หลังจากเปิดตัวที่มหานครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา มาเกือบ 2 สัปดาห์ ในที่สุดบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ถือฤกษ์งามยามดีในช่วงค่ำของวันที่ 17 ส.ค. 2559 เปิดตัว Samsung Galaxy Note 7 ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศเลื่อนการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่สั่งจองมาก่อนหน้านี้ จากกำหนดการณ์เดิมไปเป็นวันที่ 2 กันยายน เป็นต้นไป ขณะที่การวางจำหน่ายทั่วประเทศจะเกิดขึ้นในวันที่ 9 กันยายน เป็นต้นไป
การออกแบบ Samsung Galaxy Note 7 มาในทิศทางเดียวกับ S7 Edge มีความโค้งที่หน้าจอแสดงผล แต่จากที่สังเกตรู้สึกว่าขอบจอจะโค้งลงน้อยกว่า S7 Edge นิดหน่อย ด้านหลังก็ยังมีลักษณะโค้งลงที่ด้านข้างเช่นเดียวกับ Note 5 วัสดุหลักจะเป็นกระจกซะส่วนใหญ่ มีโลหะผสมมาเล็กน้อยก็ที่ขอบตัวเครื่องครับ ซึ่งส่วนหลักที่เป็นกระจกก็ต้องยอมรับสภาพกันตรงๆ ล่ะครับว่ามันเกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย ใครที่รักความสะอาด อยากให้เครื่องดูวิ้งอยู่ตลอดเวลาอาจจะต้องมั่นเช็ดกันบ่อยหน่อยครับ
ด้วยขนาดหน้าจอ 5.7 นิ้ว รู้สึกว่ามันไม่ได้ใหญ่อย่างที่หลายคนเห็นตามภาพ Note 7 มีตัวเครื่องที่บางพอสมควร การหยิบถือด้วยมือเดียวสำหรับแอดมินไม่เป็นอุปสรรคเท่าไหร่ ส่วนใครที่ไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่ๆ ขนาด 5.7 นิ้ว อาจต้องปรับตัวกันสักเล็กน้อยครับ
ส่วนของ S Pen มีการปรับโฉมเล็กน้อยเช่นกัน ทั้งขนาดแท่งที่บางขึ้น หัวปากกาก็เล็กลงเช่นกัน เท่าที่ลองใช้ดูต้องยอมรับเลยว่ามันใช้งานได้ลื่นดีจริงๆ แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้ครับสำหรับบางคนที่ไม่เคยใช้ S Pen มาก่อน แรกๆ คงไม่ถนัดนักต้องใช้เวลาสักหน่อยถึงจะคุ้นเคย เช่นเดียวกับคนที่มีมือใหญ่ๆ ครับ
ด้านฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ S Pen เช่น Translate ที่เมื่อเปิดฟีเจอร์นี้ เราสามารถนำหัว S Pen ไปจ่อที่หน้าจอ ณ คำที่ต้องการแปลภาษา ไม่ต้องแตะที่หน้าจอนะครับ ซึ่งหลังจากนั้นเนี่ยมันจะทำการแปลคำๆ นั้น จากภาษาอังกฤษ เป็น ไทย หรือเป็นภาษาอื่นๆ ที่เราสามารถตั้งค่าได้เองครับ นอกจากนี้เรายังสามารถตัดส่วนใดส่วนหนึ่งของวีดีโอเพื่อทำให้ภาพ .GIF ได้อีกด้วย
มาถึงฟีเจอร์ Iris Scanner ที่หลายคนพูดถึงกันมาก ด้วยตำแหน่งเซนเซอร์ที่ Samsung เพิ่มขึ้นมาบริเวณกล้องหน้า ทำให้ Note 7 สามารถใช้สแกนม่านตาเพื่อปลดล็อคหน้าจอแทนการใส่รหัส การลากจุดต่อจุด รวมไปถึงการสแกนลายนิ้วมือ และที่เด็ดกว่า คือ การตั้งรหัสผ่านให้กับโฟลเดอร์ลับด้วยสแกนม่านตาที่มีเจ้าของเครื่องเท่านั้นที่สามารถปลดล็อคโฟลเดอร์ลับได้
จากในวงกลมสีแดงจะเป็นเซนเซอร์สแกนม่านตา ทำหน้าที่ส่งสัญญาณอินฟาเรดเพือตรวจจับดวงตาของเรา
ข้อจำกัดของ Iris Scanner จากที่แอดมินได้ทดลองใช้และได้ทีมงานของ Samsung อธิบาย พบว่า ผู้มีคอนแทคเลนส์อาจมีอุปสรรคบ้างในการใช้สแกนม่านตา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับบางคน ต่อมาเป็นเรื่องของระยะการสแกนจะต้องอยู่ในระยะประมาณ 1 ไม้บรรทัด และหากสถานที่ที่คุณต้องการใช้สแกนม่านตามีแสงจ้ามากๆ ก็อาจมีผลต่อทำให้สแกนม่านตาติดยากกว่าปกติครับ
มาพูดถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับ Note 7 กันสักเล็กน้อยครับ เท่าที่สังเกตจะมีอุปกรณ์แท่น Wireless Charging, เคส S View และที่แอดมินรู้สึกค่อนข้างชอบนั่นคือ Lens Cover สำหรับ Note 7 ครับ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเข้ามาวางขายในไทยครับ คงต้องอาศัยยี่ห้ออื่นใช้ไปก่อน
เอาเป็นว่าแอดมินขอสรุปการพรีวิวเอาไว้เท่านี้ก่อนละกันนะครับ ไว้จัดเต็มตอนได้ Samsung Galaxy Note 7 มารีวิว ซึ่งอาจจะต้องอดใจรอกันอีกแป๊บนะครับ ส่วนใครชื่นชอบในความเป็น Note 7 และอยากนำมาแทนที่สมาร์ทโฟนเครื่องเดิม เก็บเงินรอไว้ก่อนครับ เพราะคุณวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ประกาศบนเวทีว่า จำเป็นต้องเลื่อนการวางจำหน่ายจากกำหนดการณ์เดิม ไปเป็นวันที่ 9 กันยายน 2559 เมื่อถึงตอนนั้นจะมีจำหน่ายตามช้อปของ Samsung พร้อมกันทั่วประเทศแน่นอน ในราคา 28,900 บาท มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ, สีทอง และสีเงิน ส่วนสีฟ้าถ้ามีเข้ามาเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบทันที