หลังเจอสารพัด “งานหลวง” ที่ประเดประดังเข้ามาอย่างเมามัน ทำให้ผมต้องห่างหายกับมันไปซะนาน กว่าจะมีโอกาสจับมันมารีวิว ฝุ่นก็เกาะตัวมันจนผมหลงนึกว่า “ใครเอาหูฟังรุ่นปู่มาไว้ตรงนี้(ว่ะ)” ไปซะแล้ว สุดท้ายก็ก่ะว่าจะปัดฝุ่น ลองหยิบมาฟังขำ ๆ แล้วไปทำอย่างอื่นต่อ แต่หลังฟัง ไป 4 เพลงเท่านั้นแหล่ะ เข้าโหมดรีวิวจริง ๆ จัง ๆ ทันที
เรียบหรูสไตล์ Sennheiser ในซีรีย์ Momentum สำหรับแฟน ๆ หูฟัง Sennheiser น่าจะรู้จักกันดีถึง (ราคา) ความพรีเมี่ยมในฐานะหูฟังระดับ TOP แต่ตัวที่ผมได้มานี้ จะเป็นในรุ่น On-Ear ซึ่งหมายถึงรุ่นย่อส่วน ที่ลดขนาดให้เหมาะสำหรับใส่พกพาและใช้กับสมาร์ทโฟนมากขึ้น แต่วัสดุและการออกแบบ ยังคงเรียบหรูเหมือนเคย ส่วนพลังเสียงจะขนาดไหน สมราคาเฉียดหมื่นหรือไม่ มาติดตามกันครับ
แกะกล่อง
เพื่อให้ได้อรรถรส กรุณาเปิดเพลงนี้ไปด้วย ขณะอ่านรีวิว
กล่องว่าหรูแล้ว แต่ที่หรูยิ่งกว่าคือกระเป๋าใส่หูฟังของมันเนี่ยแหล่ะ มาเป็นผ้าสีดำ ที่เหมือนเอาผ้าเบาะรถยนต์หรูมาทำ ตรงขอบก็กั้นด้วยผ้าหนาสีดำอีกที และมีรอยเย็บอย่างประณีตโดยรอบ ภายในก็เป็นผ้าซับในอย่างดี นุ่มทีเดียว
ดีไซน์
หลังเช็คฝุ่นเรียบร้อย ก็ได้ยินคำว่า “พรีเมี่ยม” ลอยมาขึ้นมาทันที เพราะเมื่อลองลูบ ๆ คลำ ๆ ดูแล้ว รู้สึกเลยว่า วัสดุที่ใช้นี้ ไม่ธรรมดา ทั้งนี้ก็ต้องขอชมเลยว่า เจ้า Sennheiser Momentum On-Ear ออกแบบได้สวยและลงตัวจริง ๆ ที่แม้จะออกแบบให้มีทรงคลาสสิค แต่ก็ไม่โบราณซะทีเดียว โดยรวม ๆ แล้ว ให้ความรู้สึก “อินดี้” มากกว่า
ดูกันอีกมุมครับ
จุดสังเกต
มาดุที่วัสดุกันก่อน หลังไปหาข้อมูลมา ก็พบว่า ทาง Sennheiser ได้นำเอาผ้ากำมะหยี่ของ Alcantara® ที่ใช้ทำเบาะรถสปอร์ตโดยเฉพาะ มาหุ้มบนที่รองศีรษะของเจ้า Momentum On-Ear ด้วย ทำให้ใส่แล้วนุ่มสบายหัวสุด ๆ ทั้งยังมีการเดินด้ายตะเข็บ ให้ความรู้สึกหรูหราและความปราณีตเข้าไปอีก แต่อย่างไรก็ตาม ผ้ากำมะหยี่นี้มีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ อมฝุ่นไปนิด ต้องคอยมาปัดฝุ่นออกเป็นบางครั้ง
ถัดมาคือ การขึ้นโครงด้วยสเตนเลสขัดผิว (stainless steel) ที่มีความเงางามเป็นพิเศษ สร้างความสวยงามและความทนทานให้พอสมควร ที่สำคัญไม่หนักด้วย ทำให้เวลาสวมใส่แทบไม่รู้สึกเลยว่าใส่อยู่ (ขนาดนั้นเลย) ทั้งนี้มันยังมีช่องสำหรับเลื่อนตำแหน่งของหูฟัง ทำให้กำหนดการสวมใส่ที่เข้ากับหัวคนนั้น ๆ ได้อีกด้วย
ใน Ear Cups หรือตัวฟองน้ำ จะใช้วัสดุเดียวกับที่รองศรีษะ ซึ่งก็คือผ้ากำมะหยี่ Alcantara® นั้นเอง แต่เมื่อมาหุ้มในส่วนนี้ ก็จะมีความนุ่มสบายกว่ามาก ๆ สามารถระบายความร้อนชื้นได้ดีทีเดียว ส่วนภายในจะเป็นฟองน้ำสีส้มปิดตัว Driver ขนาด 40 มม. ภายในอีกที เพื่อให้มีการตัดสีกัน (ถึงจะเป็นสีส้ม แต่ก็เป็นสีส้มที่ซีดเหมือนผ่านการใช้งานมานาน)
จุดสังเกตุอย่างสุดท้าย จะเห็นได้ว่า เราสามารถถอดสายแยกกับตัวหูฟังได้เลย (ไม่มีบลูทูธนะ) แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ ตรงปลายสาย (2.5 มม.) ที่เอาไว้สำหรับเสียบกับตัวหูฟัง มันมีร่องเล็ก ๆ สำหรับหมุนล็อคกับตัวหูฟังอยู่ ทำให้สายไม่หลุดออกมาง่าย ๆ นั้นเอง ส่วนปลายสาย (3.5 มม.) จะเป็นแบบหัก ส่วนสุดท้ายที่รุ่น On – Ear จะไม่มีไม่ได้เลยคือ ปุ่ม Controller ควบคุมการเล่น ที่เมื่อก่อนใช้ได้กับ iOS เท่านั้น ตอนนี้ใช้ได้ทั้ง Android และ iOS แล้ว
เสียงเป็นไง
มาถึงส่วนสำคัญแล้ว สำหรับคุณภาพเสียงที่จะออกมาดูสมค่าตัวหรือเปล่า ก่อนอื่นมาดูสเปกกันก่อน สำหรับเจ้า Sennheiser Momentum On-Ear ตัวนี้ ตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 16 – 22,000Hz มีค่า Impedance 18Ohm มี SPL หรือความดันเสียงอยู่ที่ 112dB (ดูแบบเต็ม ๆ ได้ที่นี้)
ไม่รู้ว่าหูฟังตัวที่ผมได้มานี้ผ่านการ Burn-in มาหรือยัง แต่ตอนที่อยู่กับผมยังไม่ได้ทำนะครับ ในการเทสเสียง ผมจะใช้สมาร์ทโฟน Sony ZR และ SBH20 เป็นตัวทดสอบ ร่วมกับแอพฯ ฟังเพลงออนไลน์อย่าง JOOX เนื่องจากแอพฯ ตัวนี้ สามารถใช้ระบบเสียง DTS Surround ได้ด้วย และมีเพลงให้เลือกสรรเพียบ ดังนั้นจึงจัดเลยครับทุกแนว ผลคือ….
- ไม่เหมาะกับแนว Rock, Metel, Dance และ Hip-Hop แต่เหมาะกับแนว POP, Classic, Conutry, และ Jass เป็นที่สุด
- บุคลิกเสียงของ Momentum On-Ear ไปทางสุขุม นุ่มลึก และดาร์ก (คือเสียงโดดเด่นย่านต่ำเป็นพิเศษ)
- เสียงกลางออกไม่เยอะ เอาไปดูหนังหรือเล่นเกมไม่เหมาะนัก
- เสียง Bass แม้จะไม่จัดจ้านกระเทือนหู แต่ฟังแล้วละมุนหูดี (เชื่อว่าถ้าจับเบิร์นหน่อย น่าจะติ๊บกว่านี้)
- ซาวด์สเตจกำลังพอดี
- ฟังเพลงแนว Acoustic ได้แจ่มมากกก (สาเหตุที่ผมจับรีวิวเลย)
เมื่อลองใช้ MOMENTUM On-Ear ฟังเพลงนี้เข้าไป…….ヽ(´Д｀)人(´Д｀)人(´Д｀)ノ
สรุป
สำหรับหน้าตากับวัสดุ ถือว่าผ่าน สมกับเป็นหูฟังระดับพรีเมี่ยมของแบรนด์ Sennheiser ส่วนคุณภาพเสียง ก็ต้องบอกก่อนว่า การฟังของแต่ล่ะคนอาจไม่เหมือนกัน ส่วนที่เขียนไว้ก็เป็นไปตามที่ผมรู้สึกจริง ๆ ดังนั้นถ้าใครจะเชื่อตามที่ผมบอก ผมก็ขอบอกว่า “มันเกิดมาเพื่อเพลง Classic และ Acoustic อย่างแท้จริง” โดยรวม ๆ แล้ว จัดเป็นหูฟังที่ฟังสบาย เน้นฟังเพลิน ๆ มากกว่า แต่ถ้าจะเอาไปฟังเพลงแนวกระแทกหู อย่าง Rock, Metal บอกเลยว่าไม่เหมาะครับ แต่ก็ไม่ถึงกับฟังไม่ได้เลย ถ้าเอาไปต่อกับ Amplifier Portable ก็ไม่แน่ (มือถือผมอาจยังขับเสียงได้ไม่ดีพอ) ขอบอกทิ้งท้ายว่า หูฟังตัวนี้เก็บเสียงได้ดีทีเดียว ดังนั้นใครที่คิดจะเอาไปฟังข้างนอก แนะว่า “ดูทางให้ดี ๆ” เพราะคุณจะไม่ได้ยินเสียงภายนอกเลย
