กว่า 1 ปีนับตั้งแต่ Samsung เปิดตัว Galaxy S7 และ S7 Edge มาจนถึงวันที่ 29 มีนาคมนี้ ตามเวลาที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เรียกได้ว่าเป็นเวลาที่ Samsung เห็นสมควรแล้วที่จะเดินหน้าสานต่อตระกูล Galaxy S ด้วย “Samsung Galaxy S8” แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าไม่ว่าก่อนที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่กี่รุ่นต่อกี่รุ่นเปิดตัวก็มักจะมีข้อมูลไปจนถึงภาพหลุดถูกเผยแพร่ออกมาตามโลกหลายกันอย่างแพร่หลาย ซึ่ง Galaxy S8 ถือเป็นเรือธงที่มีผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทำให้มีข้อมูลต่างๆ หลุดออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นข้อมูลต่างๆ จะถูกสรุปมาให้ทุกท่านทราบ แล้วไปดูกันว่าเมื่อถึงวันเปิดตัวข้อมูลต่างๆ จะตรงกับที่หลุดออกมาหรือไม่
มี Galaxy S8 แล้ว Galaxy S8+ ก็ตามมาด้วย
เป็นหนึ่งในทิศทางของ Samsung ที่เริ่มมาตั้งแต่ 2 ปีก่อน กับการเปิดตัวเรือธงพร้อมกันถึง 2 รุ่น ซึ่งในปีนี้เป็นอีกครั้งที่ Galaxy S8 จะมาพร้อมกับ Galaxy S8+ ด้วย แน่นอนว่าขนาดหน้าจอมีความแตกต่างกัน
มา 2 รุ่นอีกแล้ว แต่จะใหญ่ขึ้นรึเปล่า ?
จากปีที่แล้ว Galaxy S7 มีหน้าจอขนาด 5.1 นิ้ว Galaxy S7 Edge หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แต่สำหรับ Samsung Galaxy S8 และ S8+ หน้าจอจะไซส์ใหญ่ขึ้น โดย S8 จะมีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ส่วน S8+ จะมีหน้าจอใหญ่ถึง 6.2 นิ้ว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ Samsung เลือกปรับขนาดของทั้งสองเรือธงให้ใหญ่ขึ้น มีการคาดการณ์กันว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการชดเชยความต้องการของผู้คนที่สนใจ Samsung Galaxy Note 7 แต่ต้องผิดหวังไปเนื่องจากปัญหาที่หลายคนก็คงทราบกันดี
ด้านหน้าเป็นหน้าจอเกือบทั้งหมด
วิถีของงานออกแบบ Samsung Galaxy S8 จุดเด่นด้านหน้าคงเป็นสิ่งที่ชัดเจนที่สุดที่เราสัมผัสได้ด้วยตาเปล่า ด้วยการออกแบบที่เน้นหน้าจอแสดงผลที่กินพื้นที่บนตัวเครื่องเกือบ 90% หรือเรียกงานออกแบบนี้ว่า “all-screen” ทำให้พื้นที่บริเวณกล้องหน้าและปุ่ม home ทุกลดให้เหลือเพียงน้อยนิด และสิ่งที่ตามมา คือ การขยับปุ่ม home, ปุ่ม back และ ปุ่ม Recent App ไปไว้หน้าหน้าจอแทน ส่วนขอบจอจะยังโค้งเหมือนเช่นเคยและคาดว่าจะมาทั้ง 2 รุ่นเลยด้วย แต่งานออกแบบในลักษณะที่ว่านี้ Samsung ไม่ได้เป็นเจ้าแรก เนื่องจากเมื่อปีที่ผ่านมา Xiaomi Mi Mix ได้เริ่มต้นใช้งานออกแบบหน้าจอแสดงผลที่กินพื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่องไปถึง 91%
ความละเอียดหน้าจอปรับเพิ่มลดได้ด้วย
เดิมที่สมาร์ทโฟนในรุ่นเรือธงในช่วง 1-2 ปีมานี้ มักเลือกใช้ความละเอียดที่ระดับ QHD หรือ 2560 x 1440 พิกเซล เป็นความละเอียดที่ถูกกำหนดมาแบบตายตัว แต่ในปีนี้ทั้ง Galaxy S8 และ S8+ อาจขยับความละเอียดการแสดงผลไปเป็น QHD+ หรือ 2960 x 1440 พิกเซล ยิ่งไปกว่านั้นภายในเมนูการตั้งค่าการแสดงผลยังสามารถปรับลดความละเอียดได้มาเป็น Full HD (2220 x 1080 พิกเซล) และความละเอียดต่ำสุด HD (1480 x 720 พิกเซล) และยังมาพร้อมเทคโนโลยี Super AMOLED ส่วนใครที่หวังจะได้เห็นจอ 4K บนรุ่นนี้อาจต้องซดแห้ว
กระจกยังเป็นวัสดุหลัก
แน่นอว่าในปีนี้โลหะและกระจกจะยังคงเป็นวัสดุยอดนิยมในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ และเช่นเดียวกันกับ Galaxy S8 และ S8+ ที่จะยึดแนวทางการใช้วัสดุที่เป็นกระจกที่ให้ทั้งทนทานและให้ความสวยงามเป็นหลัก
ยังเป็นกล้องเดี่ยว ไม่ใช้กล้องคู่
แม้เทรนด์สมาร์ทโฟน Android ในปีนี้มีหลายแบรนด์หันมาใช้กล้องหลังคู่ บางเจ้าเน้นเซลฟี่แบบเต็มขั้นด้วยกล้องหน้าคู่ แต่สำหรับ Galaxy S8 และ S8+ ยังคงยึดในกล้องเดี่ยวไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลัง มั่นใจในเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งกล้องหลังจะมากับความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ชิปประมวลผลใหม่
Qualcomm Snapdragon 835 และ Samsung Exynos 9 ถือเป็น 2 ชิปรุ่นใหม่ที่ถูกคาดหมายว่าจะถูกนำมาใช้ใน Galaxy S8 และ S8+ ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความเร็วในการประมวลผลที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ช่วยจัดสรรพลังงานได้ดีขึ้น เป็นต้น แต่ประเทศใดที่จะได้ใช้ Qualcomm หรือ Exynos ก็ขึ้นอยู่กับประเทศไทยที่วางขายครับ
พอร์ตเชื่อมต่อ
เทรนด์ของพอร์ตเชื่อมต่อยุคนี้สำหรับสมาร์ทโฟน Android รุ่นเรือธง คงต้องเป็น USB Type-C ซึ่งใน Galaxy S8 และ S8+ คงไม่พลาดใช้พอร์ตที่ว่าเช่นกัน
สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แถมสแกนม่านตาก็มาด้วย ?
เดิมทีมีกระแสข่าวว่า Galaxy S8 และ S8+ จะใช้ปุ่มสีดำที่อยู่ด้านข้างของกล้องหลังเป็นที่สแกนลายนิ้วมือ แต่หากนึกภาพการใช้งานจริงแล้วมันคงเป็นตำแหน่งที่ไม่สะดวกเท่าใดนัก ทว่าก็มีอีกกระแสข่าวระบุว่าสแกนลายนิ้วมือจะใช้ได้บนหน้าจอแสดงผล ? และยิ่งไปกว่า “Iris Scanner” ฟีเจอร์สแกนม่านตาจะถูกยกมาจาก Galaxy Note 7 มาใช้กับ Galaxy S8 และ S8+ นอกจากนี้เรายังมีโอกาสได้เห็น Samsung นำฟีเจอร์ “Secure Folder” ระบบป้องกันโฟลเดอร์หรือแอพฯ ที่เป็นความลับมาใช้กับทั้งสองรุ่นด้วย หากต้องการใช้งานต้องใส่รหัสผ่านก่อน เรียกได้ว่าไหนๆ จะทำให้สมาร์ทโฟนมีความลปอดภัยแล้วก็ทำให้มันเต็มที่ไปเลย
กันน้ำ กันฝุ่น มาแน่นอน
คุณสมบัติเด่นที่ช่วยป้องกันน้ำ สามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้ ป้องกันฝุ่นละออง ภายใต้มาตรฐาน IP68 กันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร นาน 30 นาที จะยังมีใน Galaxy S8 และ S8+ ไม่เปลี่ยนแปลง
สีใหม่
จากข้อมูลในตอนนี้ Galaxy S8 และ S8+ จะประกอบไปด้วย 3 สี ได้แก่ สีดำ (Black Sky), สีเทา (Orchid Grey) และสีเงิน (Arctic Silver) แต่ดูแล้วไม่น่ามีแค่ 3 สีนี้แน่นอน
ผู้ช่วยฉลาดๆ ตัวใหม่ ภายใต้เทคโนโลยี Artificial Intelligence
Apple, Google, Amazon และ Microsoft ต่างทุ่มเทพัฒนาระบบผู้ช่วยฉลาดๆ ภายใต้เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) เพื่อให้สิ่งเหล่านี้สามารถหาคำตอบ แนะนำข้อมูลต่างๆ ให้กับผู้ใช้ รวมไปถึงสามารถโต้ตอบกับคำสั่งต่างๆ ได้เฉกเช่นการพูดคุยของมนุษย์ด้วยกันเอง ดังนั้น “Bixby” จึงถือกำเนิดขึ้น ผู้ช่วยฉลาดๆ ที่จะมาพร้อม Galaxy S8 และ S8+ สามารถสั่งงานด้วยเสียงเพื่อเรียกใช้งานส่วนต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้ มีความเข้าใจภาษาพูดที่เป็นธรรมชาติ
อุปกรณ์เสริมใหม่
“DeX Station” เป็นชื่ออย่างไม่เป็นทางการของอุปกรณ์เสริมชนิดใหม่ ตัวกลางที่จะเชื่อมต่อ Galaxy S8 และ S8+ กับจอภาพ คีย์บอร์ด และเมาส์ เพื่อทำงานที่คล้ายคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปได้ ลักษณะการทำงานอาจฟังดูคล้าย Microsoft Continuum
อื่นๆ
รองรับระบบชาร์จไร้สาย (Wireless Charging), แรม 4GB, หน่วยความจำภายใน 64GB, ระบบ Android 7.0 Nougat, รองรับ Samsung Pay, ระบบเสียงจาก AKG
จากข้อมูลในตอนนี้คงต้องบอกได้เพียงว่าเป็นข้อมูลที่ “หลุด” มาในโลกออนไลน์ ยังไม่มีการยืนยันเต็ม 100% แต่ในคืนวันที่ 29 มีนาคมนี้ ตามเวลาที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เราคงได้เห็นไปพร้อมๆ กับว่า Galaxy S8 และ S8+ จะมีเซอร์ไพรส์อะไรรออยู่ พลาดไม่ได้ครับ