ในงาน Thailand Developer day 2016 ช่วง Keynote สำคัญ เป็นการบรรยายโดย สัตยา นาเดลลา ซีอีโอ Microsoft นับเป็นครั้งแรกในการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการหลังรับตำแหน่งซีอีโอ
สัตยา นาเดลลา ซีอีโอ Microsoft เริ่มต้นกล่าวว่า ตัวเขาเคยอาศัยอยู่ในเมืองไทยมาเป็นเวลาถึง 5 ปี ซึ่งคุณพ่อของเขาได้ซื้อคอมพิวเตอร์ให้ใช้ เพื่อศึกษาหาความรู้ เขากล่าวต่อว่า ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกของโมบายและคลาวด์ (Mobile First, Cloud-First world) นักพัฒนาได้กลายมาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่องค์กรเพื่อพลิกโอกาสทางธุรกิจ ในระหว่างที่อยู่กรุงเทพ ตัวเขาได้มีโอกาสพบปะกับสตาร์ทอัพแถวหน้าของประเทศไทย และได้แบ่งปันวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเทคโนโลยีในอนาคตและบทบาทของเทคโนโลยีในการช่วยขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ
ในส่วนภารกิจของ Microsoft คือ การเป็นกำลังสำคัญที่ให้ทุกคนและองค์กรทั่วทุกมุมโลกให้บรรลุผลสำเร็จที่ดียิ่งกว่า ซึ่งการจะบรรลุภารกิจนี้ได้ Microsoft จะสนับสนุนนักพัฒนาทุกคนในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มที่ช่วยให้พวกเขาเหล่านี้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเปลี่ยนโลกใบนี้ และเขาได้ยกตัวอย่างผู้ประกอบการที่เติบโตและประสบความสำเร็ตจากการใช้คลาวด์แพลตฟอร์มกับตัวผลิตภัณฑ์ ได้แก่ Semantic Touch, OoKbee และ Buzzebees
ในด้านแพลตฟอร์มอย่าง Universal Windows ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ Windows 10 ที่มีอยู่มากกว่า 300 ล้านเครื่อง ในหลากหลายรูปแบบ ด้วยแอพพลิเคชันที่มอบประสบการณ์เดียวกันไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด นอกจากนีั Visual Studio ขณะนี้สามารถผสานเข้ากับ Xamarin สำหรับนักพัฒนาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่งเสริมให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนสามารถส่งมอบประสบการณ์จากแอพฯ ดั้งเดิมได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะใช้บนแพลตฟอร์มใดผ่านการเขียนโค้ดเพียงครั้งเดียว
ขณะเดียวกับ นาเดลลา ยังพูดถึงเทคโนโลยีใหม่อย่าง VR ซึ่งปัจจุบัน Microsoft มีแว่นตา HoloLens อุปกรณ์ที่จะผสานโลกเสมือนจริงเข้ากับโลกแห่งความจริง (Mixed reality) โดยเขาเชื่อว่าอุปกรณ์นี้จะเข้ามาเปลี่ยนโลกแห่งการศึกษา อุตสาหกรรมในหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการออกแบบ, วงการแพทย์, การประดิษฐ์ชิ้นส่วนยานยนต์ หรือแม้กระทั่งการใช้งานด้านอวกาศ ซึ่ง Microsoft HoloLens ได้กลายเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในองค์การ NASA แล้วด้วย
แพลตฟอร์มล่าสุดที่ Microsoft ค้นพบ คือ Conversation as a Platform (ในสไลด์บรรยายของนาเดลลา ระบุ 3 อย่าง ได้แก่ People, Digital assiatants, Bots) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกระบวนการสื่อสารตามธรรมชาติของมนุษย์ ผนวกเข้ากับ AI หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ทำให้การพูดได้กลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ทำให้เทคโนโลยีส่งมอบศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้นให้กับมนุษย์ ประหนึ่งว่าการพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถสนทนากับมนุษย์ได้นั่นเอง
ทิ้งท้ายจากสัตยา นาเดลลา ยังหวังเห็นทุกคน ทุกองค์กร ทั้งในประเทศไทย และบนโลกประสบความสำเร็จ
