ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ตอกย้ำกลยุทธ์ Life is On เปิดตัวรถโมบายล์ “สมาร์ท โซลูชัน ดิลิเวอรี” หรือห้องจัดแสดงโซลูชั่นด้านพลังงานแบบเคลื่อนที่ เต็มสูบด้วยระบบ IoT โชว์เทคโนโลยีหมัดเด็ด 6 โซน
กรุงเทพฯ – 1 มิถุนายน 2559 : ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ตอกย้ำกลยุทธ์ Life is On เปิดตัวรถโมบายล์ “สมาร์ท โซลูชัน ดิลิเวอรี” หรือห้องจัดแสดงโซลูชั่นด้านพลังงานแบบเคลื่อนที่ เต็มสูบด้วยระบบ IoT โชว์เทคโนโลยีหมัดเด็ด 6 โซน “เสิร์ฟถึงที่” ชูไฮไลท์โซลูชั่นเจ้าเดียวในตลาดที่สามารถเชื่อมต่อระบบจ่ายไฟฟ้า ระบบการตลาดอัตโนมัติ ระบบการบริหารจัดการพลังงาน และระบบกระบวนการอุตสาหกรรม ให้รวมกันบนแพลตฟอร์มเดียวได้ คาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรง และครอบคลุมทุกภาคอุตสาหกรรม ตั้งเป้าเข้าถึงลูกค้า 123 พื้นที่ กว่า 30 จังหวัดสิ้นปี พร้อมเปิดตัวโครงการรักษ์โลก สร้างชุมชน เป็นจุดรับรวบรวมถุงพลาสติกที่ไม่ย่อยสลายเพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการสร้างงานให้ชุมชนอีกด้วย
มร.มาร์ค เพลิทิเยร์ ประธาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย กล่าวว่า “จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ระบุไว้ว่า อัตราเฉลี่ยการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในภูมิภาคประจำภาคต่างๆ จากปี 2004 – 2014 หรือในระยะ 10 ปี พบว่า ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีอัตราการเติบโตร้อยละ 5.9 ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 8.0 ภาคเหนือร้อยละ 8.1 ภาคใต้ 5.2 ภาคตะวันออก 8.2 ภาคตะวันตก 5.6 ภาคกลางร้อยละ 5.8 จะเห็นได้ว่าแต่ละภาคมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง อัตราการเติบโตจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยสนับสนุน เช่น ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีสามารถเข้าถึงผู้มีความต้องการหรือไม่”
“เป้าหมายของกลยุทธ์ Life is On คือ การทำให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ธุรกิจลูกค้าสามารถขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการลดต้นทุนและควบคุมการทำงานง่ายผ่าน IoT ดังนั้นการเข้าถึงทั้งกลุ่มลูกค้า และกลุ่มของพันธมิตรทางธุรกิจ และอุตสาหกรรมให้ได้ในวงกว้าง จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ เราจึงลงทุน 10 ล้านบาท สร้าง ‘รถโมบายล์ “สมาร์ท โซลูชัน ดิลิเวอรี เป็นเสมือนห้องจัดแสดงนวัตกรรมด้านการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่นของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แบบเคลื่อนที่ได้’ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับโลกของเราให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ นอกเหนือจากงานนิทรรศการ และงานสัมมนา ซึ่งข้อดีของ รถโมบายล์ “สมาร์ท โซลูชัน ดิลิเวอรี” เสมือนเป็นการย่อการจัดงานนิทรรศการขนาดย่อมมาไว้ในที่เดียว โดยสามารถเข้าถึงพื้นที่เป้าหมายได้ครอบคลุมกว่า เรียกได้ว่า “เสิร์ฟเทคโนโลยีถึงที่” สามารถตอบสนองความต้องการที่เติบโตมากขึ้นในตลาดต่างจังหวัดอีกด้วย” มร.มาร์ค เสริมต่อว่า “เทคโนโลยีและโซลูชั่นของชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับว่า เป็นเจ้าเดียวในตลาดที่สามารถเชื่อมต่อระบบจ่ายไฟฟ้า (Electric Distribution), ระบบการตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation), ระบบการบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management) และระบบกระบวนการทางอุตสาหกรรม (Industrial process) บนแพลทฟอร์มเดียวกัน มีข้อดีคือ 1.ลดการลงทุน ลงทุนครั้งเดียวแต่ใช้งานได้ครอบคลุมทั้งระบบ โดยไม่ต้องต้องลงทุน 100 เปอร์เซ็นต์ของทุกระบบ 2. ทุกระบบสามารถเชื่อมต่อกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ 3.ให้ประสิทธิภาพการทำงานสูง”
รถโมบายล์ “สมาร์ท โซลูชัน ดิลิเวอรี” สามารถให้รายละเอียดของผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีได้ง่ายที่กลุ่มเป้าหมายในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในส่วนต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจได้อย่างชัดเจนถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้โซลูชัน ทั้งในแง่การแก้ไขปัญหาที่ลูกค้าประสบอยู่ การปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงาน รวมถึงการประหยัดต้นทุน โดยรถดังกล่าวจะออกเดินทางเพื่อจัดแสดงโซลูชัน และเทคโนโลยี ให้กับลูกค้ามากกว่า 123 พื้นที่ทั่วประเทศ มากกว่า 30 จังหวัด ภายในปีนี้
รถโมบายล์ “สมาร์ท โซลูชัน ดิลิเวอรี” ประกอบด้วยโซนต่างๆ รวมเทคโนโลยีการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชันต่างๆ มาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นหมวดของพลังงาน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ และโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่
Power Management System ระบบการจัดการพลังงานด้วย Power Meter ในแบบต่าง ๆ ตั้งแต่แบบใช้งานทั่วไป (Basic Metering) ไปจนถึงแบบซับซ้อน (Advanced Metering) ช่วยในการวัดค่าและวิเคราะห์การใช้พลังงานได้อย่างละเอียดแม่นยำ พร้อม Application StuxureWare ระบบการจัดการพลังงานสุดไฮเทค ควบคุมการใช้ไฟฟ้าทุกส่วนภายใน
โรงงานไว้ในที่เดียว เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ยังมีระบบการควบคุมระบบแสงสว่างภายในโรงงาน (Lighting Control System) มาจัดแสดงอีกด้วย
ECOFit Service: บริการยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์และโซลูชั่น ใน 2 รูปแบบ คือ การเปลี่ยนตู้ทั้งตู้ หรือการเปลี่ยนพาร์ตแค่บางพาร์ต เพื่อให้ผลิตภัณฑ์รุ่นที่ทางโรงงานเลิกผลิตแล้ว สามารถใช้งานต่อไปได้ และให้ระบบโดยรวมมีเสถียรภาพมากขึ้น ตั้งแต่กลุ่ม โลว์โวท์ และกลุ่มมีเดียมโวล์ท เช่น เมอร์แรงเจอแรง, สแควร์ดี, อารีว่า เป็นต้น
Substation Automation: โซลูชั่นซอฟต์แวร์ระบบควบคุมไฟฟ้าแบบอัตโนมัติของสถานีไฟฟ้าย่อย PACiS Substation Automation รุ่นล่าสุด ช่วยตรวจสอบและควบคุมระบบไฟฟ้าสำหรับโรงงาน กลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงโรงไฟฟ้า ซึ่งให้ความปลอดภัยสูงด้วยการตัดโหลดไฟภายในเวลา 0.08 วินาที มาพร้อมมาตรฐาน IEC 61850
Prisma : ตู้จ่ายไฟของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นตู้ไฟที่มีความง่ายในการประกอบติดตั้ง ทนทานต่อแรงดันไฟฟ้าได้ดี ได้รับมาตรฐาน IEC 61439 – 1 และ 2 ซึ่งเป็นข้อกำหนดใหม่สำหรับการประกอบตู้คอนโทรลเกียร์ (controlgear) และตู้สวิตช์เกียร์แรงดันไฟฟ้าต่ำ (Low-voltage switchgear) นอกจากPrisma สามารถทนกระแสไฟฟ้าได้สูงถึง 4000 แอมป์, 85kA/1s เหมาะสำหรับสำนักงานของโรงงานอุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก
Galaxy VM: เครื่องสำรองไฟฟ้าแบบสามเฟสรุ่นใหม่ สำหรับทุกกลุ่มธุรกิจ รองรับกำลังไฟได้ถึง 800KVA มีคุณสมบัติช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานผ่านโหมด ECOnversion™ ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นโหมดการทำงานเฉพาะที่ให้ประสิทธิภาพถึง 98% และช่วยให้สามารถประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น มีโมดูลแบตเตอรีแบบถอดเปลี่ยนได้ โดยไม่ต้องย้าย
โหลดไปยังแหล่งจ่ายไฟรอง (Maintenance Bypass) ซึ่งช่วยเพิ่มความพร้อมของระบบและยังปกป้องโหลดการทำงานได้อย่างดี
พร้อมกันนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เปิดตัวโครงการรักษ์โลก สร้างชุมชน โดยทุกครั้งที่รถโมบายล์ “สมาร์ท โซลูชัน ดิลิเวอรี ไปจัดแสดงโซลูชั่นที่ใด ลูกค้าหรือคนในท้องที่สามารถนำถุงพลาสติก หรือถุงหูหิ้ว มาบริจาคเพื่อทางชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะนำไปเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปถุงที่ไม่ใช้แล้วให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและสามารถใช้งานได้อีกครั้ง ทั้งเป็นการสร้างงานให้กับชุมชนในวงกว้างต่อไป
รถโมบายล์ “สมาร์ท โซลูชัน ดิลิเวอรี เริ่มให้บริการตามเส้นทางต่างๆ โดยเริ่มจากกรุงเทพฯ ในช่วงเดือนมิถุนายน ต่อด้วยภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ “เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การนำเทคโนโลยีการจัดการพลังานและระบบออโตชั่นของเราไปหาลูกค้าในพื้นที่ หรือโรงงานเลย นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าแล้ว เรายังสามารถทราบปัญหาของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ ได้ทันที ทำให้เราสามารถช่วยเหลือลูกค้าในการแก้ปัญหาได้มากขึ้นด้วย” มร.มาร์ค กล่าวทิ้งท้าย