ซีเกท เทคโนโลยี ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ประจำปีพ.ศ. 2565

  • รายได้รวม อยู่ที่ 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • กำไรจากการดำเนินงานที่คำนวณตามหลักการบัญชีมาตรฐานจากคณะกรรมการการบัญชีการเงิน (GAAP Operation margin) คิดเป็น 6% : กำไรจากการดำเนินงานที่ไม่ได้คำนวณตามหลักมาตราฐานการบัญชี (Non-GAAP operation margin) คิดเป็น 19.9%
  • กำไรสุทธิต่อหุ้นปรับลดที่คำนวณตามหลักการบัญชีมาตรฐานจากคณะกรรมการการบัญชีการเงิน (GAAP diluted EPS) อยู่ที่ 23 ดอลลาร์สหรัฐ : กำไรสุทธิต่อหุ้นปรับลดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักมาตราฐานการบัญชี (Non-GAAP diluted EPS) อยู่ที่ 2.41 ดอลลาร์สหรัฐ
  • กระแสเงินสดจากการดำเนินงานอยู่ที่ 521 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกระแสเงินสดอิสระ อยู่ที่ 426 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • คืนเงินจำนวน 622 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้ผู้ถือหุ้นผ่านทางเงินปันผลและซื้อหุ้นสามัญคืน จำนวน 1 ล้านหุ้น
  • กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของปีปฏิทินอยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกระแสเงินสดอิสระของปีปฏิทิน อยู่ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซีเกท เทคโนโลยี โฮลดิ้งส์ รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564

“ปี 2564 ถือเป็นปีที่โดดเด่นอีกปีหนึ่งของซีเกท เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เรามีรายได้เพิ่มมากขึ้น 18% และยิ่งไปกว่านั้น กระแสเงินสดก็มีการเติบโตขึ้น 39% ซึ่งทำให้เราสามารถจ่ายผลตอบแทนต่อเงินลงทุนได้ในระยะยาว”  นายเดฟ มอสลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซีเกทกล่าว

“รอบปีดำเนินงานนี้ จะถูกต่อยอดจากการดำเนินงานอันแข็งแกร่งในช่วงเดือนธันวาคมที่เราสามารถสร้างรายรับได้สูงที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งมาจากจำนวนความต้องการสินค้าคุณภาพสูงของเราเพื่อธุรกิจระบบฐานข้อมูลบนคลาวด์  ซีเกทยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองสภาวะธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุกวัน และหากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญระดับมหภาคเพิ่มเติม ซีเกทหวังว่าผลประกอบการในปี 2564 และปีต่อๆ ไปจะเป็นไปในทิศทางบวก เนื่องจากมีแนวโน้มอุปสงค์ที่เป็นบวก ซึ่งจะช่วยให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงในแผนการเงินระยะยาวด้วยอัตรา 3 ถึง 6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี”

ผลประกอบการประจำไตรมาส

ซีเกทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 521 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกระแสเงินสดอิสระ อยู่ที่ 426 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง   ไตรมาส ที่ 2 ของรอบดำเนินการปี 2565  อีกทั้งยังสามารถรักษางบดุลให้แข็งแกร่ง โดยระหว่างไตรมาสที่ 2 บริษัทจ่ายเงินปันผลในรูปแบบเงินสด เป็นเงิน 151 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นสามัญคืน จำนวน 5.1 ล้านหุ้น คิดเป็นเงิน 471 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด อยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยเมื่อสิ้นสุดไตรมาสนี้มีการออกหุ้นสามัญจำนวน 219 ล้านหุ้น

สามารถเข้าไปดูเอกสารทางการเงินของบริษัทได้ที่ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ในเว็บไซต์ของซีเกท ที่ investors.seagate.com

เงินปันผลประจำไตรมาส

คณะกรรมการบริษัทได้เปิดเผยจำนวนเงินปันผลประจำไตรมาส อยู่ที่ 0.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ซึ่งจะจ่ายในวันที่ 6 เมษายน 2565 ให้กับผู้ถือหุ้นที่ครอบครองหุ้นภายในวันที่ 22 มีนาคม 2565  โดยการจ่ายเงินปันผลในอนาคตเป็นไปตามดุลพินิจของคณะกรรมการซึ่งขึ้นอยู่กับผลประกอบการของซีเกท โดยพิจารณาจากการดำเนินงาน เงินสดคงเหลือ กระแสเงินสด ความต้องการเงินลงทุน และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

แนวโน้มธุรกิจ

แนวโน้มธุรกิจในไตรมาสที่ 3 ของรอบดำเนินการปี 2565 มาจากการสันนิษฐานและการคาดการณ์ โดยผลประกอบการที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างไปจากนี้ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ดังที่ได้ชี้แจงในบันทึกข้อควรระวังเกี่ยวกับแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า

ซีเกทได้ให้ข้อมูลการคาดการณ์ผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ของรอบดำเนินการปี 2565 ดังนี้:

  • รายได้ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีผลบวกหรือลบ อยู่ที่ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • กำไรต่อหุ้นปรับลดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักมาตราฐานการบัญชี (non-GAAP diluted EPS) อยู่ที่ 2 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีผลบวกหรือลบ อยู่ที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐ

การคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปรับลดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักมาตราฐานการบัญชี ไม่รวมถึงค่าตัดจำหน่ายคิดจากสินทรัพย์ไม่มีตัวตน อยู่ที่ 0.02 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น และประมาณการจ่ายค่าชดเชยโดยใช้หุ้น อยู่ที่ 0.17 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น

ซีเกทยังไม่ได้สรุปกำไรต่อหุ้นปรับลดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักมาตราฐานการบัญชี สำหรับไตรมาสที่ 3 ของรอบดำเนินการปี 2565 เปรียบเทียบกับการคำนวณตามหลักการบัญชีมาตรฐานจากคณะกรรมการการบัญชีการเงิน เนื่องจากมีหลายรายการที่อาจส่งผลกระทบต่อการคำนวนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เหนือการควบคุม และ/หรือไม่สามารถคาดการณ์ได้ อันรวมไปถึง อัตราค่าเสื่อมที่เพิ่มขึ้น การด้อยค่าของสินทรัพย์ และค่าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง การสูญค่า และค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงหรือไถ่ถอนหนี้ หรือซื้อหนี้กลับคืน  กำไร ขาดทุน หรือการด้อยค่าจากการลงทุน การปรับภาษีรายได้ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ หรือผลประโยชน์ที่ได้รับ แต่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงเท่านี้ ทั้งหมดนี้อาจเกิดขึ้น และยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วนเพื่อให้นำไปคำนวนผลประกอบการในอนาคต ดังนั้นผลสรุปของการคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปรับลดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักมาตราฐานการบัญชี สำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ให้สอดคล้องกับการคำนวณตามหลักการบัญชีมาตรฐานจากคณะกรรมการการบัญชีการเงิน จึงไม่สามารถทำได้โดยปราศจากข้อมูลที่ไม่สมเหตุสมผล