SEAC (เอสอีเอซี) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน ตอกย้ำ ความเชื่อที่ว่า “การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด และสามารถเรียนรู้ได้ตลอดทุกช่วงของชีวิต” ดึง 6 องค์กรระดับ แนวหน้าของประเทศไทย อย่าง อิตัลไทย – เอไอเอส – พีทีจี – เมืองไทยประกันชีวิต – มิตรผล – เอสซีจี เป็นกลุ่มแรกที่เข้าร่วมปฏิรูป “คน” ภายในองค์กร ผ่าน YourNextU โมเดลการเรียนรู้ที่ทรงประสิทธิภาพ
นางอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC กล่าวว่า “ในวันนี้ ยิ่งเศรษฐกิจแข่งขันกันมากขึ้นเท่าไหร่ เราต้องยิ่งปรับเปลี่ยนและปรับตัวเร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น หากเพียงก้าวพลาดหรือหยุดพัฒนาเพียงเสี้ยววินาที “องค์กร” หรือ “คุณ” อาจจะหลงทางและไล่ตามคนอื่นไม่ทัน พลาดโอกาสทางธุรกิจที่อาจจะนำคุณไปสู่เส้นชัยก็เป็นได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ องค์กรจะต้องเข้าใจก่อนว่า ปัญหาขององค์กรคืออะไร ตอนนี้องค์กรยืนอยู่ที่จุดไหน ความท้าทายใหม่ ที่กำลังจะเข้ามามีผลกระทบกับองค์กรในรูปแบบไหนบ้าง องค์กรมีความพร้อมอย่างไรบ้าง แล้วเรา จะมีหนทางแก้ปัญหาและเส้นทางใหม่ เพื่อรับมือให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
ในครั้งนี้ SEAC ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงจาก 6 องค์กรยักษ์ใหญ่ระดับ แนวหน้าของประเทศไทย อาทิ คุณยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอิตัลไทย คุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส
คุณภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) คุณฤทัย สุทธิกุลพานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL ดร.ศรายุธ แสงจันทร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มงานการเงิน และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มบริหาร บริษัทน้ำตาลมิตรผล จำกัด และคุณอภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นที่ว่า
“ทำไม” การพัฒนา “คน” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และทำไมถึงต้องเป็น YourNextU โมเดลการเรียนรู้รูปแบบใหม่ของ SEAC โดยผู้บริหารทั้ง 6 ท่าน กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เพราะ YourNextU คุ้มค่าต่อการลงทุนในการพัฒนาพนักงานเพราะประกอบไปด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) ที่ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามแนวทางที่ถนัด จึงนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น พร้อมคุณลักษณะพิเศษที่ทำให้ผู้เรียนเลือกกำหนดรูปแบบและหลักสูตรการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง (Personalized Learning)
นอกจากนี้ หลักสูตรต่างๆ ของ YourNextU ยังมีความทันสมัยต่อสถานการณ์โลกปัจจุบัน อีกทั้งยังมีการอัพเดทหลักสูตรใหม่ๆ ตลอดเวลาเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง (Speed of Change) และเพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะนำไปสู่การขยายธุรกิจและพัฒนาองค์กรไปได้ในวงที่กว้างขึ้น (Scalability)”
ลองมาดูมุมของของ Reskill และ Upskill ในองค์กรชั้นนำกัน
คุณกานติมา (AIS) โดยเมื่อก่อนเวลาเราพูดถึงการเพิ่มศักยภาพคนในองค์กร เรามักจะพูดถึง “ห้องเรียน” ซึ่งผู้บริหารจะเป็น ผู้กำหนดว่าจะเรียนอะไร แบบไหน หรืออย่างไร
แต่ในปัจจุบันเราไม่สามารถรอให้ผู้บริหารกำหนดหลายๆ อย่างลงมาได้ เพราะหากรอก็จะตามไม่ทันโลก ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีที่จะทำให้คนในองค์กรคิดเองเป็น ดีไซน์เองเป็น กำหนดจุดหมายเป็น และต้องเกิดการแลกเปลี่ยน โดยวิธีเหล่านั้นจะต้องเอื้อให้คน ในองค์กรสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้เอง
คุณยุทธชัย (Italthai) ปัญหาขององค์กรที่พบเจอ คือ generations gap ระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่
ซึ่งเราจะหา tools อะไรมาแก้ไขปัญหาเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถ blend in ใน ecosystem ของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมสร้าง Culture ใหม่ๆ ในการเรียนรู้ให้เกิดขึ้น
โดยส่วนตัวคิดว่า การรีสกิลและอัพสกิล คือคำตอบที่กำลังตามหา เพราะเมื่อโลกมันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สกิลเดิมๆ ที่เคยมีไม่เพียงพออีกต่อไป จึงจำเป็นต้องรีบเพิ่มและเสริมทักษะให้กับคนในองค์กรและตัวผมเองในฐานะผู้บริหารด้วย เพื่อเราจะสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กันได้
ดร. ศรายุธ (Mitrphol) ปัจจุบันในภาคเกษตรกรรมมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมาก เพราะมีการคำนึงถึงต้นทุน ในการผลิตมากขึ้น (Productivity) ซึ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยีได้ ทำให้ Digital เข้ามาแทนที่งานในหลายตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้หลายๆ ตำแหน่งที่เคยใช้กำลังคนจะถูกดิจิตัลแทนที่
ทำให้การ Reskill และ Upskill จะทำให้คนทุกเจเนอเรชันสามารถอยู่ร่วมกันหรือสามารถนำพาองค์กรให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงได้ เราจึงต้องเร่งสร้างให้ทุกคนในองค์กรมี Common Platform ที่ไปในทางเดียวกันก่อน
คุณฤทัย (MTL) เราในฐานะธุรกิจประกันภัยต้องปรับตัวกันเยอะมาก สิ่งที่ท้าทายสำหรับเรา คือ เราจะรักษา retention rate อย่างไรให้คนในองค์กรของเราสามารถรีสกิลและอัพสกิลโดยเติบโตไปพร้อมๆ กับเราได้
ซึ่งโดยปกติ คนทั่วไปเมื่อคิดว่าถึงทางตันในสายงานแล้ว (โดยเฉลี่ยประมาณ 4-5 ปี) จะชอบโยกย้าย ไปทำงานในสายอื่น ดังนั้น เราจะทำอย่างไรให้เขาเกิดการเรียนรู้เพื่อเติบโตไปกับบริษัทได้ อย่าง นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ซึ่งหลายๆคนเข้าใจว่าเขาเป็นคนทำตีราคาประกันแต่จริงๆ นักคณิตศาสตร์ประกันภัยมี baseline ที่ดีมากในการที่จะเป็น machine engineering ซึ่งง่ายกว่าการที่ต้องไปหาคนใหม่แล้วต้องมาสอนกันตั้งแต่แรก
คุณภูมิพัฒน์ (PTG) PTG เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานกว่า 16,000 คน และมีธุรกิจหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสถานีบริการน้ำมัน ร้านกาแฟ มินิมาร์ท เป็นต้น ซึ่งความใหญ่ขององค์กรทำให้องค์กรเคลื่อนตัวช้า ทำให้เกิดคำถามว่า “ต้อง Reskill อย่างไร แล้วบน Speed ขนาดไหนถึงจะก้าวทันโลกได้?”
การพัฒนาองค์กรด้วยการ Reskill ทำบน 2 บริบท ดังนี้
Reskill เพื่อให้สถานีบริการน้ำมันไปได้ไกลกว่าเดิมด้วยการเสริมสร้างให้พนักงานสามารถออกแบบ การ Reskill ของตัวเองด้วยตนเองได้ เน้น Self-learning ไม่ใช่ป้อนข้อมูลให้กับพนักงานเพียงอย่างเดียว
และการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจในองค์กร เช่น จากสถานีบริการน้ำมันไปสู่ Retail ทำให้คิดว่าควรจะ Reskill + สร้าง Mindset ใหม่ๆ ไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นแผนที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบันและจะทำต่อไปในอนาคตด้วย
คุณอภิรัตน์ (SCG) ความสำคัญของการรีสกิล คือ เมื่อองค์กรเข้าสู่สงครามใหม่ สิ่งสำคัญที่องค์กรจะต้องเลือกทำคือ 1.หาคนใหม่ หรือ 2.ติดอาวุธใหม่ให้คนในองค์กร สำหรับตัวผมการรีสกิลและอัพสกิลคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพราะไม่มีใครรู้จักลูกค้าดีเท่ากับพนักงานที่ทำงานกับเรามาอย่างยาวนาน
SCG เป็นธุรกิจที่อยู่มานานกว่า 100 ปี แทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ควรจะรีสกิลและอัพสกิลให้คุณภาพชีวิตของพนักงานดีขึ้น เพราะพนักงานก็เปรียบเสมือนลูกค้าของเรา ผมเชื่อว่าทุกคนคือแรงขับเคลื่อนประเทศไทย หากเราอยากไปให้ถึง Thailand 4.0 หรือ innovative economy เราต้องรู้จักรีสกิลและอัพสกิลให้เป็น เพื่อให้เราอยู่รอดไปได้ (จบ)
ทั้งนี้ ยิ่งเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเท่าไหร่ ทรัพยากรมนุษย์ย่อมสั่นคลอนมากขึ้นเท่านั้น ฉะนั้น องค์กรจำเป็นจะต้องตื่นตัวและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ตลอดเวลา และต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยี รวมไปถึงเรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่ง ผ่านการรีสกิลตัวเองเพื่อเป็นประตูเปิดโอกาสในการสร้างความก้าวหน้า ความมั่นคง และเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็น ในรูปแบบใดก็ตาม
ดังนั้น SEAC พร้อมที่จะเป็นองค์กรที่มีส่วนช่วยสร้างให้เกิดการตื่นตัวเรื่องการเรียนรู้ ปรับตัว เปลี่ยนแปลง และพัฒนาทั้งในด้านขององค์กร ตลอดจนระดับบุคลากรผ่านโมเดลการเรียนรู้ YourNextU เพื่อ สร้างสังคมของการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยการนำนวัตกรรม มาสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ ที่ยั่งยืน” นางอริญญา กล่าวสรุป
เปิดโลกแห่งการเรียนรู้และค้นหาทักษะเพื่อพัฒนาตนเองได้แล้วกับ SEAC พร้อมสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดชีวิตกับ YourNextU โมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด (The Best Blended Learning Model) ที่ให้คุณเรียนรู้ได้อย่างไม่จำกัดรูปแบบ ไม่จำกัดครั้ง และไม่จำกัดวิชา ราคาเพียง 12,000++ บาท/คน/ปี ได้ตั้งแต่วันนี้ ที่ www.yournextu.com