ไม่นานมานี้ Tesla เพิ่งประกาศว่า จะเลิกใช้ระบบเรดาร์ และเซนเซอร์อัลตราโซนิกหลายตัวในระบบ Autopilot และหันไปใช้ Tesla Vision หรือคอมพิวเตอร์วิทัศน์ที่ใช้ประโยชน์จากกล้องเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
.
หลายคนอาจคิดเหมือนผมนะ… ขนาดมีระบบเรดาร์ และเซนเซอร์อัลตราโซนิกที่ตรวจสอบรอบตัวรถแถมตรวจสอบมุมมองได้ลึกกว่ากล้อง ระบบ Autopilot ยังใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเหมือนที่ Musk เคยโฆษณาไว้ แล้วทีนี้ หันมาใช้แต่กล้องแทน มันจะดีกว่าจริง ๆ หรอ ? ใครเป็นแฟน Tesla ก็ขออภัยด้วยนะ
.
แต่เรื่องนี้ เหมือนเป็นแนวคิดที่เด็ดเดี่ยวของ Tesla แหละ เค้าเชื่อว่า ถนนได้รับการออกแบบมาสำหรับมนุษย์ ซึ่งเราใช้ตาในการมองและขับรถไปข้างหน้า การตัดสินใจเลี้ยว ตรง หรือเบรก มนุษย์จะใช้เครือข่ายประสาทธรรมชาติในสมองของเรา Tesla จึงเชื่อว่าเป็นการดีที่สุด ที่จะพยายามเลียนแบบการทำงานของมนุษย์ด้วยกล้องและโครงข่ายประสาทเทียมจากชิปจาก Tesla สร้างขึ้นเอง
.
อ่านมาถึงจุดนี้ ผมได้พยายามทำความเข้าใจกับแนวคิดของ Tesla นะ แต่มันก็ อิหยังวะ ! อยู่ในใจ เพราะหาก Tesla จะเลียนแบบโครงข่ายประสาทของมนุษย์จริง ๆ ก็น่าจะรู้ว่า มนุษย์เรามีความสามารถในการขับรถที่จำกัด ระยะการมองเห็นนั้นก็แค่รอบ ๆ ตัวรถ
.
แต่การมีเทคโนโลยีเซนเซอร์และเรดาร์ สามารถตรวจสอบได้มุมมองหรือทัศนวิสัยที่ไกลกว่าได้ ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์หลายแห่งได้นำเซนเซอร์มาใส่ในตัวรถ เพื่อลดจุดอับการมองเห็นและแจ้งเตือนอันตราย ทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น แต่ที่ Tesla จะใช้แต่กล้องเพียงอย่างเดียว เพราะไม่อยากเหมือนใครหรือเปล่า.. มันจะดีกว่าการมี เซนเซอร์และเรดาร์ไหม .. อันนี้ต้องรอดู
.
ที่มาข้อมูล