ปัจจุบัน สหรัฐกำลังประสบภัยธรรมชาติอย่างหนัก ไม่ว่าคลื่นความร้อนที่รุนแรงจากแคลิฟอร์เนียถึงเท็กซัส อุทกภัยครั้งใหญ่ในรัฐเคนตักกี้และมิสซูรี ไฟป่าในอลาสก้าที่เผาพื้นที่ที่ใหญ่กว่าคอนเนตทิคัต และยังมีไฟป่าอีกหลายร้อยจุด แต่เครื่องมือตัวใหม่นี้ จะทำให้ผู้บริหารของเมืองแต่ละเมือง และผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าใจความเสี่ยงได้ดีขึ้น และสามารถหยืดหยุ่นได้มากหากต้องเผชิญกับความเครียดจากสถานการณ์เหล่านี้
.
เครื่องมือชุดใหม่นี้สร้างจากรัฐบาลกลาง โดยบริษัททำแผนที่ Esri มันชื่อ Climate Mapping for
Resilience and Adaptation (CMRA) ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกับแต่ละเมืองอย่างไรได้แบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งบอกได้ว่าจะเกิดภัยพิบัติอะไรขึ้น
Resilience and Adaptation (CMRA) ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกับแต่ละเมืองอย่างไรได้แบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งบอกได้ว่าจะเกิดภัยพิบัติอะไรขึ้น
.
แผนที่จะทำงานโดยให้เราใส่ Lacation ของเมืองที่เราอาศัยอยู่ลงไป จะมีตัวเลือกที่แสดงให้เห็นถึงคลื่นความร้อน ไฟป่า ภัยแล้ง รวมถึงน้ำท่วมในแผ่นดินและชายฝั่ง โดยระบบจะแสดงความเสี่ยงที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากนั้นจะระบุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตภายใต้สองสถานการณ์ที่เปรียบเทียบกันเช่น จะเกิดอะไรขึ้นหากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงอย่างรวดเร็ว และจะเกิดอะไรขึ้นหากก๊าซเหล่านี้ยังถูกปล่อยเรื่อย ๆ และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
.
ตัวอย่างเช่น ในไมอามี แผนที่แสดงได้ให้เห็นว่าแนวชายฝั่งจะจมอยู่ใต้น้ำมากขึ้นเพียงใด หากยังมีการปล่อยมลพิษสูง แดชบอร์ดยังแสดงให้เห็นว่าความร้อนจัดและอันตรายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังมีลิงก์เพื่อช่วยให้เมืองต่างๆ ค้นหาทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลางเพื่อนำมาใช้สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรับมือกับภัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การบริการจัดการ การรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ ทำได้ง่ายขึ้น รวมทั้งยังทำให้ประชาชนเห็นถึงปัญหาล่วงหน้าและเตรียมรับมือได้ด้วยตัวเองอีกด้วย
.
เห็นแบบนี้แล้ว ก็บอกได้คำเดียวว่า มันเจ๋งดีนะ แต่แผนที่นี้รองรับการใช้งานแค่ในสหรัฐนะ ก็เพราะว่ารัฐบาลกลางเขาเป็นคนทำขึ้นมาครับ แต่ไทยเราก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป เราก็มีเช่นกัน เช่น เว็บไซต์คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ที่ให้เราสามารถตรวจสอบปริมาณน้ำ คาดการณ์ฝนหรือพายุ ดูภัยแล้ง หรือดูปริมาณน้ำลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมมือได้ทันครับ และหากในอนาคตในอนาคต สามารถพัฒนาให้สามารถหรือแจ้งกับประชาชนได้เลยว่า จะเกิดภัยพิบัติอะไรตาม จะดีไม่ใช่น้อยเลยครับ
.
ที่มาข้อมูล