โดย เจมส์ ฮอกกินส์ ผู้จัดการโครงการฝ่ายกลยุทธ์นานาชาติ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค(Schneider Electric)
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ โรงพยาบาล ท่าเรือ และระบบสาธารณูปโภคสำคัญต่างๆ ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ต่างเสริมความแข็งแกร่งด้วยไมโครกริด เพื่อช่วยเรื่องการไหลเวียนของพลังงานไฟฟ้าแม้กระทั่งในช่วงเวลาที่กริดล่มก็ตาม
ร้านขายของชำ ร้านขายยา และระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่มีความต้องการใช้พลังงานน้อยกว่าภาคธุรกิจอื่นๆ ไม่เคยอยู่ในวงสนทนาเรื่องไมโครกริด จวบจนปัจจุบัน
การแพร่ระบาดของโควิด-19 เปลี่ยนมุมมองของสังคมที่เราอยู่โดยสิ้นเชิง ทั้งเรื่องความจำเป็นด้านธุรกิจและการบริการ ผลก็คือผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมหลักตอนนี้กำลังหันมาทบทวนและประเมินใหม่ว่า ใครหรือธุรกิจใดบ้างที่ต้องการความยืดหยุ่นด้านพลังงาน
โชคดีที่ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีไมโครกริด และความสามารถในการเข้าถึงโมเดลธุรกิจต่างๆ ทำให้บริษัททุกขนาดธุรกิจสามารถได้รับประโยชน์จากเครือข่ายไฟฟ้าที่สร้างไฟฟ้าได้เอง และในบทความนี้ ผมได้อธิบายถึงเหตุผลและการที่ไมโครกริดช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า อาคารของคุณจะมีระบบพลังงานที่น่าเชื่อถือได้โดยไม่ต้องกังวล
“ทำไม” เราจึงสามารถคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงได้
ในปี 2012 สภาพอากาศที่รุนแรง ทำให้เกิดไฟดับทั่วมอนต์โกเมอรีเคาท์ตี้ รัฐแมรีแลนด์ ทำให้ผู้อยู่อาศัยจำนวนกว่า 250,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้หลายวัน ระหว่างช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปี 2019 บริษัทผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา Pacific Gas and Electric ตัดไฟในครัวเรือนผู้พักอาศัยกว่าล้านราย เพื่อป้องกันไฟป่าลาม และในตอนนี้ รัฐเท็กซัส ก็กำลังเผชิญกับปัญหาไฟดับที่เกี่ยวเนื่องจากสภาพอากาศในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้ไฟดับไปทั่วเนื่องจากอุณหภูมิลดลงต่ำเป็นประวัติการณ์
สภาพอากาศรุนแรงมากขึ้นทุกที และระบบกริดก็มีอายุการใช้งานมากขึ้น สำหรับธุรกิจส่วนใหญ่ คำถามไม่ได้อยู่ที่คำว่า “หาก” เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานขึ้น แต่อยู่ที่ “เมื่อไหร่” และเรื่องนี้ก็ทำให้ไมโครกริดเข้ามามีบทบาทสำคัญ
ยืดหยุ่นด้านพลังงาน “อย่างไร”
ไมโครกริด คือเครือข่ายไฟฟ้าที่กักเก็บไฟได้ในตัวเอง ช่วยให้คุณสร้างไฟฟ้าได้เองที่ไซต์ และใช้พลังงานได้ในเวลาที่ต้องการ ระบบไมโครกริดสามารถเชื่อมต่อกับกริดของระบบสาธารณูปโภคได้โดยตรง โดยการเก็บพลังงานส่วนเกินไว้ในระบบกักเก็บพลังงานในรูปแบตเตอรี่ หรือ “island” เพื่อกระจายพลังงานภายในพื้นที่
หรือถ้ากริดที่ให้พลังขับเคลื่อนระบบสาธารณูปโภคเกิดล่มขึ้นมา ในกรณีนี้ คุณสามารถใช้ระบบควบคุมอัจฉริยะ (intelligent controls) จากในระบบงานคุณ ปรับเปลี่ยนแหล่งพลังงานจากกริดของระบบสาธาณูปโภคไปใช้ไมโครกริด ณ ไซต์งานได้โดยอัตโนมัติ
เพื่อเข้าใจถึงการทำงานของไมโครกริด ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก ในวิดีโอนี้
ความยืดหยุ่นด้านพลังงานและความยั่งยืน เป็น 2 อรรถประโยชน์ที่ได้จากระบบไมโครกริด แต่ถ้าหากคุณต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในแต่ละรอบบิล ไมโครกริดช่วยได้เช่นกัน เพราะไมโครกริดจะช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนแหล่งพลังงานในปัจจุบันได้คุ้มค่าใช้จ่ายมากที่สุด ด้วยการใช้ระบบควบคุมอัจฉริยะตัวเดิม
ก้าวข้ามความกังวลได้ตั้งแต่ “ตอนนี้”
คุณอาจจะสงสัย หากเทคโนโลยีนี้ดีมากขนาดนั้นจริง ทำไมทุกธุรกิจถึงไม่มีระบบไมโครกริดเป็นของตัวเอง? คำตอบก็คือ คุณอาจต้องพิจารณาว่าเทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจมีการพัฒนาไปแล้วมากน้อยแค่ไหน
โดยอดีตที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายที่รับรู้ได้ รวมถึงค่าซ่อมบำรุงของระบบงาน อาจทำให้เป็นอุปสรรคในหลายธุรกิจ การปรับเปลี่ยนแหล่งพลังงาน การกำเนิดไฟฟ้า และการกักเก็บพลังงานแยกไว้ ยังคงเป็นแนวคิดใหม่สำหรับหลายธุรกิจที่ไม่ต้องการใช้พลังงานสูง
ในช่วงเวลาสองถึงสามปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีไมโครกริดมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันหลายระบบมีขนาดเล็กลง และขยายขีดความสามารถได้มากกว่าที่ผ่านมา เช่นเดียวกัน โมเดลธุรกิจด้านพลังงานเชิงการบริการ หรือ energy as a service (EaaS) business model ก็ทำให้สามารถเข้าถึงพลังงานได้ ไม่ใช่แต่เฉพาะองค์กรใหญ่แต่ยังรวมไปถึงองค์กรในทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรมเช่นกัน
โซลูชัน EaaS เช่น AlphaStruxure™ นำเสนอโซลูชันไมโครกริดให้องค์กรระดับคอร์ปอเรตที่มีขนาดใหญ่ ผ่านข้อตกลงด้านการให้บริการพลังงานตามประสิทธิภาพการใช้งาน องค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กจะได้รับประโยชน์ในโมเดลเดียวกับพันธมิตรอย่าง GreenStruxure
โซลูชัน EaaS ช่วยให้องค์กรธุรกิจไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องการซ่อมบำรุง การบริการต่างๆ หรือการดำเนินการ ดังนั้น คุณจะได้รับประโยชน์จากความยืดหยุ่นด้านพลังงานและได้ความยั่งยืนมากขึ้นโดยไม่มีความเสี่ยงด้านการเงินหรือต้องทำอะไรพิเศษเพิ่มเติม
ความสำคัญลำดับต่อไปคือ การเชื่อมโยงกับพันธมิตร
ความท้าทายของความยืดหยุ่นด้านพลังงานยังคงมีอยู่ต่อไป สำหรับในฐานะผู้จัดการอาคาร ควรระบุเป้าหมายด้านพลังงานให้ชัดเจนเป็นอันดับแรกเพื่อมองหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ ลองคิดว่า คุณต้องการผสานรวมพลังงานหมุนเวียนเพื่อสร้างความยั่งยืน หรือต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย หรือต้องการป้องกันปัญหาไฟดับในระยะยาว หรือ คุณต้องการตอบโจทย์ทั้งสามเรื่อง และเมื่อคุณรู้ว่าคุณต้องการอะไร ก็สามารถติดต่อพันธมิตทางธุรกิจที่เชื่อถือได้ เพื่อแนะนำแนวทางที่เหมาะสมต่อไป
เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค
เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานและทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน เราเรียกสิ่งนี้ว่า Life Is On
ภารกิจของเราคือการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลกับคุณ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืน
เราขับเคลื่อนการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกด้านพลังงานและกระบวนการจัดการ เข้ากับผลิตภัณฑ์ตั้งแต่จุดเชื่อมต่อปลายทางไปยังคลาวด์ ระบบควบคุม รวมถึงซอฟต์แวร์และการบริการครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตการทำงานทั้งหมด เพื่อสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรแบบบูรณาการ ทั้งสำหรับบ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม
เราคือบริษัทระดับโลกที่มีการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นมากที่สุด เราสนับสนุนมาตรฐานระบบเปิดและระบบนิเวศของคู่ค้าที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการทำตามวัตถุประสงค์อย่างมีเป้าหมายร่วมกัน และคุณค่าในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน