เซนไฮเซอร์ เผยโฉมหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ Sennheiser MOMENTUM True Wireless 4 (MTW4) ซึ่งเป็นเอียร์บัดรุ่นเรือธงของปีนี้ให้สื่อมวลชนและพาร์ทเนอร์ได้สัมผัสครั้งแรกในประเทศไทยภายในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ HEAR MORE THAN MUSIC โดย MTW4 อัดแน่นด้วยการอัปเกรดฟีเจอร์และเทคโนโลยีมากมายเพื่อเหล่าออดิโอไฟล์ อาทิ เทคโนโลยี Snapdragon Sound™, เทคโนโลยี Qualcomm® aptX™ Lossless, Auracast™, โหมดความหน่วงต่ำพิเศษ (Ultra-low-latency mode) และโดดเด่นด้วยคุณภาพเสียงอันไร้ที่ติ นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการเปิดตัวหูฟัง MOMENTUM Sport หูฟังไร้สายสำหรับผู้รักการออกกำลังกาย และหูฟัง ACCENTUM Plus หูฟังไร้สายแบบครอบหูที่ให้เสียงทรงพลังและมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 50 ชั่วโมง
“คุณภาพเสียงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกค้าของเราเสมอมา และเราเล็งเห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการใช้งานในชีวิตจริง ซึ่งหูฟัง MOMENTUM True Wireless 4 ตัวใหม่นี้มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์คุณภาพสูง และเทคโนโลยีไร้สายที่หลากหลายที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา ทำให้หูฟังของเราสามารถเติบโตไปพร้อมกับความต้องการของผู้ใช้งานไม่ว่าพวกเขาจะมีความต้องการที่หลากหลายมากแค่ไหน หรือไม่ว่าความต้องการในอนาคตจะเป็นอย่างไร” แคนิส โกห์ ผู้จัดการทั่วไปของ Sonova Consumer Hearing Singapore กล่าว
หูฟังแห่งอนาคต
MOMENTUM True Wireless 4 นำเสนอยุคสมัยใหม่สำหรับหูฟังไร้สาย โดยผสมผสานคุณภาพเสียงที่เหนือชั้น ฟีเจอร์ที่ล้ำสมัย และการสวมใส่ที่สบายสำหรับแต่ละบุคคล เมื่อเปิดใช้งานหูฟัง MOMENTUM True Wireless 4 คุณจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยี Bluetooth® 5.4 ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ และความเสถียรภาพที่เหนือกว่า หูฟังรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Qualcomm® S5 Sound Gen 2 ด้วยเทคโนโลยี Snapdragon Sound ทำให้สามารถรองรับ Codec เสียงตัวใหม่ล่าสุดอย่าง aptX Lossless และ aptX Adaptive Audio พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth LE Audio, LC3 และ AURACAST หลังการอัปเดตเฟิร์มแวร์ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้เองทำให้หูฟัง MOMENTUM True Wireless 4 กลายเป็นคลื่นลูกใหม่ของเซนไฮเซอร์ ที่มาพร้อมกับความเป็นไปได้ไม่รู้จบ พร้อมให้คุณดื่มด่ำกับเสียงระดับพรีเมียมในย่านความหน่วง (Latency) ที่ต่ำเป็นพิเศษ
เทคโนโลยีรับสัญญาณสุดล้ำ
แม้ว่าเทคโนโลยีไร้สายจะรองรับได้อย่างครอบคลุมมากแค่ไหนก็ตาม แต่คงไม่มีประโยชน์ถ้าไม่มีฮาร์ดแวร์ที่ดีมารองรับ ดังนั้น MOMENTUM True Wireless 4 ของเซนไฮเซอร์จึงนำเอาเทคโนโลยี Qualcomm® RF Front End (RFFE) มาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีทรานสดิวเซอร์ TrueResponse อันโด่งดังของเซนไฮเซอร์ เสาอากาศที่ได้รับการออกแบบใหม่ ช่วยให้สามารถรับคลื่นวิทยุ (RF) ได้ดีขึ้น มีค่าอัตราส่วนระหว่างสัญญาณกับสัญญาณรบกวนที่ดีขึ้น และการสลับบทบาทแบบไดนามิกได้ดียิ่งขึ้นเพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วขึ้น และมีความต่อเนื่องของสัญญาณที่ดียิ่งขึ้นในขณะเดินทาง “เราร่วมมือกับเซนไฮเซอร์มาอย่างยาวนานและรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นพวกเขาผสานรวมเทคโนโลยี Snapdragon Sound ตัวล่าสุดของเราเพื่อช่วยให้หูฟังรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง MOMENTUM True Wireless 4 ถ่ายทอดเสียงแบบไร้สายออกมาได้อย่างน่าทึ่ง” ไมค์ คาเนวาโร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท Qualcomm Technologies, Inc. กล่าว
หูฟัง MOMENTUM True Wireless 4 ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 7.5 ชั่วโมง และยังสามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงเมื่อชาร์จผ่านเคสใส่หูฟัง นอกจากนี้ ฟีเจอร์ชาร์จไวยังช่วยให้คุณสามารถดื่มด่ำกับเสียงระดับออดิโอไฟล์ได้สูงสุดถึง 1 ชั่วโมงจากการชาร์จเพียง 8 นาที เคสชาร์จที่มาพร้อมพอร์ต USB-C ของเรา ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เคสชาร์จตัวเก่งนี้ ยังรองรับการชาร์จไร้สายผ่านมาตรฐาน Qi คุณจึงมั่นใจได้ว่าโต๊ะของคุณจะเป็นระเบียบไม่มีสายพันรกรุงรังแน่นอน และเพื่อให้หูฟัง MOMENTUM True Wireless 4 นี้มีอายุการใช้งานสูงสุด เซนไฮเซอร์ยังได้อัปเกรดประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในระยะยาว ด้วยโหมด Battery Protection ซึ่งจะปรับรอบการชาร์จให้เหมาะสม เพื่อให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยืนยาวส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถใช้หูฟังได้นานกว่า
MOMENTUM True Wireless 4
เจเนอเรชันใหม่ของฟีเจอร์ฮิต
ไมโครโฟนจำนวน 6 ตัวในหูฟัง MOMENTUM True Wireless 4 ช่วยให้หูฟังมีการรับเสียงที่ดียิ่งขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของ Adaptive Noise Canceling ให้สามารถตอบสนองต่อเสียงรบกวนรอบข้างของผู้สวมใส่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อีควอไลเซอร์แบบปรับได้จะตรวจสอบและชดเชยความถี่เสียงเพื่อความสม่ำเสมอของเสียงในทุก ๆ แนวดนตรี และประเภทของคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ พ็อดคาสท์ หรือเกม นอกจากนี้ฟีเจอร์ยอดนิยมอย่าง Sound Personalization, Sound Zone และ Sound Check ก็ได้ถูกนำมาใส่ในหูฟังเจเนอเรชันใหม่นี้ผ่านแอปพลิเคชัน Smart Control (ใช้งานได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android)
อแดปเตอร์และจุกหูฟังได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อการปกป้องหูฟังจากสิ่งสกปรกที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้ว MOMENTUM True Wireless 4 ยังมาพร้อมกับคาแร็คเตอร์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อเหล่าออดิโอไฟล์ ไม่ว่าจะเป็น การตอบสนองเสียงแหลมที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น เสียงเบสที่หนักแน่น และประสิทธิภาพเสียงกลางอันโดดเด่นตามแบบฉบับของหูฟังออดิโอไฟล์ของเซนไฮเซอร์ MOMENTUM True Wireless 4 ยังมาพร้อมกับชุดอุปกรณ์เพื่อการสวมใส่ที่พอดี ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใส่หูฟังได้อย่างมั่นคงไม่หลุดร่วง ในขณะที่ยังคงความสะดวกสบายในการสวมใส่อยู่ด้วยจุกหูฟังและ Ear fins ขนาดต่าง ๆ ที่ให้มา เพื่อการตอบสนองเสียงเบสที่เหมาะสมและประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนสำหรับผู้ฟังทุกคน
“นอกเหนือไปจากเพลงสตรีมมิ่งความละเอียดสูงกว่าร้อยล้านรายการแล้ว เทคโนโลยีเสียงแบบไร้สายยังช่วยพัฒนาวิถีชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้นได้ ลองนึกภาพการมีส่วนร่วมกับนิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟของพิพิธภัณฑ์ในช่วงวันหยุด รับชมการถ่ายทอดสดกีฬาท่ามกลางสนามบินที่เสียงดังขณะรอเครื่องบิน หรือเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การชมภาพยนตร์อันเงียบสงบบนเครื่องบิน ทั้งหมดนี้สามารถเป็นไปได้ได้ด้วยหูฟัง MOMENTUM True Wireless 4 ” แคนิส โกห์ กล่าวเสริม
MOMENTUM Sport
All-new MOMENTUM Sport: ผสานศาสตร์แห่งการกีฬาและเสียงอย่างลงตัว
ภายในงาน เซนไฮเซอร์ยังมีการเปิดตัวหูฟัง MOMENTUM Sport เพื่อเสริมทัพให้กับไลน์อัพหูฟัง MOMENTUM อีกด้วย โดย MOMENTUM Sport นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับเหล่านักกีฬาและผู้ที่รักในการออกกำลังกาย โดยผสานรวมเซ็นเซอร์อินเอียร์ไบโอเมตริกอันล้ำสมัยเข้ากับหูฟัง เพื่อตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิของร่างกาย ในขณะเดียวกันก็ยังมอบคุณภาพเสียงอันไร้ที่ติ ยกระดับการใช้งานขึ้นไปอีกขั้น
หูฟัง MOMENTUM Sport นี้ ได้รับการขับเคลื่อนโดย Polar ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ไบโอเซนเซอร์และอีโคซิสเต็มการวิเคราะห์ข้อมูลชั้นยอดของ Polar ผ่าน Polar Flow แอปพลิเคชันสำหรับเทรนนิ่งและออกกำลังกาย โดยความร่วมมือกับ Polar ในครั้งนี้ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟีเจอร์การออกกำลังกายต่าง ๆ ได้ เช่น Expert-tier performance tracking, Training analytics, Smart coaching และ voice guidance ข้อมูลการออกกำลังกายและอุณหภูมิร่างกายจะถูกวัดและเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ผ่านหูฟัง เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทราบข้อมูลเชิงลึกได้ทันทีระหว่างการฝึกซ้อมและจะถูกจัดเก็บไว้เพื่อการวิเคราะห์หลังการฝึกทั้งในแอปพลิเคชัน Polar Flow และบนเบราว์เซอร์เดสก์ท็อป นอกจากนี้ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจที่วัดจาก MOMENTUM Sport นี้ ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์และแอปพลิเคชันกีฬายอดนิยม อาทิ Apple Watch (Health), Garmin Watch (Connect), Strava, Peloton และอื่น ๆ อีกมากมายได้อย่างง่ายดาย
ACCENTUM Plus
All-new ACCENTUM Plus: อีกระดับของประสบการณ์การฟัง
นอกจากนี้ เซนไฮเซอร์ยังเปิดตัวหูฟังครอบหู ACCENTUM Plus ที่นำเอาฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่แฟน ๆ ชื่นชอบมาสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ โดดเด่นด้วยความเชี่ยวชาญด้านเสียงของเซนไฮเซอร์ การควบคุมด้วยระบบสัมผัสอัจฉริยะ การตัดเสียงรบกวน Hybrid Adaptive Noise Cancellation และงานผลิตระดับพรีเมี่ยม มอบประสบการณ์การฟังอันยอดเยี่ยมในราคาที่ถูกลง ด้วยแบตเตอรี่ระดับท็อปของตลาด ใช้งานยาวนานถึง 50 ชั่วโมงต่อหนึ่งการชาร์จและคุณภาพเสียงเทียบเท่าการฟังแบบเชื่อมต่อสาย คุณจึงอาจลืมไปเลยว่าจริง ๆ แล้ว ACCENTUM Plus เป็นหูฟังไร้สาย หูฟังตัวเก่งนี้มาพร้อมกับ Bluetooth® 5.2 ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพเสียงอันโดดเด่นและการเชื่อมต่อที่หลากหลาย รองรับตัวแปลงสัญญาณยอดนิยมมากมายรวมไปถึง aptX™ Adaptive เพื่อเสียงที่ดีที่สุดในทุก ๆ ที่ที่คุณใช้งานหูฟัง อีกทั้ง ไดนามิกทรานสดิวเซอร์ขนาด 37 มม. ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเซนไฮเซอร์ยังรวมเอาโหมด Sound Personalization ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์อันยาวนานกว่า 75 ปีในอุตสาหกรรมเพื่อให้เหมาะกับความชอบด้านเสียงของผู้ฟัง โดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพเสียงเบสและรายละเอียดอันโดดเด่นของแบรนด์เซนไฮเซอร์
ราคาและการวางจำหน่าย
MOMENTUM True Wireless 4 จัดจำหน่ายในราคา 11,890 บาท มาพร้อมกับ 3 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ Black Copper, Black Graphite และ White Silver
MOMENTUM Sport จัดจำหน่ายในราคา 11,890 บาท มาพร้อมกับ 3 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ Polar Black, Burned Olive, and Metallic Graphite
ACCENTUM Plus จัดจำหน่ายในราคา 8,990 บาท มีสองสีให้เลือก ได้แก่ Black และ White
โดยผลิตภัณฑ์ทั้งสามรุ่นนี้จะวางขายที่ Munkong Online, Com7, King Power, Betrend, 425degree, และ Mercular ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2024 เป็นต้นไป