 โน้ตบุ๊กเรือธงล่าสุดจากทาง Lenovo ที่ออกแบบให้มีความเรียบหรู มีสไตล์  สามารถในการทำงานต่าง ๆ ได้ลงตัว และยังปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้งานในรูปแบบ 2-in-1 ได้อีก จะเปลี่ยนเป็นแท็บเล็ตหรือโหมดเต็นท์ก็ทำได้ และยังมีคุณภาพเสียงที่ดีมาก เพราะมาพร้อมซาวด์บาร์จากแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องเสียงระดับโลก ( ลองฟังแล้วเสียงดี สุด ๆ เลยล่ะ)


จุดเด่นของโน้ตบุ๊กรุ่นนี้ คือมาพร้อมกับชิปใหม่ล่าสุดอย่าง
Intel® Core™ Ultra  ที่จะทำให้การทำงานทุกอย่าง เป็นไปอย่างราบลื่น   

การออกแบบของ Lenovo Yoga 9i 2-in-1 14IMH9  จะเน้นความโค้งมนที่สวยงาม ซึ่งแตกต่างจากโน้ตบุ๊กทั่วไปที่มักจะมีขอบเหลี่ยม ทำให้การวางมือขณะพิมพ์นานๆ รู้สึกสบายข้อมือมากกว่า 

และ Lenovo ยังได้ติดตั้งลำโพง Bowers & Wilkins จำนวน 4 ตัว ไว้ที่บานพับเปรียบเสมือนเป็น Sound Bar และด้านล่างของตัวเครื่องอีกสองจุด ทำให้เสียงที่ออกมาดีที่สุดเท่าที่เคยได้ยินจากโน้ตบุ๊กรุ่นอื่น ๆ มาเลย โดยหากเมื่อเราปรับเป็นโหมด “เต็นท์” เพื่อใช้ดูหนัง เสียงจะยิ่งสมจริงมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ

นอกจากนี้  Lenovo Yoga 9i 2-in-1 14IMH9 ได้ถูกออกแบบให้เป็นโน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งวัน ไม่ต้องพกอะแดปเตอร์ออกไปชาร์จให้ยุ่งยาก นิ่งชิว ๆ ทำงานที่ร้านกาแฟอย่างมีสไตล์ เบื่อ ๆ ก็เปลี่ยนโหมดเป็นแท็บเล็ตใช้ดูหนังได้

ก่อนจะเข้าเนื้อหาหลัก เราอยากพาทุกคนไปดูเทคโนโลยีล่าสุดจาก Intel ที่ใส่ในโน้ตบุ๊กเครื่องนี้กัน บอกเลยว่ามันได้เข้ามาปฏิวัติวงการ UItrathin ไปอย่างสิ้นเชิง

ชิปประมวลผลที่ใส่มา คือรุ่น Intel® Core™ Ultra 7 155H ขนาด 16 Cores (6P + 8E + 2LPE) / 22 Threads หลายคนอาจจะคุ้นคำว่า Core กับ Thread แต่ LPE คืออะไรกัน 

LPE cores Low Power Efficient cores ซึ่งเป็นคอร์ประมวลผลที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานต่ำ ออกแบบมาเพื่อช่วยให้โน้ตบุ๊กสามารถทำงานพื้นหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานมากเกินไป เช่น การอัปเดตซอฟต์แวร์ หรือการซิงค์ข้อมูล ทำให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นขณะใช้งานอีกด้วย ซึ่งนี่คือหนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้ใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องพึ่งอะแดปเตอร์

สำหรับ Intel® Core™ Ultra เป็นซีพียู (CPU) เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุดจาก Intel ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับโน้ตบุ๊กระดับพรีเมียมโดยเฉพาะ โดยมีจุดเด่นสำคัญคือ  สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมไฮบริด 3D Performance Hybrid Architecture ที่ผสานรวม P-Core (Performance Core) และ E-Core (Efficient Core) เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้นและการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า

ทำให้ไม่ว่าจะทำงาน วิดีโอคอล งานครีเอทีฟสร้างสรรค์ หรือเล่นเกม Intel® Core™ Ultra สามารถช่วยสร้างความเป็นไปได้ทั้งหมด และยังใช้พลังงานต่ำอีกด้วย

ชิปดังกล่าว ยังรองรับเทคโนโลยี Thunderbolt™ 4 ในตัว รองรับการเชื่อมต่อจอ แสดงผลหลายจอ พื้นที่เก็บข้อมูล การชาร์จ และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ ได้ รวมทั้งยังรองรับ Intel® WiFi 7 และ Intel® Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.4 และ 5.3 ให้ประสิทธิภาพไร้สายที่เต็มเปี่ยม และช่วยให้การทำงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างไหลลื่น

นอกจากนี้ ยังมาพร้อม NPU ในตัว หน่วยประมวลผลเฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อทำงานเกี่ยวกับ AI และ Machine ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจและใช้งานได้ยาวนานขึ้นต่อวัน นับเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นแรกที่มี CPU, NPU และ GPU แยกกันโดยเฉพาะ

Intel® Core™ Ultra ยกระดับ AI ไปอีกขั้น ด้วยความสามารถในการสร้างภาพหรือเพลงจากข้อความ หรือปรับปรุงรูปภาพและวิดีโออย่างเหนือชั้นในไม่กี่คลิก ในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวโดยเก็บข้อมูลของเราไว้ในเครื่องครับ และด้วยประสบการณ์ของ Intel เขามั่นใจว่า ชิปตัวนี้จะช่วยเร่งความเร็วให้กับแอปที่เราใช้งานได้เป็นอย่างดี 

ภายในยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Intel® AI Boost ซึ่งจะช่วยเร่งความเร็วงานที่เกี่ยวข้องกับ AI ให้ทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ใช้พลังงานต่ำลง

 ในขณะที่ Intel® Gaussian & Neural Accelerator จะถูกใช้เพื่อประมวลผลแอปพลิเคชันคำพูดและเสียงของ AI และก็ลดการใช้ทรัพยากรของ CPU เพื่อประสิทธิภาพและการตอบสนองของระบบโดยรวม เจ๋งสุด ๆ

โดยสรุปแล้วก็คือ Intel Core Ultra เป็นโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของ Intel ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการแล็ปท็อปที่บางเบาแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง โดยมีเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้

  1. ประสิทธิภาพที่ทรงพลัง 
  2. AI ที่ชาญฉลาดมากขึ้น
  3. การจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ใช้งานได้ยาวนานในแต่ละวัน
  4. กราฟิกที่ทรงพลัง โดยมาพร้อมกับ Intel Arc Graphics ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 
  5. ตอบโจทย์เทรนด์ ที่ผู้ใช้งานในปัจจุบันต้องการโน้ตบุ๊กที่ทรงพลัง บางเบา และมีหน่วยประมวลผลสำหรับ AI 

นอกจากนี้ Lenovo Yoga 9i 2-in-1 14IMH9 ยังมาพร้อมกับสัญลักษณ์ Intel® Evo™  Edition  ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ Intel ร่วมมือกับผู้ผลิตโน้ตบุ๊กแบรนด์ต่าง ๆ  เพื่อสร้างสรรค์อุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้สมบูรณ์แบบ 

Lenovo Yoga 9i 14IMH9

โน้ตบุ๊กรุ่นไหนที่ได้สัญลักษณ์ Intel® Evo™ จะต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดในด้านต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด คุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ จะถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่า โน้ตบุ๊กที่มีสัญลักษณ์ Intel® Evo™ เป็นอุปกรณ์พรีเมี่ยมมากที่สุด  

จุดเด่นของคอมที่มีสัญลักษณ์ Intel® Evo™

แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง แถมยังชาร์จเร็วทันใจ โดยใช้งานได้สูงสุดถึง 8 ชั่วโมง 

การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว รองรับ Wi-Fi 7 และ Thunderbolt 4 เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร

ภาพและเสียงคมชัด  หน้าจอแสดงผลคุณภาพสูงและระบบเสียงที่ยอดเยี่ยม มอบประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ที่สมจริง

การออกแบบที่ทันสมัย: บางเบา พกพาสะดวก เหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่

การตอบสนองที่รวดเร็ว สามารถเปิดเครื่องจากโหมด Sleep ได้ภายใน 1 วินาที

และด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ Intel Core Ultra เป็นโปรเซสเซอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาในปัจจุบัน

ชมความเจ๋งของชิปประมวลกันไปแล้ว เรามาดูตัวเครื่องกันบ้าง ว่ามันทำอะไรได้บ้างครับ

สเปค Lenovo Yoga 9i 2-in-1 14IMH9

Lenovo Yoga 9i 14IMH9

  • CPU : Intel® Core™ Ultra 7 155H, 16C (6P + 8E + 2LPE) / 22T, Max Turbo up to 4.8GHz, 24MB
  • GPU :  Intel® Arc™ Graphics 
  • Memory :  32GB LPDDR5X-7467  แบบฟังบอร์ด ไม่สามารถอัปเกรดได้ 
  • Display :  จอทัช ขนาด 14 นิ้ว 14.0″ 4K (3840 x 2400) 60Hz PureSight OLED display with glass,16:10, 100% DCI-P3, 400 nits (nominal) / 600 nits (peak), VESA Certified Display HDR™ 500 True Black, Dolby Vision®, 92.7
  • Storage :  1TB SSD M.2 2242 PCIe® 4.0×4 NVMe®
  • Wi-Fi/Bluetooth : Wi-Fi® 6E, 11ax 2×2 + Bluetooth 5.3
  • Ports I/O :  2x USB Type-C Thunderbolt™ 4 (USB 4.0, DisplayPort, Power Delivery), 1x USB Type-C (USB 3.2 Gen2, DisplayPort), 1x USB Type-A (USB 3.2 Gen2), 1x Audio combo jack
  • Camera : 5 MP IR Camera, ambient light sensor รองรับ Windows Hello
  • Security : Firmware Trusted Platform Module (TPM) 2.0 
  • Speaker : 4 x Bowers & Wilkins® Speakers (2 x 2W Tweeter, 2 x 2W Woofer)
  • Battery : 75 Whr lithium-ion polymer  battery, supports Rapid Charge Boost
  • Adaptor : 65W USB-C® AC adapter, supports PD 3.0
  • Dimension (WxDxH) :.  316 x 220 x 15.9 มม
  • Weight : 1.32 kg 
  • Color : Luna Grey , Cosmic Blue
  • OS : Windows 11 Home

ดีไซน์และการออกแบบ

Lenovo Yoga 9i 2-in-1 14IMH9 ดีไซน์ให้รอบตัวเครื่องขอบมนสวยงาม ใช้งานได้ยาวนานไม่ต้องกลัวเจ็บมือ ตัวเครื่องมีขนาดบางเฉียบเพียง 15.9 มม. แบบ 2 in 1 ให้เราปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้แบบ 360° อย่างเต็มที่ พับเป็นเต็นท์เพื่อความบันเทิง ใช้เป็นแท็บเล็ตเพื่อทำงาน หรือพลิกกลับมาเป็นโน้ตบุ๊กเพื่อพิมพ์งานได้อย่างสะดวกครับ 

ฝาพับมีขนาดเล็กลงบริเวณด้านข้าง เพื่อทำให้ให้ขอบจอแคบลงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกว่า ภาพได้จากหน้าจอนั้นเต็มตามากขึ้น และด้วยขอบจอที่ขนาดเล็กมาก ทำให้การใส่กล้องเว็บแคมจำเป็นต้องขยายพื้นที่ขอบจอด้านบนขึ้นอีกนิดหน่อย แต่นั่นก็เป็นข้อดีที่ทำให้เราสามาถเปิดฝาพับได้ด้วยมือเดียวครับ

และสิ่งสำคัญคือ Lenovo มีการดีไซน์ให้น้ำหนักตัวเครื่องลดลง เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน โดยหากเทียบกับ Ultrathin แบรนด์อื่นโน้ตบุ๊กตัวนี้จะมีน้ำหนักเบามากกว่าถึง 200 กรัม 

โดยรวมแล้ว ดีไซน์และการออกแบบอาจไม่ได้มีความแตกต่างจากเจนก่อนมากนัก แต่รุ่นนี้จะชูโรงเรื่องชิปตัวใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้พลังงานน้อยลง ความร้อนน้อยลง ทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นในแต่ละวัน  

คีย์บอร์ดและทัชแพด

Lenovo Yoga 9i 14IMH9

คีย์บอร์ดออกแบบให้มีสีตัดกับตัวเครื่องเล็กน้อย เพื่อที่จะเพิ่มมิติให้ตัวเครื่องดูมีไสตล์มากขึ้น ระยะห่างของปุ่มอยู่ที่ 1.5 มิลลิเมตร ถือว่าเป็นระยะห่างมาตรฐานสำหรับโน้ตบุ๊กสมัยใหม่ มาพร้อมไฟ Backlit ที่สามารถเปิด-ปิด และปรับความสว่างได้

นอกจากนี้ หากใครเคยใช้ Yoga series 9 มาก่อน จะรู้ว่า มันมาพร้อมปุ่มคีย์ลัดสุดเจ๋งที่อยู่ทางขวามือของตัวเครื่อง เช่น 

Lenovo Yoga 9i 14IMH9

  1. ปุ่มปรับรูปแบบการใช้งานของตัวเครื่อง สามารถปรับได้ 3 โหมดคือ โหมด 1. Performance เน้นให้ระบบทำงานเต็มประสิทธิภาพ  2 .โหมด Intelligent Cooling เน้นปรับสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการระบายความร้อน เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป 3 .Eco  โหมดนี้จะเน้นการประหยัดพลังงาน เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
  2. ปุ่มเปลี่ยนโหมดเสียง ได้ 3 โหมด คือ สำหรับเล่นเกม ฟังเพลง และวีดีคอล 
  3. ปรับปรับลดแสงสีฟ้า กดเพียงครั้งเดียว หน้าจอก็จะลดแสงสีฟ้าให้ทันที เหมาะกับการนั่งทำงานนาน ๆ
  4. ปุ่ม Favorite ตั้งค่าแอปที่ชอบใช้เป็นประจำ กด 1 ครั้งเรียกใช้งานแอป กด 2 ครั้ง ตั้งค่าว่า จะตั้งแอปไหนเป็นแอปประจำ
  5. ปุ่ม Fingerprint เพิ่มความปลอดภัยในการล็อกอินใช้งานเครื่องครับ

อีกส่วนที่ไม่มีไม่ได้คือ ปุ่ม Copilot ซึ่งโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ๆ จะมีมาให้หมดแล้ว สำหรับเรียกใช้งาน Copilot ผู้ช่วยเหลือส่วนตัวของ Microsoft ครับ

สำหรับ TouchPad มีขนาดกว้างประมาณ 5.5 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่ามาตรฐานโดยปกติของโน้ตบุ๊กขนาด 14 นิ้ว ถือว่าเยี่ยมเลย เวลาใช้งานให้ความรู้สึกเบาและลื่นดี สมเป็นโน้ตบุ๊กพรีเมียมเรือธงของ Lenovo ครับ 

จอแสดงผล

Lenovo Yoga 9i 14IMH9

สำหรับจอแสดงผลของ ทาง Lenovo  ให้มาคือ เป็นเทคโนโลยี OLED PureSight ซึ่งจะให้สีสันที่สดใส แม่นยำ และดำสนิท ทำให้ภาพดูมีมิติและสมจริงยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการรับชมภาพยนตร์ ทำงานกราฟิก หรือเล่นเกม

ความสว่าง 400 nits นั้นเพียงพอสำหรับการใช้งานในสภาพแสงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ขณะที่ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ทำให้มั่นใจได้ว่าสีสันที่แสดงออกมานั้นครอบคลุมและตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์

จอยังรองรับมาตรฐาน VESA Certified DisplayHDR True Black 500 และ Dolby Vision ช่วยให้การรับชมคอนเทนต์ HDR มีความสมจริง คมชัด และสีสันสวยงาม

หน้าจอสัมผัสที่ให้มาก็ไม่ใช่เล่นนะ เป็นหน้าจอสัมผัสแบบ Multi-touch 10 จุด ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลและแม่นยำ รองรับทั้งการใช้นิ้วมือและปากกา

โดยรวมแล้ว หน้าจอของ Lenovo Yoga 9 2-in-1 14IMH9 เป็นตัวเลือกที่ดีสุด ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่มีหน้าจอคุณภาพสูง ตอบโจทย์ทั้งการทำงานและความบันเทิง

ลำโพง 

Lenovo Yoga 9i 14IMH9

อันนี้ต้องบอกว่า เป็นสิ่งที่ผมแฮปปี้มาก ๆ ของโน้ตบุ๊กรุ่นนี้ กล้าบอกเลยว่ามันให้เสียงที่ดีกว่าโน้ตบุ๊กทุกรุ่นที่เคยทำรีวิวมา  โดยมีลำโพงทั้งหมด 6 ตัว เป็น Stero Sound bar อยู่ที่บานพับใต้หน้าจอทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งเป็นลำโพงของ  Bowers & Wilkins® และอีก 2  ตัวนั้นเป็น Woofer ขนาด 2 วัตต์ อยู่ใต้ตัวเครื่องทั้งสองฝั่งครับ 

ด้วยประสิทธิภาพของลำโพง Bowers & Wilkins® แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องเสียงระดับโลก ทำให้โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ มีระบบเสียงรอบทิศทาง ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกม 

นอกจากนี้ ยังมีเสียงที่คมชัดและมีมิติ ให้เสียงเบสที่หนักแน่น และยังมีซอฟต์แวร์ปรับแต่งเสียงให้เหมาะกับความชอบส่วนตัวได้ง่าย ๆ ครับ บอกเลยนี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้อยากซื้อเจ้าเครื่องนี้มาใช้เองเลย 

พอร์ตเชื่อมต่อ

พอร์ตเชื่อมต่อนั้นให้มาเพียงพอสำหรับการใช้งานในสไตล์ โน้ตบุ๊ก Ultrathin ครับ ซึ่ง Thunderbolt 4 ที่ให้มาถึง 2 ช่องนั้น สามารถรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายชนิด  ทั้งต่อจอ หรือ Hub ต่าง ๆ  พร้อมทั้งยังจ่ายไฟให้อุปกรณ์อื่นได้อีกด้วยครับ 

ส่วนพอร์ตอื่น ๆ ก็เป็นมาตรฐานครับ ทั้งพอร์ต 3.5mm combo audio หรือ พอร์ต USB A ไว้ใช้งานกับแฟลชไดรฟ์รุ่นเก่า ๆ 

ระบบระบายความร้อนและการอัปเกรด

Lenovo Yoga 9i 14IMH9

ตัวเครื่องมีฮีทไปป์ 2 เส้น เชื่อมโยงกับพัดลม 2 ตัว  ดูดอากาศเย็นจากฐานใต้ตัวเครื่องและปล่อยออกทางด้านหลัง โดยจากการใช้งาน เมื่อใช้งานหนัก ๆ หรือมี Load สูงๆ เช่นเรนเดอร์วีดี จะมีเสียงให้พัดลมให้ได้ยินชัด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ที่ตัวเครื่องต้องรีดประสิทธิภาพสูงสุดออกมาครับ  แต่หากใช้งานทั่วไป ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ยินเสียงพัดลมเลย   

ส่วนการอัปเกรด แรมในเครื่องไม่สามารถอัปเพิ่มได้ เพราะมาแบบฝังบอร์ด ซึ่งจะให้ความสเถียรมากกว่า มีเพียง SSD ที่สามารถอัปเพิ่มความจุได้ครับ 

แบตเตอรี่และการชาร์จ

แบตเตอรี่ที่ให้มา เป็นแบต Li-Polymer  ขนาด 75Wh ซึ่งเป็นมาตรฐานของโน้ตบุ๊กบางเบา จากการทดสอบใช้งานทั่วไป ใช้งานได้ 10 ชั่วโมง + ถือว่าสอบผ่าน ไม่ผิดหวังจากการมีสติ๊กเกอร์ Intel Evo ครับ 

และตัวเครื่องยังรองรับการชาร์จไว สามารถชาร์จ  0 – 80 เปอร์เซ็นต์ได้ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงครับ 

พลังจาก AI ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย

อย่างที่เกริ่นไว้เบื้องต้นว่า Lenovo Yoga 9 2-in-1 14IMH9 นั้นมาพร้อมชิปที่มี NPU ในตัวอย่าง  Intel® Core™ Ultra 7 155H ซึ่งจะทำให้งานที่เกี่ยวกับ AI นั้นประมวลเร็วขึ้น  โดย NPU หรือ  Neural Processing Unit เป็นหน่วยประมวลผลเฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อเร่งความเร็วการทำงานของงานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) โดยเฉพาะ ซึ่งรับงานที่เกี่ยวข้องกับ AI มารันด้วยตัวเอง และนั่นจะทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องเพิ่มขึ้นเช่น 

การประหยัดพลังงาน  การใช้ NPU ในการประมวลผลงาน AI สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าการใช้ CPU หรือ GPU เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่ต้องการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

การทำงาน Multitasking ที่ดีขึ้น โดยเมื่อ NPU รับหน้าที่งานด้าน AI ไป CPU และ GPU จะมีทรัพยากรเหลือมากขึ้นสำหรับงานอื่น ๆ ทำให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking) เป็นไปอย่างลื่นไหลมากขึ้นครับ

ตัวอย่างงานด้าน AI ในโปรแกรทำงานสำคัญอย่าง Adobe 

Photoshop ซึ่ง NPU สามารถเร่งความเร็วฟีเจอร์ AI เช่น Neural Filters, Sky Replacement, และ Content-Aware Fill

Premiere Pro  สามารถเร่งความเร็วฟีเจอร์ AI เช่น Auto Reframe, Scene Edit Detection, และ Speech to Text ได้ครับ

นอกจากนี้ ยังมีส่วนสำคัญในการประมวลผลของ Copilot บน Windows 11 ให้ทำงานได้ดีและรวดเร็วมากขึ้น 

การรับประกัน

Lenovo มีประกันตัวเครื่องให้ 1 ปี ครับ แต่สามารถอัปเกรดเป็น Lenovo Premium Care Plus เพิ่มได้อีก 2 ปี ซึ่งจะได้สิทธิ์พิเสษต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาคือ

  • จะได้รับบริการซ่อมที่รวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับการรับประกันมาตรฐาน
  • คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ เช่น การตกหล่น การหกของเหลว หรือไฟกระชาก
  • บริการช่วยเหลือด้านเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลา
  • บริการซ่อมถึงบ้านหรือที่ทำงาน+
  • สามารถขยายระยะเวลารับประกันของอุปกรณ์ของเราได้นานกว่าเดิม

 

Performance

CPU & GPU-Z

PC Mark

3D Mark 

3D Mark CPU

Cinebench R24

Baterrymon

CrystalDiskMark

สรุป

Lenovo Yoga 9i 2-in-1 14IMH9 เป็นโน้ตบุ๊กเรือธงที่ผสานความหรูหราและประสิทธิภาพไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยดีไซน์โค้งมนสวยงาม น้ำหนักเบา และความสามารถในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานแบบ 2-in-1 ทำให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์การทำงานและความบันเทิง

ลำโพง Bowers & Wilkins® ที่ให้มานั้นถือว่าถูกใจวัยรุ่นสุด ๆ เสียงสมจริงแถมยังปรับโปรไฟล์เสียงได้ 3 แบบง่าย ๆ ผ่านปุ่มคีย์ลัดที่มีมาให้  ลองแล้วไม่อยากปิดเสียงเลย 

ภาพรวมการดีไซน์ของตัวเครื่อง ต้องยอมรับว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากจากเจนก่อนมากนัก เพียงแต่ชิปใหม่รุ่นใหม่ที่ให้มานั้น สามารถให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นกว่ารุ่นเก่า  เพราะส่วนใหญ่แล้ว คนที่ซื้อโน้ตบุ๊กแบบเบาบาง อาจไม่ได้ต้องการพกอะแดปเตอร์ออกไปทุกครั้ง

ข้อดี

  • ประสิทธิภาพสูง มาพร้อมกับ Intel Core Ultra ทำให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น เหมาะสำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น ตัดต่อวิดีโอหรือทำงานกราฟฟิก
  • หน้าจอทัชพรีเมี่ยม 4K OLED สัมผัสลื่นไหล สร้างสรรค์งานครีเอทีฟได้ไม่ยาก
  • ปุ่มคีย์ลัดที่ช่วยเพิ่มความสะดวกมากขึ้น
  • เสียงลำโพงแจ่มสุด ๆ 

ข้อสังเกต

  • ไม่มีช่องอ่านการ์ด SD อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ที่ใช้งานการ์ด SD บ่อย ๆ
  • ตัวเลือก GPU  มีเฉพาะ Intel Arc Graphics อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นเกมหนักๆ
  • พัดลมเสียงดังขึ้น หากใช้งานแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มครับ 
  • ตัวชัตเตอร์กล้อง เป็นแบบ Manual