หากพิจารณาองค์ประกอบโดยรวม สมาร์ทโฟน กาแลคซี่ เอส 9 และเอส 9 พลัส (รีวิว Samsung Galaxy S9+) รุ่นใหม่ของซัมซุงมีความก้าวหน้าจากเดิมเพียงเล็กน้อย แต่นักทดสอบของเราชี้ว่าการอัพเกรดดังกล่าวมีความน่าสนใจมากจนทำให้โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นสามารถคว้าระดับสูงสุดของการจัดเรตติ้งสมาร์ทโฟนโดย Consumer Reports (CR)
เรตติ้งดังกล่าวไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด หากดูจากเทคโนโลยีที่เฉือน กาแลคซี่ เอส 8 และ เอส 8 พลัส รุ่นก่อนหน้าที่ได้เรตติ้งระดับท็อปเช่นกันซึ่งซัมซุงเปิดตัวออกมาในปี พ.ศ. 2560 โดยมาแทนที่ เอส 7 และ เอส 7 เอดจ์ ที่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2559
โทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ได้รับการยกระดับฟีเจอร์ความปลอดภัย การถ่ายวีดีโอแบบซูเปอร์สโลว์โมชั่น และกล้องที่สามารถเปลี่ยนรูปของคุณให้เป็นอีโมจิ แต่อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติสำคัญอย่างความทนทาน การประมวลผลที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม และเสียงที่มีคุณภาพสูง คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ เอส 9 และ เอส 9 พลัสเหนือกว่าคู่แข่งมากมายในตลาด (ราคาจำหน่าย เอส 9 เริ่มต้นที่ 27,900 บาท และ เอส 9 พลัส เริ่มต้นที่ 31,900 บาท) โดยสมาร์ทโฟน เอส 9 และ เอส 9 พลัส ติดอันดับท็อป 20 สุดยอดสมาร์ทโฟนของอุสาหกรรมปัจจุบัน
“เมื่อพูดถึงโทรศัพท์มือถือระดับไฮเอนด์ การเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลอย่างแท้จริง” มร. ริชาร์ด ฟิสโก หัวหน้าทีมนักทดสอบสมาร์ทโฟนของ Consumer Reports กล่าว
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่ของซัมซุงมีความสมบูรณ์แบบ แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า กล้องของโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ยังมีประสิทธิภาพด้อยลงเล็กน้อยจากการทดสอบของเราแต่ก็ยังน่าประทับใจเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นยังมีข้อดีที่เหนือกว่าข้อด้อยอย่างชัดเจน
ผลการทดสอบซัมซุง กาแลคซี่ เอส 9 และเอส 9 พลัสของเรามีดังนี้
ความแข็งแรงของกาแลคซี่ เอส 9 และเอส 9 พลัส
ทนทานมากขึ้น
กาแลคซี่ เอส 9 และเอส 9 พลัสมีรูปลักษณ์เหมือนกับเอส 8 และเอส 8 พลัสอย่างมาก มีอัตราส่วนความสูงและความหนาเท่ากันที่ 18.5:9 ซึ่งทำให้ตัวโทรศัพท์มีขนาดใหญ่แต่ก็ยังถือง่าย ขนาดหน้าจอ (5.8 นิ้วและ 6.2 นิ้วสำหรับเอส 9 และเอส 9 พลัสตามลำดับ) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ซัมซุงได้ปรับขอบจอให้บางขึ้นอีก
เอส 9 ใช้วัสดุกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลังเหมือนกับรุ่นเอส 8 นอกจากเพิ่มสุนทรียภาพความสวยงาม กระจกด้านหลังยังรองรับการชาร์จไฟไร้สาย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่กลุ่มลูกค้าสมาร์ทโฟนพรีเมียมคาดหวังที่จะได้ใช้งาน (แต่ขอเตือนว่าเป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก)
แต่การตัดสินใจด้านการออกแบบดังกล่าวก็มีผลตามมาเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเลือกใช้วัสดุกระจกเกรดใดก็ตามก็จะไม่มีทางแข็งแรงได้เท่ากับโลหะ
เพื่อทดสอบความทนทานของสมาร์ทโฟน เราส่งไปทดสอบการหล่นกระแทกในกล่องหมุนเหวี่ยงของเราจำนวน 100 ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเครื่องกระทบกับพื้นกล่องในหลายมุมเพื่อจำลองการหล่นกระแทกหลากหลายรูปแบบ
หลังจากการทดสอบกระแทก 50 ครั้งในกล่องหมุนเหวี่ยงของเรา หน้าจอของกาแลคซี่ เอส 8 และเอส 8 พลัสเสียหายอย่างรุนแรงและไม่สามารถใช้งานได้ ขณะที่โทรศัพท์เอส 9 มีประสิทธิภาพดีขึ้นมาก เอส 9 ผ่านการทดสอบแรงกระแทกทั้ง 100 ครั้งได้โดยมีรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย ส่วนเอส 9 พลัสผ่านการทดสอบกระแทก 50 ครั้งแรกโดยไม่มีปัญหา แต่เกิดรอยแตกในการกระแทกอีก 50 ครั้งต่อมา
พัฒนาการดังกล่าวถือเป็นข่าวดีสำหรับแฟนๆ ซัมซุง แต่ด้วยการเป็นโทรศัพท์ที่ใช้วัสดุกระจก คุณควรปกป้องโทรศัพท์ด้วยเคสคุณภาพดี
ระบบประมวลผลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นใช้หน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูง Qualcomm Snapdragon 845 มร. ฟิสโกให้ความเห็นว่าการอัพเกรดอาจไม่ทำให้ประสิทธิภาพโดดเด่นมากนักแต่ก็ช่วยให้ความเร็วโดยรวมของโทรศัพท์รุ่นนี้อยู่ในระดับที่น่าประทับใจ การเปิดใช้งานแอพทำได้ฉับไวและการโหลดโมบายเว็บไซต์ทำได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่มีความเร็ว และโทรศัพท์รุ่นนี้ไม่ถูกฉุดให้ช้าลงเมื่อใช้ฟีเจอร์ที่ซับซ้อน (อาทิการเล่นเกม) ซึ่งต้องใช้พลังการประมวลผลค่อนข้างมาก
ลำโพงสเตอริโอที่ทรงพลัง
ถ้าคุณให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียง กาแลคซี่ เอส 9 และเอส 9 พลัสมอบลำโพงเสียงทีได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี คุณภาพเสียงผ่านการปรับแต่งพร้อมหูฟังโดยบริษัทเอเคจี-ฮาร์แมน (AKG-Harman) ซึ่งซัมซุงเข้าครอบครองกิจการตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2560
และนักทดสอบของเราระบุว่า ถึงแม้ลำโพงจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ให้ระดับเสียงออดิโอที่ดีและสร้างเสียงเต็มรูปแบบได้อย่างมีคุณภาพ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบฟังเสียงเพลงกระหึ่มแบบดั้งเดิม ซัมซุงยังคงรักษาช่องเสียบหูฟังแบบคลาสสิก 3.5 มม. ไว้ในโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้อีกด้วย
ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยที่สะดวกสบาย
เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือในซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 และเอส 8 พลัสทำให้หลายคนรู้สึกหงุดหงิดเพราะติดตั้งอยู่ข้างกับกล้องถ่ายภาพ บางคนจึงมักไปแตะถูกเลนส์กล้องโดยไม่ตั้งใจเมื่อต้องการปลดล็อกโทรศัพท์
นอกจากนี้ เอส 9 และเอส 9 พลัส ยังมาพร้อมทางเลือกการสแกนอัจฉริยะที่เปิดโอกาสให้คุณสามารถผสมผสานการจดจำใบหน้าและการสแกนม่านตาสำหรับเป็นทางเลือกในการปลดล็อกโทรศัพท์ แต่การสแกนอัจฉริยะยังไม่มีความปลอดภัยมากพอสำหรับการใช้กับแอพชำระเงิน (ไม่เหมือนกับเทคโนโลยีจดจำใบหน้าสามมิติในไอโฟน เท็น)
จุดด้อยของกาแลคซี่ เอส 9 และเอส 9 พลัส
ระดับความคมชัดของภาพ
เอส 9 พลัสเป็นโทรศัพท์ตระกูลกาแลคซี่ เอสรุ่นแรกที่มาพร้อมกล้องแบบมีรูรับแสงคู่ด้านหลังซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ติดตั้งอยู่ในกาแลคซี่ โน๊ต 8 และบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์บางรายติดตั้งอยู่ในโทรศัพท์รุ่นพรีเมียม โดยเอส 9 ทั้งสองรุ่นมีเซ็นเซอร์ 12 เมกะพิกเซลซึ่งมีความละเอียดมากพอสำหรับการถ่ายภาพที่คุณสามารถแชร์และสั่งพิมพ์ออกมาได้ กล้องหนึ่งตัวประกอบด้วยเลนส์มุมกว้างและเลนส์เทเลโฟโต้ออพติคอลซูม 2 เท่ข่าวา ขณะที่กล้องด้านหน้าสำหรับถ่ายเซลฟี่มีความละเอียด 8 เมกะพิกเซล
กาแลคซี่ เอส9 และเอส 9 พลัสสามารถถ่ายภาพได้ด้วยการใช้รูรับแสงที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรูรับแสง F2.4 ที่มีขนาดเล็กกว่าสำหรับถ่ายภาพในสภาพแสงสว่างจ้าหรือถ่ายภาพด้วยรูรับแสงที่กว้างกว่า F1.5 ในสภาพแสงน้อย นักทดสอบของเราเปิดเผยว่ารูรับแสงทั้งสองขนาดให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อยในการถ่ายภาพท่ามกลางสภาพแสงน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าแต่ก็มีความแตกต่างน้อยมาก คุณจะต้องนำภาพถ่ายทั้งสองมาวางเปรียบเทียบเคียงข้างกันจึงจะเห็นความแตกต่าง
โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นสามารถสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ ซึ่งวัตถุเป้าหมายมีความคมชัดขณะที่พื้นหลังเบลอ ซึ่งทำให้ได้ภาพถ่ายบุคคลที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
แต่ฟิสโกชี้ว่านักทดสอบตัดคะแนนโทรศัพท์รุ่นนี้ตรงภาพถ่ายที่มีความคมชัดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในสมาร์ทโฟนหลายรุ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มคะแนนด้านความละเอียดที่ไม่สมจริง การสร้างความคมชัดอย่างไม่เป็นธรรมชาติคือการขับเน้นคอนทราสต์ระหว่างวัตถุที่มีความมืดและสว่าง ซึ่งอาจทำให้เกิดแสงรัศมีรอบวัตถุเป้าหมายอย่างไม่เป็นธรรมชาติมากขึ้น
ผลลัพธ์ก็คือ เอส 9 พลัสอยู่ในอันดับที่ 4 ในการจัดเรตติ้งกล้องสมาร์ทโฟนของเรา ตามหลังไอโฟน เท็น ไอโฟน 8 พลัส และไอโฟน 8 ขณะที่เอส 9 อยู่ในอันดับที่ 12 ต่ำกว่าเอส 8 อยู่ 4 อันดับ
อย่างไรก็ตาม ฟิสโกกล่าวถึงความสำคัญที่จะต้องตระหนักว่ากล้องในสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมเกือบทุกรุ่นในปัจจุบันมีคุณภาพดีมาก คะแนนในภาพรวม (Overall Scores) ของการจัดเรตติ้งกล้องสมาร์ทโฟน 20 อันดับแรกของเรามีความแตกต่างกันประมาณ 0.5 คะแนนจากทั้งหมด 5 คะแนนเต็ม
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
ความจุแบตเตอรี่ของโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง กาแลคซี่ เอส 9 ใช้แบตเตอรี่ 3,000-mAh และแบตเตอรี่ของเอส 9 พลัสมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 3,500-mAh แต่แบตเตอรี่ของโทรศัพท์เอส 9 ทั้งสองรุ่นมีระยะเวลาใช้งานที่สั้นลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
เพื่อทดสอบว่าแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ใช้งานได้นานเพียงใด Consumer Reports ใช้นิ้วของหุ่นยนต์ที่ถูกปรับตั้งโปรแกรมเพื่อทดสอบการใช้งานหลากหลายรูปแบบที่จำลองมาจากการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค
หุ่นยนต์ดังกล่าวจะใช้งานอินเตอร์เน็ต ถ่ายภาพ สตรีมวีดีโอ และใช้ระบบนำทางจีพีเอส มีช่วงเวลาสแตนบายเมื่อไม่ได้ใช้โทรศัพท์และแน่นอนว่าต้องมีการใช้โทรศัพท์ โดยปกติแล้วระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ของผู้ใช้ทั่วไปในแต่ละวันจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการปรับความสว่างของหน้าจอและจำนวนแอพที่เปิดใช้งาน แต่ผลการทดสอบของเราคือวิธีการที่ดีในการเปรียบเทียบโทรศัพท์
การทดสอบของเราพบว่า แบตเตอรี่ของเอส 9 ใช้งานได้นาน 22.5 ชั่วโมง ลดลงจาก 26 ชั่วโมงของเอส 8 ขณะที่เอส 9 พลัสใช้งานได้นาน 24 ชั่วโมง ลดลงจาก 25.5 ชม. ของรุ่นเอส 8 พลัส ระยะเวลาที่ลดลงดังกล่าวถือว่าไม่มากนัก โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นยังมีพลังแบตเตอรี่ที่มากเพียงพอต่อการใช้งานโดยเฉลี่ยตลอดทั้งวัน แต่ก็ทำให้คะแนนโดยรวมของโทรศัพท์รุ่นนี้ลดลงเล็กน้อย
ควรซื้อดีหรือไม่?
กล้องในกาแลคซี่ เอส 9 และเอส 9 พลัสตอบสนองต่อใช้งานได้อย่างสนุกสนาน และระบบความปลอดภัยไบโอเมตริกที่ดีขึ้นนั้นทำงานได้รวดเร็วและง่ายดาย แต่ฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ เหมือนเป็นลูกเล่นมากกว่าจะใช้งานได้จริง
การสร้างอีโมจิแบบสามมิติจากตัวผู้ใช้อาจให้ความเพลิดเพลิน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนชื่นชอบได้เสมอไป โหมดกล้องซูเปอร์สโลว์โมใช้ง่ายยากและจำกัดแค่การถ่ายคลิปที่สั้นมาก ขณะที่การทดลองใช้แบบเร็วๆ กับฟีเจอร์การนับแคลอรี่ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ก็ประสบความสำเร็จน้อยมาก เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถระบุจำนวนกล้วยในภาพที่เราถ่ายได้ แต่เกิดความสับสนระหว่างเครื่องดื่มโค๊กกับชาเย็น
คำวิจารณ์ข้างต้นหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องรีบออกจากบ้านและซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้เพื่อสร้างความประทับใจให้เพื่อนฝูงด้วยลูกเล่นที่ล้ำสมัย ประโยชน์ที่แท้จริงของการเป็นเจ้าของเอส 9 และเอส 9 พลัสไม่ได้ปรากฏให้เห็นเด่นชัด
โทรศัพท์แฟล็กชิพรุ่นใหม่ของซัมซุงมีความทนทานต่อการแตกร้าวมากขึ้น ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีคุณภาพเสียงที่รื่นรมย์กว่าเดิม ขณะเดียวกันมาตรฐานประสิทธิภาพในภาพรวมก็ถูกยกระดับให้สูงขึ้นอีกครั้งตามที่แฟนๆ ของกาแลคซี่คาดหวัง