Samsung เปิดเผยตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 แสดงให้เห็นถึงกำไรสุทธิที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 3 ปี ประกอบยอดขายที่น้อยลงในธุรกิจสมาร์ทโฟน
Samsung ประกาศว่ากำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 อยู่ที่ 6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2013 ที่เคยมีกำไรสุทธิถึง 7.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รายทั้งหมดจากการดำเนินธุรกิจของไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 51.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 15% จากไตรมาสเดียวกันเมื่อปี 2013
ในส่วนธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นแผนกที่ทำเงินให้กับบริษัทได้มากที่สุด สามารถสร้างรายได้ในไตรมาสที่ 2 ที่ 27.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นกำไร 4.31พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Samsung ยอมรับว่าสถานการณ์ของยอดขายสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในขณะนี้ยังลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากยอดจัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังแทบยุโรปทำได้ยากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินภายในประเทศส่งผลถึงกำไรที่ลดลงตามไปด้วย
Samsung เพิ่มเติมว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2014 เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่งในการผลักดันธุรกิจสมาร์ทโฟนของบริษัทให้กลับมาผงาดอีกครั้ง เนื่องจากการแข็งขันที่สูงขึ้น แต่ก็หวังว่าการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ (Samsung Galaxy Note 4) จะช่วยเพิ่มยอดขายของสมาร์ทโฟนให้ดีขึ้นได้
เห็นได้ชัดว่า Galaxy S5 เรือธงที่ Samsung คาดหวังไว้กลับแป๊กอย่างน่าตกใจ ฉะนั้นแล้วความหวังของการสร้างยอดขายจึงไปอยู่กับแฟ็บเล็ต Galaxy Note 4 แทน แต่จะทำได้ดีแค่ไหนคงต้องติดตามชม กันยายน นี้ครับ
ที่มา The Verge