[เข้าถึงสมาร์ทโฮมด้วยปลายนิ้ว] ในงาน Consumer Electronics Show 2023 หรือ CES 2023 ทาง Samsung ได้ปล่อยของ โชว์อุปกรณ์ใหม่ ๆ มากมาย ซึ่งมีสมาร์ททีวีหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะอีกหลากรุ่น ที่ปีนี้ Samsung ดูจะเน้นเป็นพิเศษ
ล่าสุดทาง Samsung Thailand ได้จัดงาน Samsung Live A New Day ยกเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่โชว์ในงาน CES 2023 มาจัดแสดงในไทย พร้อมชูระบบการควบคุมแบบไร้สาย ที่ทำได้ผ่านแอปฯ SmartThings เพียงตัวเดียว และยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่อาจทำให้วงการเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยจะมีอะไรที่เด่น ๆ บ้างนั้น ลองมาดูกันครับ
ประเดิมด้วย Bespoke 4-Door Flex พร้อม Family Hub+ ตู้เย็นอัจฉริยะจาก Bespoke ที่มาพร้อมหน้าจอ FHD แบบไร้ขอบขนาด 32 นิ้ว
เอาไว้ใช้ค้นหาสูตรทำอาหาร หรือใช้สั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวอื่น ๆ ผ่าน SmartThings ก็ยังได้ ทำให้ไม่ต้องเดินไปจัดการเองให้วุ่นวาย
ยังล้ำได้อีกกับ Bespoke 4-Door Flex รุ่นใหม่ ที่คราวนี้มาพร้อมหน้าจอขนาด 32 นิ้ว ซึ่งสามารถมองเห็นภายในตู้เย็นผ่านหน้าจอได้ด้วย และยังสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือน หากวัตถุที่นำมาแช่เย็นนั้น ใกล้หมดอายุแล้ว
หากมีการใช้งานแอปฯ SmartThings ตัวตู้เย็นก็จะมีการแจ้งเตือนเข้ามาในสมาร์ทโฟนด้วย แน่นอนว่ายังมีอีกหลายฟีเจอร์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีไม่แพ้กัน หนึ่งในนั้นก็มีฟีเจอร์สตรีมภาพในตู้เย็น ไปยังสมาร์ทโฟนจากระยะไกลได้ด้วย
ถัดมาก็มีกลุ่มสมาร์ททีวี ที่ทาง Samsung ขนมาเกือบทุกซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็น The Sero , The Serif และ The Frame สมาร์ททีวีที่มีดีไซน์เหมือนกรอบรูป และตัว The Freestyle โปรเจคเตอร์ระดับไฮเอ็นด์ในร่างเล็ก
และตัวเด็ดจาก Neo QLED ก็คือตัวจอสมาร์ททีวี 8K ในขนาดใหญ่ถึง 98 นิ้ว ให้ความคมชีดได้เต็มตายิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ซึ่งมาพร้อม Quantum Matrix Technology ช่วยควบคุม Quantum Mini LED ให้แสดงทั้งแสงทั้งสีได้คมชัดอย่างที่สุด (ราคาก็สุดเช่นกัน…)
จุดสำคัญอีกอย่างของสมาร์ททีวีจาก Samsung คือการแปลงตัวเองให้เป็น Hub หรือตัวกลาง ที่ช่วยควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น หลอดไฟอัจฉริยะ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะตัวอื่น ๆ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Samsung ได้เปิดตัว SmartThings Home Life โดยเป็นยกระดับการเชื่อมต่อให้เป็นมากกว่าการควบคุมผ่านแอปฯ ด้วยการแปลงให้เป็น [ศูนย์รวม] การเชื่อมต่อระบบที่จำเป็นภายในบ้านทั้ง 6 ไว้ด้วยกัน อาทิ การทำอาหาร (Cooking) การควบคุมการใช้พลังงาน (Energy) การดูแลเสื้อผ้า (Clothing Care) การดูแลสัตว์เลี้ยง (Pet Care) การรักษาคุณภาพอากาศ (Air Care) และการดูแลบ้าน (Home Care) กล่าวได้ว่า SmartThings Home Life จะทำให้ผู้ใช้สามารถออกแบบระบบการทำงานร่วมกันของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้านได้ตามความต้องการมากยิ่งขึ้น
เราได้เห็นในฝั่ง [Cooking] ผ่านตู้เย็น Bespoke ไปแล้ว ที่ช่วยเช็คสภาพวัตถุดิบภายในตู้เย็นได้ ในฝั่ง [Pet Care] ก็มีตัว Jet Bot AI+ กลุ่มเครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ ที่นอกจากดูดฝุ่นแล้ว ยังสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงผ่านกล้องหน้าของตัวเครื่องได้ด้วย แน่นอนว่าดูผ่านแอปฯ SmartThings นั้นเอง เรียกได้เครื่องใช้ไฟฟ้าของ Samsung เกือบทุกตัวเลยนั้น สามารถรองรับการสั่งการหรือเช็คสถานะผ่านแอปฯ ได้หมด นับเป็นยุคใหม่ของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแท้จริง