กลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้งสำหรับสมาร์ทโฟนจาก Sharp โดยรอบนี้บริษัท คอมติวา เทคโนโลยี จำกัด ถือสิทธิ์เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งครั้งนี้ทีมงาน Comtoday (www.aripfan.com) มีรีวิว Sharp Z2 หนึ่งในสองสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจาก Sharp มาให้ติดตามกันครับ
Sharp Z2 มีสเปคดังนี้
– ขนาดความหนาตัวเครื่องอยู่ที่ 8.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 160 กรัม
– หน้าขนาด 5.5 นิ้ว แบบ LTPS ความละเอียด Full HD
– ใช้งานได้ 2 ซิม ประเภท NANO SIM
– ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
– ชิปประมวลผล MediaTek Helio X20 MT6797 Deca-Core (Dual-A72 2.3GHz + Quad-A53 2.0GHz + Quad-A53 1.4GHz )
– แรม 4GB, รอม 32GB รองรับ microSD card ความจุสูงสุด 128GB
– กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชคู่ True Tone และเทคโนโลยีโฟกัส PDAF
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.8
– พอร์ตเชื่อมต่อ USB-Type C
– รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.1, Wi-Fi 802.11 a b/g/n, GPS/AGPS, 2G/3G/4G ใช้งานได้ทุกคลื่น 900 /850 /1800 /2100 MHz
– แบตเตอรี่ความจุ 3000mAh
– ตัวเครื่องมีสีทองกับสีน้ำเงิน
– ราคา 9,990 บาท
การออกแบบ
ตัวเครื่องด้านหน้าครอบด้วยกระจกทับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว เหนือหน้าจอจะเป็นตำแหน่งกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ลำโพงสนทนา รูไมโครโฟนขนาดจิ๋ว และเซนเซอร์ตัววัดแสง ส่วนถัดลงมาจากหน้าจอจะไม่มีปุ่มใดๆ เนื่องจากปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม home และปุ่ม Recent app (ปุ่มปิดแอพที่เปิดค้างไว้) เป็นแบบ on-screen เรียงอยู่ท้ายสุดบนหน้าจอ
ตัวเครื่องด้านหลังเป็นโลหะที่ครอบมาถึงขอบด้านข้าง มีความเรียบง่ายในการออกแบบ ดูดีและสวยงาม ประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, รูไมโครโฟนขนาดจิ๋วตัวที่สอง, แฟลชคู่ True Tone และปุ่มสแกนลายนิ้วมือ ลงท้ายด้วยโลโก้ Sharp
บริเวณขอบทั้งสี่ด้าน ด้านบนเป็นช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร กับอินฟาเรด ขอบด้านขวาเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง กับปุ่มพาวเวอร์ ขอบด้านซ้ายเป็นถาดสำหรับใส่ NANO SIM ได้ 2 ซิม และต้องย้ำเหมือนสมาร์ทโฟน Android หลายๆ รุ่นว่า หากใส่ 2 ซิมพร้อมกันจะใส่ microSD card ไม่ได้ ขณะที่ส่วนสุดท้ายขอบล่างสุดเป็นพอร์ต USB-Type C กับลำโพงเสียง
การทดสอบเมนูต่างๆ
ซอฟต์แวร์พื้นฐานเป็น Android 6.0 Marshmallow มีการปรับแต่ง UI เล็กน้อย โดยเฉพาะหน้า home จากเดิมที่จะทัชดูแอพไปมาได้แค่ด้านซ้ายและขวา แต่ใน Sharp Z2 เพิ่มคุณสมบัติให้ทัชขึ้นลงเป็นแนวตั้งเพื่อดูแอพได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งลูกเล่นเล็กๆ ที่พัฒนาให้ดูแตกต่าง ส่วนแอพที่มาพร้อมกับเครื่องล้วนเป็นแอพพื้นฐานสำหรับใช้งานทั่วไปทั้งหมด ไม่มีแอบแฝงแอพจาก Sharp เองหรือเกมใดๆ มาด้วย
เมนูต่างๆ ไม่มีอะไรที่หวือหวาเท่าใด จะเน้นเรื่องง่ายๆ ที่ให้ประโยชน์และผู้ใช้มีแนวโน้มใช้งานเป็นประจำ เช่น ตัวประหยัดพลังงานจะอยู่ในเมนูแบตเตอรี่ มีให้เลือกหลายแบบเอาไว้ใช้ตามที่เราคิดว่าเหมาะสม, การเคลื่อนที่ เมนูสำหรับการใช้ท่าทางเพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้า / ปิดเสียง / โทรและรับสายโดยตรง เป็นต้น ขณะที่ฟีเจอร์พื้นฐานอย่างสแกนลายนิ้วมือสำหรับล็อกหน้าจอ เมื่อเลือกใช้งานจะสามารถสแกนเพื่อปลดล็อกหน้าจอได้แม้ในขณะปิดหน้าจออยู่
กล้องถ่ายภาพ
จากความละเอียดของกล้องหลังที่ให้มาถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชคู่ True Tone และเทคโนโลยีโฟกัส PDAF เป็นจุดเด่นของ Sharp Z2 เลยก็ว่าได้ ในเมนูการตั้งค่าของกล้องสามารถเปิดใช้งานป้องกันการสั่น, การตรวจจับใบหน้า รวมไปการจับภาพบุคคลในขณะยิ้ม โหมดอื่นๆ ที่ใช้ได้กับกล้องหลังมีตั้งแต่โหมดปกติ, โหมด PIP ที่สามารถถ่ายภาพจากกล้องหลังและเปิดกล้องหน้าพร้อมกันไปด้วย, มีโหมดพาโนรามา และสุดท้ายมีฟิลเตอร์สำหรับปรับสี เรียกได้ว่าโหมดมีให้เลือกค่อนข้างจำกัด ไม่มีโหมด Pro มาให้
อินเทอร์เฟซของกล้องถ่ายถาพ
โหมด PIP
ส่วนการบันทึกวีดีโอตามที่ระบุไว้ในเมนูการตั้งค่าจะสามารถเลือกความละเอียดสูงสุดได้ที่ 4K2K ซึ่งจากที่ทดสอบบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุดไฟล์ความละเอียดจะอยู่ที่ 3840 x 2160 พิกเซล
เมนูบันทึกวีดีโอ
ขณะที่กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.8 มีโหมด Beuty มาให้ และจะเปิดใช้งานอัตโนมัติทันทีที่เซลฟี่ สามารถปรับระดับความน่าเนียนใสได้ มีตัวเลือกปรับแต่งให้น้อย
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปภาพรวม รีวิว Shazp Z2
ในแง่ของการออกแบบมาในแนวเรียบง่าย ใช้โลหะเป็นวัสดุสำหรับฝาหลังเพื่อให้ดูหรูหรา ด้านหน้าเป็นกระจก แต่สิ่งที่สังเกตได้จากหน้าจอแสดงผลในระหว่างที่ปิดหน้าจอจะเห็นว่าขอบหน้าจอเกือบชิดตัวเครื่อง จนเหมือนจะเป็นสมาร์ทโฟนไร้ขอบ แต่ทันใดที่เปิดหน้าจอขึ้นมาจะพบว่าการแสดงผลไม่แสดงเต็มพื้นที่ สีสันของการแสดงผลอาจดูจืดเล็กน้อย แต่สิ่งที่ปรากฎบนหน้าจอก็นับว่าให้ความชัดเจนอยู่ในระดับพอใช้ ส่วนของ UI ที่ home screen เป็นความตั้งใจที่จะสร้างความแตกต่างด้วยการเพิ่มการทัชขึ้นลงเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้รองรับการติดตั้งแอพในจำนวนมาก แต่ด้วยความเคยชินของผู้ใช้สมาร์ทโฟนการเพิ่มความแตกต่างนี้อาจเป็นการสร้างความยุ่งยากได้ง่าย
มีความทันสมัยด้วยพอร์ต USB-Type C แม้จะไม่ล้ำหน้า แต่ก็ช่วยในการรับส่งไฟล์ข้อมูลได้รวดเร็ว กล้องหลังจับโฟกัสอาจไม่ว่องไวนะ แต่เมื่อภาพถ่ายออกมาค่อนข้างมีสีสันที่ชัดเจน ตัวเลือกในการใช้งานน้อย ขณะที่กล้องหน้าไว้เซลฟี่ได้ระดับพอใช้
Sharp Z2 มีจำหน่าย 2 สี คือสีทอง และสีเงิน ในราคา 9,990 บาท สามารถหาซื้อได้ผ่านเครือข่ายทรูมูฟ เอช รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 3,000 บาท พร้อมเล่นเน็ต 4G+ แบบ NON-STOP เพียงเปิดเบอร์ใหม่, ย้ายค่ายเบอร์เดิมเป็นทรูมูฟ เอช แบบรายเดือน, หรือเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน พร้อมสมัครแพ็กเกจ 4G+ Super Smart 499 ขึ้นไป และชำระค่าบริการรายเดือนล่วงหน้าตามที่กำหนด
ขอขอบคุณ บริษัท คอมติวา เทคโนโลยี จำกัด สำหรับ Sharp Z2 ในการรีวิวครั้งนี้