ซัมซุง ปลุกตลาดทีวีให้คึกคัก รับเทรนด์สตรีมมิ่งคอนเทนท์มาแรง และกระแสมหกรรมกีฬาระดับโลก รุกสร้างเซ็กเมนต์ทีวีจอโค้งที่จะพลิกโฉมตลาดทีวีในเมืองไทยไปอย่างสิ้นเชิง พร้อมเปิดตัว “เอสยูเอชดี ทีวี (SUHD TV)” ใหม่บุกตลาดพรีเมียม วางกลยุทธ์การตลาดแบบจัดเต็มทั้งผลิตภัณฑ์ทีวีใหม่กว่า 37 รุ่น การสื่อสารให้ความรู้ โปรโมชั่นทั้งปีโดยเฉพาะช่วงมหกรรมกีฬา การสร้างประสบการณ์หน้าร้านและเทรนนิ่งพนักงานขาย ปักหมุดผู้นำอันดับ 1 ในตลาดทีวีทั่วโลกและเมืองไทยยาวนาน 10 ปี
นายอัศวิน ชูสถาพรกุล ผู้จัดการอาวุโสธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจัยในการเลือกซื้อทีวีของผู้บริโภคในปีนี้มีความใกล้เคียงกับเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา คือ เน้นคุณภาพของภาพ และขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น แต่เทรนด์ที่มาแรงและเห็นถึงการเติบโตได้ชัดเจนในช่วงปีนี้ คือ ความนิยมการชมคอนเทนท์และภาพยนตร์ในรูปแบบสตรีมมิ่ง โดยเฉพาะคอนเทนท์ที่มีความคมชัดระดับ HD มีมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมองหาทีวีที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการชมคอนเทนท์เหล่านั้นให้ได้อรรถรสสูงสุด
สำหรับภาพรวมตลาดทีวีในเมืองไทยในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 3% (ในด้านมูลค่า) เนื่องจากมีปัจจัยกระตุ้นความต้องการในการซื้อทีวีเครื่องใหม่ คือ เทศกาลฟุตบอลระดับโลก และมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่มักชมการแข่งขันในลักษณะถ่ายทอดสด และต้องการชมจากทีวีซึ่งสามารถถ่ายทอดความสนุกตื่นเต้นจากการแข่งขันได้ดีกว่าดีไวซ์อื่นๆ สำหรับตลาดที่เห็นการเติบโตชัดเจนที่สุดในปีนี้ คือในกลุ่ม ยูเอชดี ทีวี ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้จะเติบโตกว่า 148% (ในด้านมูลค่า) เพราะผู้บริโภคที่ซื้อทีวีเครื่องใหม่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนมาสู่เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ทีวีจอโค้งในกลุ่มของ ยูเอชดี ทีวี จะเติบโตถึง 132% (ในด้านมูลค่า) ในปีนี้เมื่อเทียบกับปี 2558 เพราะผู้บริโภคเริ่มรู้จักและมีความเข้าใจเกี่ยวกับข้อดีของทีวีจอโค้งมากขึ้น”
“ซัมซุงมีการลงทุนด้าน R & D อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภค ซึ่งปีนี้ซัมซุงประกาศเดินหน้าปฏิวัติวงการทีวี ด้วยการสร้างเซ็กเมนต์ทีวีจอโค้ง (Curved TV) ที่จะพลิกโฉมตลาดทีวีในเมืองไทย จากรูปแบบเดิมคือจอแบนไปสู่จอโค้ง เพราะซัมซุงพบ 3 จุดเด่นหลักว่า 1) ทีวีจอโค้งให้มุมมองการรับชมได้กว้างกว่า เต็มตากว่าจอปกติ เพราะมุมมองจอภาพสอดรับกับสายตาของเรา ทำให้รู้สึกเหมือนถูกโอบล้อมด้วยภาพ ได้อรรถรสเต็มเปี่ยมไม่ว่าจะนั่งชมอยู่จุดใดของจอก็ตาม 2) ดีต่อสุขภาพดวงตามากกว่า ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของตา
ผลการศึกษาของ Harvard Medical School พบว่า ในการจ้องจอทีวีเป็นระยะเวลานาน การดูทีวีจอโค้งจะช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตาได้ดีกว่าจอแบน 3) ภาพมีความลึกสมจริงด้วย Auto Depth Enhancer ที่สามารถแบ่งรายละเอียดระหว่างวัตถุในแต่ละชั้นของภาพ ทำให้ภาพออกมาสมจริงดูมีมิติกว่าเดิม ข้อดีเหล่านี้เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงควรเปลี่ยนจากทีวีจอแบนมาเป็นจอโค้ง ที่ไม่ใช่เพียงแค่ดีไซน์สวยงามเท่านั้น แต่ให้อรรถรสเต็มขั้น ซึ่งซัมซุงเตรียมสื่อสารไปยังผู้บริโภคถึงข้อดีของทีวีจอโค้ง ที่ปีนี้ซัมซุงมีให้เลือกมากกว่า 15 รุ่น ซึ่งคิดเป็น 41% จากผลิตภัณฑ์ทีวีใหม่ทั้งหมด 37 รุ่น”
นอกจากนี้ซัมซุงยังเปิดตัวทีวีรุ่นพรีเมียม คือ เอสยูเอชดี ทีวี รุ่นปี 2016 โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี ควอนตัมดอท (Quantum Dot) ซึ่งสามารถแสดงสีได้มากถึง 1 พันล้านสีอย่างละเอียด ทั้งยังสามารถแสดงผลภาพด้วยค่าความสว่างแบบ HDR ขั้นต่ำที่ 1,000 นิต ให้ความละเอียดของภาพทั้งในภาพที่มืดและภาพที่สว่าง เทคโนโลยีอัลตร้าแบล็ก (Ultra Black Technology) ซึ่งเกิดจากงานสำรวจที่พบว่าพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ดูทีวีในห้องที่เปิดไฟ เทคโนโลยีนี้จึงถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อลดแสงที่สะท้อนบนหน้าจอ เรียกว่าซัมซุง เอสยูเอชดี ทีวี พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของทั้งผู้ผลิตและผู้ชมภาพยนตร์ เพราะสามารถแสดงแสงและสีตรงตามที่ผู้ผลิตต้องการสื่อสารกับผู้บริโภค ตอบเทรนด์ความนิยมของการชมภาพยนตร์แบบสตรีมมิ่ง
ในส่วนของสมาร์ท ทีวี (Smart TV) ซัมซุงมองว่าผู้บริโภคไม่ได้ต้องการเพียงแค่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เท่านั้น แต่ต้องการรับชมคอนเทนท์ ซัมซุงจึงพัฒนาฟีเจอร์และบริการสำหรับสมาร์ททีวีที่ตรงตามความต้องการ คือ 1) User Interface ที่ใช้ง่ายขึ้น สามารถเข้าถึงรายการทีวีหรือภาพยนตร์เรื่องโปรดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 2) Content มีการจับมือพาร์ทเนอร์ระดับโลกในเมืองไทย เพื่อนำคอนเทนท์และภาพยนตร์เรื่องดังมาให้ผู้บริโภคชมผ่านสมาร์ท ทีวี 3) TV Plus ซึ่งเป็นบริการ Video on Demand ผ่านช่องทีวีครั้งแรกในโลก โดยผู้บริโภคสามารถเข้าถึงคอนเทนท์ต่างๆ ผ่านช่องทีวีได้โดยไม่ต้องทำการลงทะเบียนหรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นซึ่งจะเริ่มให้บริการในเดือนนี้ โดยเมืองไทยเป็นประเทศแรกๆ ในเอเชีย 4) ซิงเกิล รีโมท (Single remote) ใช้รีโมทคอนโทรลเพียงอันเดียวเพื่อควบคุมทุกอุปกรณ์
นายอัศวินกล่าวเพิ่มเติมว่า “ซัมซุงเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดทีวีทั่วโลกและเมืองไทยยาวนาน 10 ปี จากผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม World’s First, World’s Best อย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ทางการตลาดและการสื่อสารผ่านหน้าร้านที่มีประสิทธิภาพ และ ช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแรง
โดยในปีนี้ซัมซุงเตรียมกลยุทธ์เพื่อเตรียมปฏิวัติตลาดสู่ยุคของทีวีจอโค้ง ด้วยการ 1) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เป็นการนำเทรนด์ในอุตสาหกรรมทีวีและจะเปลี่ยนมาตรฐานการชมทีวีสู่จอโค้ง 2) การสื่อสารและการให้ความรู้แก่ผู้บริโภค ว่านวัตกรรมที่ซัมซุงมีนั้น ให้ประโยชน์อย่างไร โดยเฉพาะการให้ความรู้เรื่องข้อดีของทีวีจอโค้งผ่านทุกช่องทาง เพราะหากมีนวัตกรรมที่ดีแต่ผู้บริโภคไม่เข้าใจ ก็จะตัดสินใจซื้อด้วยราคาเพียงอย่างเดียว 3) การปรับโฉมหน้าร้านและเทรนพนักงานขาย อย่างต่อเนื่อง โดยตกแต่งหน้าร้านที่เป็นแฟลกชิพ สโตร์ กว่า 20 ร้านทั่วประเทศในรูปแบบ “Curved TV” ทั้งหมด และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคทดลองเปรียบเทียบความแตกต่างของการชมทีวีจอโค้งกับจอแบนก่อนตัดสินใจซื้อ และ 4) แคมเปญพิเศษกระตุ้นยอดขายช่วงมหกรรมฟุตบอลระดับโลก “Curved Championship” ซื้อซัมซุง Curved TV ได้ลุ้นตั๋วฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ พร้อมแพ็คเกจท่องเที่ยว ณ ประเทศฝรั่งเศส 5) โปรโมชั่นต่างๆ ตลอดทั้งปี”
ไม่เพียงแต่การสร้างตลาดทีวีจอโค้งเท่านั้น ซัมซุงยังออกแบบผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องเสียง “Curved Soundbar” ให้มีดีไซด์โค้งเข้าชุดกันกับทีวีจอโค้งอีกด้วย เรียกว่าเป็น Curved solution ที่สมบูรณ์แบบ
“ซัมซุงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ จะช่วยทำให้คนไทยสนุกและมีความสุขกับการชมคอนเทนท์ต่างๆ ตลอดจนการชมมหกรรมกีฬาอย่างเต็มอรรถรสสูงสุดทางทีวี และด้วยกลยุทธ์ที่ซัมซุงเตรียมไว้จะช่วยปลุกตลาดทีวีให้คึกคัก และตอกย้ำความเป็นผู้นำของซัมซุงอย่างต่อเนื่องยาวนาน” นายอัศวินกล่าวสรุป