เช็คก่อนซ่อม แนะเสริมเหล็กใหม่ ก่อนเทคอนกรีตทับ

หลังจากเหตุแผ่นดินไหวมีอาคารจำนวนมากได้รับความเสียหาย และจำเป็นต้องประเมินด้านความปลอดภัยก่อนการเข้าใช้อาคาร

สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย แนะแนวทางการตรวจสอบรอยร้าวและการซ่อมแซมโครงสร้างที่ได้รับความเสียหายเบื้องต้น

โดยเฉพาะอาคารสูงจำเป็นต้องมีแนวทางตรวจสอบตามหลักวิศวกรรม โดยขอให้เน้นตรวจสอบรอยร้าวและการกะเทาะหลุดของคอนกรีตที่บริเวณเสาและผนังปล่องลิฟต์ของอาคาร เนื่องจากเป็นโครงสร้างหลักที่รับน้ำหนัก และมีจุดสังเกตว่ารอยร้าวและการกะเทาะหลุดของคอนกรีต จะเกิดขึ้นที่บริเวณโคนเสาด้านล่างและปลายเสาด้านบน โดยเฉพาะอาคารสูงให้ระวังรอยร้าวที่เสาชั้นล่างๆ และเสาที่บริเวณกึ่งกลางความสูง

.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยและอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า ความเสียหายของรอยร้าวสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ

 

ระดับที่ 1 ไม่พบรอยร้าว

ระดับที่ 2 ตรวจพบรอยร้าวในเสาหรือผนังรับน้ำหนัก เห็นเป็นเส้น มีความหนาไม่มาก ไม่ถึง 0.4 มม. (บัตรเครดิตหรือบัตรประชาชนสอดไม่เข้า) รอยร้าวดังกล่าวยังไม่เป็นอันตราย สามารถเข้าใช้สอยอาคาร แต่ก็ควรซ่อมรอยร้าวโดยการฉีดวัสดุประสานรอยร้าว เช่น อีพอกซี เป็นต้น

ระดับที่ 3 ตรวจพบรอยร้าวขนาดใหญ่ในเสาหรือผนังรับน้ำหนัก เป็นเส้นหนาเกิน 0.6 มม. (บัตรเครดิตหรือบัตรประชาชนสอดเข้าไปได้) รอยร้าวดังกล่าวมีผลกระทบต่อโครงสร้าง ควรซ่อมแซมโดยการฉีดวัสดุประสาน หรือใช้เหล็กยึดเจาะเสียบเย็บรอยร้าว

 

 

สำหรับการกะเทาะหลุดของปูน สามารถจำแนกได้เป็น 4 ระดับ

ระดับที่ 1 ไม่พบการการกะเทาะหลุดของปูน

ระดับที่ 2 ผิวปูนฉาบหลุดออกมา หรือ ผิวคอนกรีตบางส่วนหลุดไม่เกิน 1-2 ซม. แต่ยังไม่เห็นเหล็กเสริม การกะเทาะดังกล่าวยังไม่กระทบต่อกำลังของโครงสร้าง สามารถใช้งานอาคารได้

ระดับที่ 3 คอนกรีตหุ้มเหล็กกะเทาะออกมาทั้งหมด เห็นเหล็กเสริมด้านใน แต่เหล็กเสริมยังตรงอยู่ ควรรีบซ่อมแซมโดยด่วน ก่อนใช้งานอาคาร

ระดับที่ 4 คอนกรีตกะเทาะถึงแกนเสาด้านใน เห็นเหล็กเสริมด้านใน บิด งอ ไม่ตรง เหล็กปลอกง้างออกหรือขาด เป็นความเสียหายที่รุนแรงที่สุด ไม่ควรเข้าใช้อาคาร แต่ควรซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงเสาเสียก่อน

สำหรับความเสียหายในระดับที่ 4 มีผลกระทบต่อกำลังรับน้ำหนักของโครงสร้างแล้ว จึงควรรีบปรึกษาวิศวกรโครงสร้างมาให้คำแนะนำในการซ่อมแซมเสริมกำลัง

อย่างไรก็ตามมีแนวทางเบื้องต้นในการเสริมความแข็งแรงเสาโดยใช้วิธีการที่เรียกว่า concrete jacketing ในวิธีการนี้ จะทำการเสริมเหล็กแกนเสาเพิ่มเติมโดยใช้วิธีเจาะเสียบเหล็กยึดกับเสาที่เสียหายด้วยกาวอีพอกซี ให้เหล็กเสริมเส้นใหม่ทาบกับเหล็กเส้นเดิมที่บิดงอไปแล้ว

จากนั้นพันเหล็กปลอกรอบเหล็กแกนเสาใหม่ แล้วเทคอนกรีตหุ้มทั้งหมด จำนวนเหล็กที่ต้องเสริมเพิ่มควรปรึกษาวิศวกร

 

 

และเน้นย้ำว่า ความเสียหายระดับที่ 4 เป็นระดับที่รุนแรงที่สุด การซ่อมแซม ไม่ใช่เพียงแค่เอาปูนไปแปะเท่านั้น แต่ควรต้องเสริมเหล็กใหม่ก่อนเทคอนกรีตด้วย

ทั้งนี้ แนวทางที่แนะนำเป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้น อาคารแต่ละหลังอาจเกิดเสียหายที่มีรูปแบบเฉพาะ เสาที่เสียหายหนักอาจมีกระจายแรงไปลงที่เสาจุดอื่น จึงอาจต้องเสริมความแข็งแรงเสาเข้าเคียงเพิ่มเติมด้วย จึงควรแจ้งให้วิศวกรที่มีความรู้เข้าตรวจสอบและแนะนำวิธีแก้ไขที่เหมาะสมในแต่ละกรณีจะดีที่สุด