แม้จะมีกระแสว่าสถานการณ์ดีขึ้น แต่ล่าสุดทาง TSMC เผยว่า “ชิปยังคงขาดอยู่” โดยเฉพาะชิปตัวเล็ก ๆ ที่มีราคาไม่กี่ร้อยบาทก็ยังหายาก จนส่งผลต่ออุตสาหกรรมเป็นวงกว้าง ระดับที่ขาดชิปมาสร้างเครื่องผลิตชิป รถยนต์บางรุ่น ก็ต้องขายแบบขาดชิปบางส่วนไปก่อน แล้วค่อยมาติดตั้งภายหลัง…
C. C. Wei ซีอีโอของ TSMC เผยข้อมูลในงานประชุมด้านเทคโนโลยีเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ปัญหาการขาดแคลนชิปยังคงมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะชิปราคาถูกตั้งแต่ 0.50 ถึง 10 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 20 – 300 บาท) พบขาดแคลนหนัก จนทำให้เกิดปัญหาคอขวด กระทบต่อการผลิตในส่วนอื่น ๆ ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กันเป็นทอด ๆ ไปเป็นวงกว้าง
ตัวอย่างเช่น ASML Holding NV บริษัทผู้ผลิต ‘เครื่องผลิตชิป’ ยักษ์ใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ ก็ประสบปัญหาขาดแคลนชิปตัวเล็ก ๆ มาสร้างเครื่องผลิตชิปที่มีความแม่นยำสูงระดับนาโนเมตรอย่าง Extreme Ultraviolet Lithography systems (EUVs) ซึ่งการผลิตเครื่องจักรระดับนี้ ก็ใช้เวลาสร้างนานแต่เดิม ปัจจุบันก็จากเป็นเดือนกลายเป็นปี
ชิปที่มีราคาเพียง 0.50 ดอลลาร์ (ไม่ถึง 20 บาท) ก็มีส่วนในผลิตรถยนต์ราคา 50,000 ดอลลาร์ (เกือบ 2 ล้านบาท) มาแล้ว แต่ตอนนี้ชิปดังกล่าวกลับมีการขาดแคลน C. C. Wei กล่าวเพิ่มเติม
ถามว่าร้ายแรงขนาดไหน ก็ระดับที่มีรถยนต์ ‘แบรนด์ดัง’ บางรุ่น จำต้องขายแบบขาดชิปบางส่วนไปก่อน แล้วค่อยมาติดตั้งภายหลัง ทั้งนี้ยังพบว่ามีผู้ผลิตรถยนต์ ใช้ชิปในรถยนต์เพิ่มขึ้น 15% ทุกปี และฝั่งสมาร์ทโฟนเอง ก็ต้องการชิปควบคุมการใช้พลังงานมากกว่าเดิม 2 – 3 เท่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
C. C. Wei กล่าวอีกว่า TSMC ไม่สามารถตอบสนองความต้องการชิประดับล่างได้อีกต่อไป จนส่งผลกระทบต่อการสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ด้วย เช่น โรงงานผลิปชิปขนาด 28 นาโนเมตรแห่งใหม่ในประเทศจีน
เตือนทิ้งท้าย C. C. Wei บอกชิปรุ่นเก่าเหล่านี้อาจมีราคาสูงขึ้นในอนาคต แน่นอนว่าหากมีราคาขึ้นสูง ก็ย่อมส่งผลให้มีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น (รวมทั้งปัญหาเงินเฟ้อด้วยอีก) ต่อไปอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องไฟฟ้า หรือกระทั่งรถยนต์ ก็จะมีราคาสูงขึ้นตามด้วยเช่นกันครับ
ที่มา : Techspot