สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตดูจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนยุคนี้ เพราะเราหยิบจับและใช้มันจนเหมือนจะกลายเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ดังนั้นก็เชื่อได้เลยว่าทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะต้องถูกเราพกไปด้วยทุกที่ และแน่นอนว่าการพกพาของเหล่านี้ก็มีตั้งแต่ใส่กระเป๋า ห้อยคอ ถือติดตัว แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีการพกพาก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าการใช้งาน เพราะถ้าพกไม่ถูกวิธีการอาจจะทำให้อุปกรณ์อายุสั้นลงได้แบบไม่รู้ตัว
วันนี้จะมาว่ากันด้วยเรื่องของการพกพาอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ของเรา ว่าพกยังไงไม่ให้เครื่องเดี้ยงและใช้ได้อีกนานๆ
1. พกมือถือในกระเป๋ากางเกงหลังระวังพัง!
สมาร์ทโฟนในปัจจุบันกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ การนำติดตัวไปสถานที่ต่างๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้กัน ซึ่งกระเป๋ากางเกงหลังก็เป็นที่เก็บมือถือยอดฮิตที่หนึ่งสำหรับคุณผู้ชายและสาวๆ (บางคน) แต่ทราบหรือไม่ว่าการเก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงหลังนั้นเสี่ยงทำให้มือถือพัง!
เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ นั้น ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับความสามารถในการกันกระแทกไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะหน้าจอ ซึ่งมีการออกแบบมาเพื่อกันการแตกร้าวจากการกระแทก แต่สิ่งที่เรากังวลนั้นไม่ใช่หน้าจอ แต่เป็นตัวเครื่อง เพราะทราบกันดีอยู่แล้วว่าในสมาร์ทโฟนบางยี่ห้อ วัสดุที่ใช้ประกอบตัวมักจะเป็นพลาสติกแข็ง ซึ่งไม่ได้มีความยืดหยุ่นสูงที่จะรับน้ำหนักมากๆ ลองจินตนาการว่าเราเอาสมาร์ทโฟนใส่กระเป๋ากางเกงหลังแล้วนั่งบนรถไฟฟ้าดู ถ้าไม่ใช่คนผอมจนหุ่นก้าง ตัวเครื่องก็คงมีกรอบกันบ้าง และอีกเรื่องที่คุณต้องใส่ใจคือเรื่องของความร้อน ใครที่เป็นคอเกมคงทราบกันดีว่า เวลาเล่นเกมหนักๆ ตัวเครื่องจะร้อนขนาดไหน ยิ่งใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงที่แนบกับเนื้อแถมได้รับอุณหภูมิของร่างกายเข้าไปอีก หากเลี่ยงได้อย่างน้อยก็ช่วยยืดอายุการใช้งานได้
2. เคสฝาพับแม่เหล็ก พกง่ายแต่เสี่ยงจอเสื่อม!
ดูจะกลายเป็นเทรนด์ไปแล้วกับการใส่เคสฝาพับแม่เหล็กให้กับแท็บเล็ต เพราะสะดวกในการพกพาและง่ายในการใช้งาน แต่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าการใส่เคสแบบนี้ให้กับอุปกรณ์ของเราเสี่ยงจะทำให้หน้าจอเสื่อม! เพราะแม่เหล็กที่ทำหน้าที่ปกปิดหน้าจอและเปิดปิดนั้นจะเข้าไปกวนกระแสไฟฟ้าภายในตัวเครื่อง ซึ่งถ้าหากใช้ไปนานๆ ก็จะส่งผลกับระบบสัมผัสของหน้าจอ เช่น ทัชไม่ติด หรือหน้าจอเสื่อม
ทางที่ดีหันมาใช้เคสที่ช่วยปกป้องเครื่องแบบล็อกขอบเครื่อง แล้วติดฟิล์มช่วยปกป้องหน้าจอจะดีกว่า เพราะหากจอเสื่อมขึ้นมา บางรุ่นบางยี่ห้อ ค่าอะไหล่ ค่าซ่อม รวมๆ แล้วแทบจะซื้อเครื่องใหม่ยี่ห้ออื่นได้เลย ดังนั้นถ้าหลีกเลี่ยงเคสลักษณะนี้แล้วเปลี่ยนมาใช้เคสแบบอื่นได้ก็จะดี
3. ใส่ในกระเป๋าสะพายก็เสี่ยงอันตรายได้
ปัจจุบันที่ชีวิตสุดแสนจะเร่งรีบ กระเป๋าสะพายของคนยุคนี้จึงเต็มไปด้วยของที่ (คิดว่า) จำเป็น ใส่ทิ้งไว้ในกระเป๋าจะเต็ม ไม่ว่าจะเป็นสารพัดกุญแจ เครื่องสำอาง ปากกา สมุดโน้ต ฯลฯ และแน่นอนว่าต้องรวมไปถึงอุปกรณ์คู่ชีพสำหรับยุคไอที อย่างสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต แต่ทราบหรือไม่ว่าของในกระเป๋าที่ดูไม่มีพิษภัยก็อาจจะทำร้ายอุปกรณ์ไอทีลูกรักได้ มาเริ่มดูกันที่ปุ่ม อันนี้จะเน้นไปที่อุปกรณ์ทางฝั่ง iOS แม้โอกาสจะน้อย แต่ก็มีเปอร์เซ็นเป็นไปได้ที่ของแข็งต่างๆ ที่อัดแน่นอยู่ในกระเป๋าของเราจะไปกระแทก กระทบกระเทือนเข้ากับปุ่มโฮม หรือร้ายกว่านั้นของมีคมขนาดเล็ก อย่างเช่น เข็มกลัด อาจจะไปขีดข่วนหน้าจอหรืองัดเข้ากับปุ่มโฮมเลยก็เป็นได้ ในกรณีที่อุปกรณ์ของเราไม่ได้ใส่เคสแบบมีฝาพับ
ดังนั้นเคลียร์ของในกระเป๋าเป็นประจำ แยกของที่มีลักษณะเข้าข่ายว่าจะสร้างความเสียหายให้อุปกรณ์ไอที หรือแยกช่องใส่อุปกรณ์ไอทีต่างหากไปเลยก็จะดี
4. ห้อยคอเสี่ยงโรค เสี่ยงหลุด
เทรนด์พกสมาร์ทโฟนแบบคล้องคอดูจะกลายมาเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่สาวๆ สมัยนี้ฮิตกัน แถมตอนนี้ยังมีหลายลายหลายแบบให้เลือกเอามาคล้อง (คอ) กันอีก เลยทำให้สาวๆ นิยมใช้วิธีนี้ในการพกพาสมาร์ทโฟนกันมาก แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีนี้กลับมีอันตรายซ่อนเร้นอยู่ เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าอุปกรณ์ไอทีนั้นมีคลื่นไฟฟ้าที่ค่อนข้างแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนใช้งานโทรศัพท์ ไม่ว่าจะรับสายหรือโทรออก แล้วทีนี้ลองมานึกกันดูเล่นๆ ว่าเราเอาตัวปล่อยคลื่นไฟฟ้ามาคล้องคอจะเกิดอะไรขึ้น? มีหลายงานวิจัยที่ออกมาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ควรพกอุปกรณ์ไอทีไว้ในกระเป๋าตรงอกเสื้อ หรือแม้แต่วางไว้ใกล้หัวนอนในตอนกลางคืน เพราะจะทำให้เวียนหัวในตอนเช้าเนื่องจากมีคลื่นไฟฟ้ารบกวนคลื่นสมอง กับการคล้องคอก็ไม่ต่างกัน คลื่นไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจะเข้าไปรบกวนระบบการทำงานภายในของร่างกาย
นอกจากนี้ข้อสำคัญอีกข้อที่ควรนึกถึงคือ คุณภาพของสายคล้องคอ หากไม่ได้คุณภาพ ตะขอไม่ดี ใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐาน คล้องคออยู่เกิดหลุดขึ้นมา? คงไม่ต้องบอกว่าอุปกรณ์ไอทีสุดรักจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องร่วงลงโหม่งพื้นในระดับความสูงขนาดนั้น แม้จะมีเคสกันไว้อยู่บ้างก็ตาม ดังนั้นทางที่ดีหากหลีกเลี่ยงการพกพาด้วยวิธีนี้ได้ก็จะดี
5. พกใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นก็ใช่ว่าไม่เสี่ยง
อีกหนึ่งสถานที่ที่นิยมใช้พกพาอุปกรณ์ไอทีคือกระเป๋ากางเกงขาสั้น ฟังๆ ดูก็ออกจะพกพาได้ง่ายและสะดวกสบายดี แต่ถ้าเราสังเกตดูจะพบว่า กระเป๋ากางเกงขาสั้นประมาณเข่าที่หลวมๆ เวลาเดินนั้นของที่มีน้ำหนักในกระเป๋าจะถูกเหวี่ยงไปมา และมีโอกาสสูงมากที่จะกระแทกเข้ากับสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ ราวบันได หรือแม้กระทั่งโต๊ะต่างๆ ซึ่งหากเราใส่เคสเอาไว้ก็คงจะไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ ขอบอกเลยว่าแรงเหวี่ยงและแรงกระแทกนั้นไม่ต่างอะไรจากการทำมือถือตกพื้น
จะเห็นว่าวิธีการพกอุปกรณ์ไอทีอย่างระมัดระวัง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านั้นให้กับเราได้