- มียอดดาวน์โหลดทั่วโลกพุ่งทะลุ 2 พันล้าน (ข้อมูลจาก Sensor Tower ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา)
- พบจุดเปลี่ยนสำคัญในการเปิดใช้แพลตฟอร์มจากองค์กรและเซเลบริตี้ชื่อดังระดับโลก อาทิ องค์การอนามัยโลก , สภากาชาดโลก , Will Smith และ Mariah Carey
- ยืนหนึ่งแพลตฟอร์มที่ทรงประสิทธิภาพในการสื่อสารข้อมูลที่ไม่ใช่เนื้อหาเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียวแต่มาพร้อมข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้
- TikTok มุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การใช้แพลตฟอร์มที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คนทั่วโลก ส่งแคมเปญ ชาเลนจ์ ที่ตรงกับ Insight คนในแต่ละภูมิภาคจนยอดวิวทะลุหลักพันล้าน
เดินหน้าเข้าสู่ครึ่งปีหลังของปี 2020 อย่างมุ่งมั่นกับ TikTok แพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้นที่กำลังมาแรง สร้างสรรค์ความสนุก ความบันเทิง ควบคู่ไปกับสาระความรู้ที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้คนทั่วโลก และสำหรับในประเทศไทยนั้นช่วงต้นปีที่ผ่านมา TikTok ได้สร้างยอดความสำเร็จขึ้นแท่น Top 3 ของประเทศที่มีการเติบโตสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังเริ่มจัดตั้งทีมในประเทศไทยได้เพียง 1 ปี และตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้นด้วยยอดดาวน์โหลดสูงสุดทั่วโลกเป็นอันดับ 1 ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2020 และยอดดาวน์โหลดทะลุ 2 พันล้านครั้งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา (อ้างอิงจากข้อมูลจาก Sensor Tower) และอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญกับการเปิดใช้แพลตฟอร์มจากองค์กรและเซเลบริตี้ชื่อดังระดับโลกมากมาย อาทิ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO, สภากาชาดโลก หรือ IFRC, และ UNICEF รวมถึง Will Smith, Mariah Carey และ Justin Bieber นอกจากนี้ TikTok ยังมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้แพลตฟอร์มที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คนทั่วโลกด้วยการสร้างสรรค์แคมเปญและชาเลนจ์ที่ตอบโจทย์ผู้คนในแต่ละภูมิภาคจนมียอดวิวรวมหลักพันล้าน
ในฐานะแพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้น TikTok ถือเป็นแหล่งรวมคอนเทนต์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ผู้คนมากมายในหลากหลายกลุ่ม จนทำให้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มียอดดาวน์โหลดทั่วโลกสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2020 โดยยอดดาวน์โหลดทั่วโลกทะลุ 2 พันล้าน (อ้างอิงข้อมูลจาก Sensor Tower) นอกจากนี้ TikTok ยังเป็นแพลตฟอร์มที่องค์กรชั้นนำทั้งในระดับโลกจนมาถึงในประเทศไทยเลือกใช้เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่าง องค์การอนามัยโลก หรือ WHO, สภากาชาดโลก หรือ IFRC, และ UNICEF รวมถึง กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย ซึ่งทำให้ TikTok ได้รับการยอมรับในอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่ใช่เพียงแค่แพลตฟอร์มเพื่อความสนุก ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังประสิทธิภาพในการสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์และน่าเชื่อถือ ซึ่งในประเทศไทยนั้นได้มีการต่อยอดความสำเร็จนี้มาสู่การเปิดตัวแคมเปญ #TikTokUni เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เป็นสาระและความรู้บนแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น โดย TikTok ได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญและนักการศึกษาที่เข้ามาให้ความรู้ผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอสั้นที่มีสาระให้สนุก เข้าใจง่าย
เป็นที่ทราบกันดีว่า TikTok นอกจากจะเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างให้ผู้คนได้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ในทุกไลฟสไตล์ มีคอนเทนต์ที่หลากหลายในทุกรูปแบบให้ทุกคนได้สนุก ผ่อนคลายในทุกช่วงเวลา TikTok ยังเปรียบเสมือนคลังที่รวบรวมเพลงลิขสิทธิ์มากมายหลายล้านเพลงที่บรรดาผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์หรือครีเอเตอร์สามารถเข้าไปค้นหา และเลือกใช้สำหรับสร้างวิดีโอโดยไม่ต้องกังวลในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมามีเพลงดังที่เป็นกระแสติดหูล้วนเป็นเพลงฮิตที่มาจากแพลตฟอร์ม TikTok โดยก่อนหน้านี้ TikTok ได้เปิดตัวแคมเปญ #TikTokTunes ซึ่งเป็นแคมเปญที่ริเริ่มขึ้นมา โดยทีมไทยและเปิดตัวนำร่องในประเทศไทยเป็นที่แรก เพื่อสร้างนิยามใหม่ให้กับการแจ้งเกิดของศิลปินก้าวไปสู่การมีชื่อเสียงในระดับอินเตอร์ได้ผ่านแคมเปญ #TikTokTunes ซึ่งที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมรวมถึงมีศิลปินที่ได้แจ้งเกิดผ่านเพลงฮิตติดกระแสอย่างมากมายล้นหลาม
และความมาแรงของ TikTok ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องสะท้อนได้จากผลตอบรับการเข้าร่วม กิจกรรมชาเลนจ์ แคมเปญต่างๆ ของเหล่าดารา คนดัง และผู้มีชื่อเสียงจากวงการต่างๆ ซึ่งนอกจากจะเลือกใช้ TikTok ในการสื่อสารไปถึงกลุ่มแฟนคลับผู้ติดตามที่ชื่นชอบแล้ว ยังได้เข้ามาร่วมกิจกรรมชาเลนจ์ แคมเปญต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความร่วมมือร่วมใจในการมอบความสุขให้กับผู้คนและนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ผ่านแคมเปญ ชาเลนต์ต่างๆ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น #Safehands สู่ #ล้างมือ40วิ ในประเทศไทย จนมียอดวิวรวมอยู่ที่กว่า 5 พันล้าน , #HappyAtHome สู่ #เมษาAtHome มียอดวิวรวมกว่า 1.5 พันล้าน และ #ThankYouNHS สู่ #ส่งใจให้ทีมแพทย์ ยอดวิว 23.8 ล้าน รวมถึง #ขยับต้านโรค 826.7 ล้านวิว
ทั้งนี้ ตลอดปี 2020 ที่ผ่านมาแม้จะเป็นระยะเวลาเพียงครึ่งปีแต่ TikTok ได้สร้างความสำเร็จไว้มากมายทั้งในระดับโลกจนมาถึงในประเทศไทย อันเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาประสบการณ์การใช้แพลตฟอร์มที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้คนทั่วโลกควบคู่ไปกับการนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ผู้คนในทุกกลุ่ม
TikTok มุ่งมั่นในการเดินหน้าสร้างสรรค์ Ecosystem อันได้แก่ คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ และแบรนด์ต่างๆ ที่อยู่บนแพลตฟอร์มเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน สามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ที่ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากคอนเทนต์ที่หลากหลายบนแพลตฟอร์ม รวมไปถึงการเชื่อมต่อระหว่างครีเอเตอร์และแบรนด์ต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์หรือผู้พัฒนาคอนเทนต์และแบรนด์ต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้จากการทำการตลาดบนแพลตฟอร์ม ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างสรรค์แรงบันดาลใจและมอบความสุขให้กับผู้คนทั่วโลก