เว็บไซต์ Vice ได้เปิดเผยคลิปที่สัมภาษณ์ Hacker คนหนึ่ง ที่เคยเป็น BlackHat มาก่อน ซึ่งสิ่งที่เขานำมาแชร์เป็นเบื้องลึกที่น่าสนใจของ DarkWeb ว่า มันมีอะไรอยู่ในนั้น ทำไมแฮกเกอร์ นักฆ่า เจ้าพ่อค้ายาเสพติด และกลุ่มอื่น ๆ ถึงชอบเข้าไปใช้งานกันนักหนา
เขาบอกว่า ปัจจุบัน ถ้าเป็นแฮกเกอร์ จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ คือ Whitehat กับ Blakchat ก็ตามชื่อเลยครับ ฝั่ง BlackHat ก็จะทำให้ในสิ่งที่ผิดกฏหมายนั่นแหละ ปัจจุบันแฮกเกอร์สายหมวกดำ จะเน้นใช้ Ransomware ในการหาเงินให้กับตัวเอง และมีอีกบางกลุ่มที่อยากเห็นโลก “มอดใหม้” ด้วยมือของเขาเอง (ทำแล้วสนุกนั่นแหละ) พร้อมกับอธิบายว่า ระบบใด ๆ ก็ตามที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต มีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตี
เขาเคยเฝ้าดูโรงพยาบาลที่ถูกโจมตีด้วย Ramsomware และเห็นถึงทางเลือกของคนป่วยแค่ 2 แบบคือ ยอมจ่ายเงินเพื่อกู้คืนระบบกลับมา หรือยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อทำในสิ่งที่ “อาจจะ” ถูกต้อง คือการไม่จ่ายเงินให้กับแฮกเกอร์
เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า Dark web เป็นส่วนหนึ่งของอินเทอร์เน็ตที่ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรงผ่านเบราว์เซอร์ทั่วไป เนื่องจากมีการเข้ารหัสข้อมูลและการเชื่อมต่อที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน ดังนั้น การเข้าถึง Dark web ต้องใช้โปรแกรมเฉพาะที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย โดยบน DarkWeb จะประกอบไปด้วยสิ่งต่าง ๆ มากมาย ซึ่งรวมถึง การซื้อขายสิ่งผิดกฎหมาย อาทิ
1.ยาเสพติด อาวุธ สารเสพติด และของลักษณะอื่นที่ไม่สามารถขายได้ในตลาดทั่วไป
2.ใช้เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายของกลุ่มผู้ก่อการร้าย
3.ใช้เพื่อการซื้อขายข้อมูลส่วนตัวที่ถูกขโมยมา อาทิ ข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ
4.การแลกเปลี่ยนเครื่องมือกัน อาทิ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีไวรัส โปรแกรมโจมตีคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายอื่นๆ
และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ “ภาพลามกอนาจารของเด็ก” ที่มีความต้องการสูงมากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่คนที่เข้ามาใน Darkweb มีการร้องขอเยอะมาก
ข้อมูลจาก Philip Ingram พันเอกเกษียณอายุในราชการหน่วยข่าวกรองของอังกฤษเปิดเผยว่า Darkweb ในปัจจุบันถูกใช้โดยอาชญากรที่ร้ายแรงและมีความเป็นระบบองค์กรมากขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ทั้งการโจมตี การขโมยเงิน ขโมยข้อมูลส่วนตัว สิ่งที่มาในปีที่ผ่านมาคือ มีการโจมตีท่อส่งก๊าซขนาดใหญ่ Colonial pipeline เป็นการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของประเทศครั้งใหญ่ และทำให้ผู้คนล้านเดือดร้อน ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนั้น บริษัทจำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับแฮกเกอร์เพื่อกู้คืนระบบกลับมา
ทั้งนี้ ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าว เขาเคยเป็น BlackHat มาก่อน แต่ก็ได้กลับตัวกลับใจ เปลี่ยนตัวเองมาเป็น Whitehat พร้อมกับใช้ทักษะของเขาในติดตามอาชญากรออนไลน์และมองหาช่องโหว่ในระบบเพื่อแก้ไขมัน
สิ่งหนึ่งที่เขาเปิดเผย และมันน่าสนใจมาก ๆ คือ วิธีเริ่มต้นที่เขาใช้ในการโจมตี ซึ่งเขาไม่ได้เดินไปเคาะประตูหน้าบ้านใครอยู่แล้ว เพราะมันจะ Firewall หนาหลายชั้น แต่เขาจะกำหนดเป้าหมายไปยังคนที่เขารู้จักซึ่งสามารถเข้าถึงได้ระบบภายในได้ เช่น User ทั่วไปที่มี ID สำหรับ Login ระบบ แล้วเขารู้ได้อย่างไรว่าคน ๆ นั้นทำงานที่ไหน ? ผมเชื่อว่าใน DarkWeb ก็มีแหละ
สิ่งน่ากลัวมาก ๆ ในปัจจุบันคือ มัลแวร์นั้นได้พัฒนาจนแฮกเกอร์ไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านอีกต่อไป และทุกอย่าง ก็สามารถหาได้บน Darkweb ทั้งข้อมูลประจำตัว เป้าหมายการโจมตี หาเครื่องมือที่ต้องใช้ โดยอาจจะใช้สิ่งที่พวกเขาต้องการ เป็นการแลกเปลี่ยน ฉะนั้นแล้ว ใช้ชีวิตกันอย่างระวังนะครับ ไม่กดลิงก์แปลก ๆ ไม่ให้ข้อมูลใครมั่ว ๆ ไม่ติดตั้งแอปจากภาย หรือแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ .. .