คำแนะนำสำหรับเลือกมือถือจากประสบการณ์จริง ที่ยิ่งเลือกก็ยิ่ง(ราคา)สูงขึ้นๆ
I5s, Note 3, G2 หรือรอ Note 4, I6 ไปเลยดี? คำถามโลกแตกของเหล่ามวลมนุษยชาติ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหามือถือฉลาดๆไว้ใช้ เชื่อเถอะว่าข้อมูลมันจะหาง่ายซะยิ่งกว่าหาถังขยะเทศบาล แต่ปัญหาต่อมาที่คุณจะพบคือ เฮ้ย!!แล้วรุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี? อย่างที่บอกไป Smartphone ที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบัน สเปคหรือประสิทธิภาพของเครื่องไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก โดยเฉพาะรุ่น เรือธง หรือ Flagship ซึ่งถือเป็นรุ่นเด่นที่แต่ละค่ายขยัยปล่อยกันออกมาดูดตังค์ผู้บริโภค
ดังนั้นตอนแรกของไดอารี่เราจะมาเริ่มกันด้วย วิธีการเลือกมือถือยังไงให้โดนใจ ประหยัดเงิน และที่สำคัญตรงกับความต้องการของเราจริงๆ
ต้องบอกก่อนว่าบทความนี้จะไม่มีการพูดถึงเทคนิคล้ำลึกใดๆทั้งสิ้น เป็นเรื่องจริงจากประสบการณ์การสรรหามือถือของผู้เขียนล้วนๆ
ก่อนอื่นเลยการที่เราจะหามือถือใหม่มาเปลี่ยนนั้น เราควรย้อนกลับไปดูเครื่องเก่าที่ใช้อยู่สักนิด ที่ให้กลับไปดูนั้นไม่ใช้อะไร แต่มือถือที่เราใช้อยู่นั้นแหละจะสามารถนำมาเป็นตัวช่วยให้เราเลือกเครื่องใหม่ได้ เพราะอะไร? ก็เพราะว่าเราสามารถทนใช้มันมาได้ตั้งนาน นั้นแสดงว่ามันต้องตอบโจทย์การใช้งานของเราในระดับหนึ่ง และนี่แหละตัวช่วยสำคัญในการเลือกมือถือเครื่องใหม่
สำหรับกรณีศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจ จะขอยกตัวอย่างเป็นของตัวผู้เขียนเอง
มือถือตั้งต้น: Galaxy Note 2
เรือธงอันน่าภูมิใจเมื่อสมัยย้อนกลับไปปีกว่าๆ ขั้นแรกเราต้องรู้ก่อนว่าสาเหตุใดที่ทำให้เราอยากเปลี่ยน?
ต้นเหตุ: หน้าจอไม่สามารถแสดงผลในระดับ Full HD ได้ และขนาดที่ใหญ่เกินไป (ใช้มานานเพิ่งมารู้สึก TT)
หลังจากที่เรารู้สาเหตุของการอาการอยากเปลี่ยนแล้ว คราวนี้ก็ต้องถึงเวลาในการหาตัวเลือกที่เข้าตากรรมการมาสัก 2-3 ยี่ห้อ ทั้งนี้เพื่อใช้สำหรับการเปรียบเทียบเรื่องราคา และการทำงาน
ผู้เข้าชิง: LG G2, Nexus 5, HTC One
เมื่อเราได้ผู้ท้าชิงมาแล้วก็มาเริ่มดูกันเลยว่าตัวไหนที่จะตอบโจทย์การใช้งานของเราบ้าง
1. ขนาดที่ต้องพกพาได้ง่ายขึ้น
ข้อนี้ผ่านทั้งสามตัว G2 มากับขนาดจอ 5.2 นิ้ว HTC One 4.7 และ Nexus 5 ที่ 4.95-5 นิ้ว
2. ประสิทธิภาพการทำงานที่ต้องไม่ด้อยลงกว่าเดิม เพราะเกมคือจุดเปลี่ยนของทุกอย่าง ฮูเร่
ส่วนนี้ก็ผ่านทั้งสามตัวเช่นกัน กับ CPU Quad-core Snapdragon ของ Qualcomm
3. หน้าจอล่ะ อันนี้ประเด็นสำคัญเลย
ข้อนี้ก็ผ่านหมดอีกเช่นกัน เพราะหน้าจอมาแบบ Full HD กันทั้งสามตัว
จะเห็นว่ามือถือที่เรามักคัดมาเป็นตัวเลือก ส่วนใหญ่จะมีสเปคที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเลือกคือ อะไรคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆและอะไรคือสิ่งที่เราแค่อยากมีเผื่อเอาไว้?
ข้อแรกเลยผู้เขียนเป็นคนชอบดูหนัง การโหลดหนังลงเมมเก็บไว้ดูในโทรศัพท์คือสิ่งจำเป็นในชีวิต และเมมในตัวเครื่องคงไม่มากพอจะอำนวยให้ลงหนังได้มากมายเท่าไหร่ สิ่งต่อมาที่จำเป็นคือ Micro SD จากข้อนี้ผู้ท้าท้าชิงจะถูกตัดออกไปถึงสอง คือ Nexus 5 และ HTC One
แต่แค่ปัจจัยเดียวคงยังไม่สามารถจะบอกได้ว่ามือถือเครื่องที่เหลืออยู่จะเป็นมือถือสำหรับเราจริงๆ แล้วปัจจัยอะไรล่ะที่จะมาเป็นตัวช่วย?
บริการหลังการขาย คืออีกหนึ่งเรื่องที่เราควรต้องนึกถึง ในทีนี้เราคงไม่ลงรายละเอียดมากนัก แต่บอกได้แค่ว่า แบนรด์ที่มีตัวอักษรสามตัว อาจจะมีสาขาในไทยจริงแต่ศูนย์ที่มีอย่างจำกัด คงพอเดาได้ว่าเราจะได้รับบริการที่ความเร็วระดับใด?
การอัพเดตซอฟท์แวร์ ข้อนี้คำตอบคงไม่ต้องไปหาไกล Nexus 5 มาวินแบบไม่มีใครเบียด แต่กับเรือธงอีกสองตัวก็คงไม่ถูกลอยแพง่ายๆ เหมือนกับ Note 2 ที่ถึงจะยังไม่ได้กิน Kitkat แต่ 4.3 ก็ยังมีมาให้ได้ใช้ หากคุณไม่ใช่คนที่ปรับแต่งนู้นนี่นั้นในโทรศัพท์หรือต้องอัพเดตเพื่อใช้ฟีเจอร์ใหม่ ข้อนี้คงไม่ใช่ประเด็นอะไร
และสุดท้ายที่จะเป็นตัวตัดสินนั้นคือ ราคา ข้อนี้จะตอบได้เลยว่าสิ่งที่คุณได้มากับเงินที่เสียไปมันคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งผู้ท้าชิงสามตัวบนแม้จะมีสเปคไล่เลี่ยกัน แต่ราคาก็ยังมีช่องว่างที่ต่างกันอยู่
เท่านี้การเลือกมือถือที่เหมาะกับตัวเราจริงๆก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากมากมายอะไร การยอมตัดสเปคบางอย่างที่เรา ‘คิด’ เอาเองว่าต้องมีเผื่อไว้ใช้ แล้วจ่ายเงินน้อยลงเพื่อรุ่นที่ตอบโจทย์เราจริงๆ ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า