และแล้วเราก็เดินทางเข้าใกล้วันวาเลนไทน์ ปีนี้เชื่อว่าหลายๆ คนต้องมีแพลนซื้อของ เพราะนอกจากจะให้ดอกไม้แล้วก็ต้องมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ หรือของขวัญชิ้นใหญ่ๆ ไปเซอร์ไพรซ์คนข้างๆ กันบ้าง และการซื้อของออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งในวิธีการจับจ่ายซื้อของที่กำลัง HOT ขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่นักชอป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อของมือสอง (หรืออาจจะ 3 4 5) ที่มีขายกันให้เกลื่อนในโลกออนไลน์ และหาง่ายยิ่งกว่าการหาซื้อลำไยอีดอ ดังนั้นวันนี้เพื่อเป็นการเอาใจขาชอปรับวาเลนไทน์ Cover ฉบับนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของ ซื้อของออนไลน์ ซื้อยังไงไม่ให้โดนหลอก? (กันล่ะ..)
เว็บไซต์ต้องมีชื่อ คนรู้จัก
กฏเหล็กข้อแรกที่ต้องจำให้ขึ้นใจ เว็บไซต์ ที่ลงประกาศขายก็ควรจะต้องเป็นที่รู้จักนะจ๊ะ หลายๆ คนอาจจะไม่ให้ความสนใจในข้อนี้มากนัก แต่หากคุณเป็นนักชอปขาประจำโลกออนไลน์แล้วล่ะก็ คุณจะรู้เลยว่ามันสำคัญม๊ากมาก เพราะหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาล่ะก็ เหล่าแอดมิน คนดูแลประจำบอร์ด และบรรดาสมาชิกในบอร์ดนั้นๆ แหละที่จะเป็นตัวช่วยและที่พึ่งพาสำหรับคุณ ข้อควรระวังคือเว็บไซต์จำพวกจิปาถะ เนื้อหารวมกันหลายๆ อย่างแบบแทบจับต้นชนปลายไม่ได้ เว็บไซต์เข้าข่ายเหล่านี้จะนำพามาซึ่งคนหลากหลาย และเมื่อไม่มีเนื้อหาที่ลึกหรือแน่นไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ยากที่สมาชิกในบอร์ดจะอยู่กันอย่างเหนียวแน่นหรือรู้จักตัวตนของกันและกัน หรือแม้กระทั่งกฎของบอร์ดที่จะใช้กรองคนก็อาจจะไม่น่าเชื่อถือพอ
สิ่งที่คุณควรรู้ก็คือ ยิ่งบอร์ดหรือเว็บไซต์เป็นที่รู้จักมากเท่าไหร่ จำนวนคนดูแลก็จะยิ่งมีมากและคอยดูแลได้อย่างทั่วถึง กฎประจำบอร์ดและกติกาการสมัครสมาชิกก็จะยิ่งมีความน่าเชื่อถือและมีหลักฐานต่างๆ ที่สามารถตามตัวสมาชิกได้ ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นตัวช่วยในการกรองคนได้ดี และเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากในการใช้ค้าขายสินค้าบนโลกออนไลน์ คุณจะสามารถดูประวัติคนขาย หรือติดต่อสอบถามแอดมินได้เมื่อเกิดปัญหา โดยแอดมินเองหากเป็นบอร์ดมีชื่อหรือเป็นเว็บไซต์ดังๆ ที่ทำงานเป็นระบบก็จะมีฐานข้อมูลของสมาชิกผู้ขายคนนั้นๆ อยู่ในมือ ซึ่งจะสามารถใช้ช่วยเหลือคุณได้ยามเมื่อเกิดปัญหาโดนเชิด (เงิน)
รูปสินค้าเชื่อถือได้จริงหรือ?
กฎข้อต่อมาที่ควรระมัดระวังและมีการตรวจสอบคือรูปถ่ายหรือภาพของสินค้าที่มีการลงประกาศขาย หลายๆ คนอาจเคยได้ยินกรณีการโกงในการซื้อขายของบนโลกออนไลน์ที่มีสาเหตุมาจากภาพสินค้าปลอมอยู่บ่อยๆ เช่น การนำเอาภาพสินค้ามาจากเจ้าของคนอื่นแล้วเอามาโมเมว่าเป็นของตัวเอง และหลอกคนซื้อให้โอนเงินให้ (ก่อน) สุดท้ายก็เชิดเงิน (หนีหายเข้ากลีบเมฆ) กว่าจะรู้ตัวอีกทีเงินของเราก็อาจจะสูญเอาง่ายๆ แล้วจะมีวิธีการยังไงบ้างในการตรวจสอบรูปเหล่านั้นว่าเป็นรูปจริง?
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าในปัจจุบันนั้น ทางหลายๆ เว็บไซต์เองที่มีตลาดออนไลน์ใหญ่ๆ อยู่ในมือ อย่างเช่น PDAMobiz, Overclockzone หรือ Pantipmarket ก็จะมีกฎ-กติกาในการโพสต์ภาพขายสินค้า โดยเฉพาะที่ PDAMobiz จะมีกฎ-กติกาให้ปฏิบัติก่อนทำการโพสต์รูปประกาศขายอยู่แล้ว คือการเขียนรายละเอียดของผู้ขาย (ชื่อ, Username, Tel., LINEID etc.) ลงบนกระดาษแล้วใช้ถ่ายคู่กับสินค้าเพื่อเป็นการยืนยันว่ามีสินค้าและเป็นเจ้าของสินค้าชิ้นนั้นๆ จริง (ตรวจสอบโดยการดู Username ที่ใช้โพสต์ต้องตรงกับ Username บนกระดาษ เป็นต้น) หรือใน Overclockzone เองที่ผู้ขายหน้าใหม่ๆต้องทำการ Verify (ยืนยันตัวตน) ก่อนการโพสต์ขายสินค้าและต้องโพสต์ขายสินค้าโดยมีรูปภาพประกอบ
อย่างไรก็ตามวิธีต่างๆ ข้างต้นเหล่านั้นก็เป็นการยืนยันตัวตนได้แค่ในระดับหนึ่ง แล้วเราจะมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถใช้ตรวจสอบภาพสินค้าได้อีกหรือไม่? วิธีที่ง่ายและรวดเร็ววิธีหนึ่งคือ การตรวจสอบที่มาของภาพโดยใช้ Google นั่นเอง เรามาลองดูวิธีการการตรวจสอบกัน
ราคาดี ราคาถูก ควรระวัง!
ของถูกและดี (อาจจะ) ไม่มีในโลก วลีนี้ยังคงใช้เตือนใจได้ดี ถ้าของราคาถูกเกินจนผิดสังเกต ให้สงสัยไว้ก่อนว่ามันน่าจะมีอะไร เพราะถ้าดีมันไม่น่าจะถูก และถ้ามันถูก (ส่วนใหญ่) มันก็มักจะไม่ดีหรืออาจจะไม่มีอยู่เลย (สินค้ามโน ไม่มีอยู่จริง) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อขายในโลกออนไลน์ที่เราไม่ได้มีโอกาสไปสัมผัส ไปจับ ไปลองใช้สินค้าชิ้นนั้นจริงๆ โอกาสที่จะเกิดหายนะกับเงินในกระเป๋าจึงมีไม่น้อย เพราะตามสัญชาตญาณของนักชอปนั้นอันว่าเห็นของถูกไม่ได้ อยากจะกระโจนเข้าใส่เหลือเกิน ซึ่งในหลายๆ ครั้งก็พลาดจนต้องมาเจ็บใจทีหลัง
นอกจากจะใช้วิธีการข้างต้นในการเช็กความน่าเชื่อถือจากสินค้าราคาถูกแล้ว ในสินค้าบางประเภทอย่างเช่น แลปทอป (โน้ตบุ๊ก) หรือโทรศัพท์มือถือ ต่างก็มีเว็บไซต์ที่คอยช่วยรวบรวมราคาสินค้า เช็กราคาและเปรียบเทียบราคากลางของสินค้าชนิดนั้นๆ ให้เราเอาไว้ดูเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอีกด้วย ทั้งนี้ในส่วนของเว็บไซต์เช็กราคา ภายในหน้าเว็บเพจก็อาจจะมีการบอกถึงคุณลักษณะพิเศษต่างๆ ของสินค้า รีวิวสินค้า และรายละเอียดประสบการณ์การใช้งานจากผู้ใช้จริงๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการหาข้อมูลให้แก่นักช็อปทั้งหลาย
จะเห็นได้ว่าในความเป็นจริงแล้วโลกออนไลน์เองก็มีข้อมูลที่เราสามารถหามาใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อของมือสองได้ด้วยตัวเอง ในกรณีของการเช็กราคาขายของสินค้านั้น หากเราไม่รีบร้อนที่จะซื้อ ลองใช้เวลาเช็กราคาที่มีอยู่ตามเว็บไซต์รีวิวต่างๆ หรือจะลองใช้ชื่อของสินค้าเสิร์ชหากระทู้ขายของตามเว็บ ก็จะช่วยให้เรารู้ราคากลางของการขายสินค้านั้นๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งเจ็บใจหากของที่เราเห็นว่าถูกมันดันไม่ดีอย่างที่คิด หรือร้ายกว่านั้น ไม่มีสินค้าอยู่จริง แต่เราดันโอนเงินไปซื้อลมซะอย่างงั้น
ยูสเซอร์ใหม่ประวัติการขายไม่มี ให้สงสัยไว้ก่อน
อีกเรื่องที่บางครั้งผู้ซื้อหลายๆ คนก็ไม่ค่อยได้นึกถึงหรือไม่ค่อยได้ใส่ใจเท่าที่ควร อย่างการเช็กประวัติผู้ขายในเบื้องต้นจากข้อมูลของ User ที่มีอยู่ในเว็บไซต์นั้นๆ เพราะอย่าลืมว่าหากมีประวัติการขายมาก่อน และ User ของผู้ขายไม่เคยมีประวัติการโดนร้องเรียนนั้นก็ช่วยการันตีให้เราอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง ในหลายๆ ครั้งที่ผู้ซื้อมักรีบร้อนจนเกินไปและตัดสินใจโอนเงินโดยไม่ได้เช็กข้อมูลง่ายๆ ในเบื้องต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลที่บอกถึงความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งเลย อย่างเช่น วันเวลาที่สมัคร User ที่บอกถึงระยะเวลาการเป็นสมาชิก และการเป็นที่รู้จักในเว็บไซต์นั้นๆ เพราะการใช้งานมานานก็เป็นส่วนหนึ่งที่ควรใส่ใจ เพราะนั่นหมายถึงการมีตัวตนจริงๆ ของผู้ขาย
การเช็กประวัติในการขายนั้นนอกจากผู้ซื้อจะเป็นคนเช็กแล้ว ในปัจจุบันผู้ขายบางคนก็ช่วยผู้ซื้อลดเวลาในการค้นหาประวัติของตนด้วยการโพสต์ลิงก์ประวัติการขายของตัวเองไว้ในหน้าเดียวกับหน้าที่ใช้ในการโพสต์ขายสินค้า เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าถึงประวัติการขายที่ผ่านมา หรือในบางกรณีลูกค้าเก่าที่เคยซื้อสินค้าชิ้นอื่นไปก่อนหน้าก็อาจจะเข้ามาช่วยรีวิวให้ หรือเข้ามาช่วยยืนยันความน่าเชื่อถือให้กับผู้ขาย ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ต่อคนซื้อไม่น้อย
บัญชีธนาคารคนขายเช็กยังไงว่าไม่ติด Black list?
มาถึงกฎข้อสำคัญอีกหนึ่งข้อ ซึ่งในปัจจุบันเป็นวิธีการชำระเงินยอดนิยมนั้นคือ การโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร และด้วยความที่สะดวกรวดเร็วก็ทำให้การติดตามทวงเงินเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะโอนปุ๊ปก็ตัดเงินปั๊บ เสียเงินทันที ดังนั้นก็มีหลายๆ เว็บไซต์ที่มีบอร์ดขายของออนไลน์พยายามหาทางแจ้งเตือนเพื่อนสมาชิกก่อนจะทำการโอนเงินเพื่อซื้อของ หนึ่งในนั้นก็คือ การแจ้งเลขที่บัญชีธนาคารซึ่งเข้าข่ายโกงหรือหลอกลวง หรือที่เรียกกันว่า Blacklist เพื่อเป็นการเตือนภัยตั้งแต่เนิ่นๆ โดยวิธีการก็อาจจะทำเป็นกระทู้ปักหมุดแล้วจั่วหัวกระทู้ว่า รายชื่อและเลขที่บัญชีที่ติด Blacklist เป็นต้น
แต่ถึงแม้จะมีความพยายามรวบรวมข้อมูลมาเก็บไว้เตือนภัยขนาดไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่มีทางเก็บข้อมูลได้ทั่วถึง และในบางครั้งก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่คนซื้อเองไม่ได้เช็กข้อมูลเหล่านี้ กระทู้แจ้งเตือนภัยหรือแจ้งเลขที่บัญชีโดน Blacklist จึงเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามแล้วคิดเอาเองว่า “เราคงไม่โดนหลอกหรอกมั้ง”
นัดรับของเองสบายใจกว่า
มาถึงในข้อสุดท้ายกันบ้าง (ที่เรียกได้ว่าสำคัญและปลอดภัยที่สุด) นั่นก็คือการนัดรับของหรือซื้อขายกันแบบเห็นหน้าเห็นตา แม้วิธีนี้จะเป็นวิธีที่เสียเวลาและอาจจะไม่สะดวกอยู่บ้าง แต่การนัดรับของนั้นแทบจะทำให้โอกาสโดนหลอกหรือเชิดเงินแทบจะกลายเป็น 0 ไม่ว่าจะเป็นกรณีการโดนหลอกส่ง EMS แต่ไม่ส่ง, การโดนหลอกยัดของปลอมมากับไปรษณีย์ หรือการส่งของไม่ครบ เหล่านี้ตัดโอกาสที่จะเกิดขึ้นทิ้งไปได้เลยหากเรานัดรับของเอง นอกซะจากว่านัดรับของเองแต่ของที่เอามาขายดันเป็นของย้อมแมวหรือของปลอม กับกรณีที่คนขายเกิดหน้ามืดวิ่งราวเงินของเราไปต่อหน้าต่อตา (คือถ้าจะซวยขนาดนั้น) หรือเซ็งสุดก็อาจจะโดนปล่อยให้รอเก้อ
แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัย (ในยุคที่ไว้ใจใครไม่ได้ทั้งสิ้น) หากเราจะนัดไปซื้อของก็ไม่ควรจะออกไปคนเดียว (โดยเฉพาะผู้หญิง) ควรจะพาเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปเป็นเพื่อน หากเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย หรือเลือกสถานที่นัดดูของเป็นแหล่งชุมชนที่มีคนพลุกพล่านก็จะช่วยได้มาก และที่สำคัญหากจะตัดสินใจซื้อของที่มูลค่ามากๆ ก็ควรศึกษาหาข้อมูลไว้บ้างเพื่อใช้ในการตรวจเช็กสินค้า เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าไม่ถูกหลอกเงินแต่ถูกเอาของย้อมแมวมาหลอกขายไปซะเปล่าๆ
คิดว่าอ่านมาถึงตรงนี้ผู้อ่านหลายๆ คนก็อาจจะเริ่มนึกกลัวที่จับจ่ายซื้อของในโลกออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงนั้นในทุกๆ สังคมต่างก็มีปะปนกันไปทั้งคนดีและคนไม่หวังดี การซื้อของในโลกออนไลน์ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ปลอดภัยไปซะทั้งหมดเหมือนกับที่ซื้อของตามห้างก็ใช่ว่าจะได้ของที่ไม่มีตำหนิเลย ดังนั้นสิ่งที่จะป้องกันตัวเราจากการโดนหลอก โดนเชิดเงิน หรือเสียเงินฟรีก็คงจะมีแค่ตัวเราเองเท่านั้น ก่อนจะยอมจ่ายเงินซื้ออะไรออกไปขอให้ท่องไว้ให้ขึ้นใจเลยว่า ก่อนจ่ายเงินเราคือพระเจ้า แต่พอจ่ายเงินไปแล้วกลับเอาคืนมายากมากๆ หากไม่มั่นใจจริงๆ ก็อย่าเพิ่งโอนเงินให้ใครไปก่อนจะดีที่สุด