แม้ในช่วงนี้กระแสของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ จะตลบอบอวลในตลาดมือถือพอสมควร แต่จากราคาที่ซัมซุง ประเทศไทย เปิดออกมาก็อาจทำให้ผู้ชมบางท่านสะอึกไปบ้าง แต่สำหรับใครที่มีความชื่นชอบหรือใช้มือถือแบรนด์ซัมซุงอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และกำลังมองหาราคาที่ไม่เกินสองหมื่น Samsung Galaxy A8+ นับเป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจและมีความครบเครื่อง เหมาะสมกับราคาอยู่ไม่เบาครับ
สเปค Samsung Galaxy A8+
- ขนาดตัวเครื่องโดยรวม 159.9 x 75.7 x 8.3, น้ำหนัก 191 กรัม
- หน้าจอขนาด 6 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 2220 x 1080 (FHD+)
- รองรับนาโนซิมการ์ดได้ 2 ซิม
- ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1
- ชิปประมวลแบบ Octa-Core
- กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/1.7, มีระบบ Auto Focus, แฟลช LED, รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด FHD (1920 x 1080) @30fps
- กล้องหน้าเลนส์คู่ ความละเอียด 16 + 8 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/1.9
- แรม 6GB, รอม (หน่วยความจำเครื่อง) 64GB, รองรับ microSD Card ความจุสูงสุด 256GB
- พอร์ต USB Type-C และยังมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- เซนเซอร์ที่มากับเครื่อง : Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, RGB Light Sensor, Proximity Sensor
- กันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที ภายใต้มาตรฐาน IP68
- แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh
- ราคา 18,990 บาท
ตัวเครื่อง
ว่ากันตามเนื้องานก็ต้องบอกว่า Galaxy A8+ ถือเป็นรุ่นรองท็อปที่หันมาใช้ดีไซน์แบบไร้ปุ่มโฮม เพิ่มพื้นที่หน้าจอสำหรับการใช้สอยได้มากขึ้นในอัตราส่วน 18.5:9 ซึ่งขนาดหน้าจอ 6 นิ้่ว เรียกได้ว่าน้องๆ Galaxy S9+ (หน้าจอ 6.2 นิ้ว) เลยทีเดียว
วัสดุโดยรอบตัวเครื่องใช้กระจกเป็นส่วนประกอบหลัก ตัวเครื่องมีความหนาและหนักอยู่พอสมควร
หน้าจอแสดงผล
นอกจากพื้นที่การแสดงผลที่มากขึ้นแล้ว ยังมีส่วนผสมของเทคโนโลยี Super AMOLED ที่ให้แสงสีชัดเจน สามารถปรับความสว่างเพื่อสู้แสงแดดได้ดี
ตำแหน่งปุ่มกด
อย่างที่บอกไปเมื่อตอนต้นครับว่า Galaxy A8+ มากับดีไซน์แบบไร้ปุ่มโฮม ฉะนั้นปุ่มกดรูปวงรีที่ผู้ใช้ทั่วไปคุ้นเคยไม่มีมาในรุ่นนี้แล้ว ซึ่งปุ่มโฮม, ปุ่มย้อนกลับ และปุ่ม recent app (ปิดแอพทั้งหมด) จะอยู่ส่วนท้ายสุดบนหน้าจอทัชสกรีน
นอกจากนี้ที่เปลี่ยนตำแหน่งเพิ่มอีกหนึ่งจุดเป็นเรื่องของลำโพง ที่ขยับมาอยู่ด้านข้าง เหนือจากปุ่มพาวเวอร์ ความรู้สึกแรกยอมรับว่ารู้สึกแปลกเหมือนกัน แต่เหมือนฟังคุณภาพเสียงที่ออกมาก็ถือว่าให้อภัยได้ครับ
ส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ พอร์ตสำหรับต่อสายชาร์จเป็น USB Type-C, ยังมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ติดมาด้วย และถาดซิมอยู่ขอบบนสุดของตัวเครื่อง
กล้องถ่ายรูป
สำหรับกล้องถ่ายรูปบนมือถือซัมซุงจัดว่าเป็นเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วไปมาโดยตลอด ซึ่งความพิเศษของ Gaalxy A8+ อยู่ที่กล้องหน้าที่พกพามาเป็นคู่ที่ความละเอียด 16 + 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับค่ารูรับแสง f/1.9 มีคุณสมบัติในการเซลฟี่ได้อย่างคมชัดและให้ความสว่างที่เหมาะสมต่อสภาพแสงในหลากหลายสถานการณ์ สามารถเซลฟี่หลายคู่โดยใช้เลนส์ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ให้มุมกว้างได้ถึง 85 องศา
ตัวอย่างภาพเซลฟี่
คุณสมบัติที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่าง นั่นคือ การเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือที่ซัมซุงให้ชื่อฟีเจอร์นี้ว่า “Live Focus” สามารถปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ทั้งก่อนและหลังถ่ายภาพ เป็นคุณสมบัติที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้เองได้ง่ายๆ แม้ไม่ใช่มือถือโปร
สำหรับกล้องหลังก็ใช่ว่าจะไม่มีดี ซึ่งความละเอียด 16 ล้านพิกเซล บวกกับค่ารูรับแสง f/1.7 ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยเป็นเรื่องง่าย และเมื่อมองในภาพรวมแล้วคุณสมบัติของกล้องหลังสามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดตั้งแต่เช้ายันค่ำได้แบบง่ายดาย ไม่ต้องปรับแต่งค่าอื่นๆ เหมาะอีกเช่นกันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง
กันน้ำ
อีกหนึ่งเรื่องที่มี่ซัมซุงโชว์ให้เห็นมาในมือถือหลายต่อหลายรุ่น นั่นคือ คุณสมบัติกันน้ำ โดยใน Galaxy A8+ มาพร้อมมาตรฐาน IP68 สามารถนำลงน้ำได้ลึก 1.5 เมตร ภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที แต่แนะนำครับว่าควรใช้กับน้ำจืดเท่านั้น และเมื่อลงน้ำมาเสร็จแล้วควรเช็ดหรือทำให้แห้งครับ
ซอฟต์แวร์
พื้นฐานของซอฟต์แวร์เป็นระบบปฏิบัติการ Andrid 7.1.1 ที่ถูกครอบทับด้วย UI ของซัมซุง ความน่าสนใจของซอฟต์แวร์ที่หยิบมาเล่าในวันนี้ ประกอบไปด้วยฟีเจอร์ Alway On Display การแสดงเวลาและการแจ้งเตือนแม้ขณะปิดหน้าจอ หากใครรู้สึกรำคาญก็สามารถปิดได้, ระบบการรักษาความปลอดภัย ได้แก่ สแกนลายนิ้วมือ และที่แถมมาให้ด้วยเป็น “สแกนใบหน้า” ที่ทำได้แม่นยำ รวดเร็ว แต่ก็แนะนำครับว่าควรใช้สแกนใบหน้าในช่วงเวลาหรือสถานที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ
ยิ่งไปกว่านั้น ใครที่รู้สึกหวงแหนหรือต้องการความเป็นส่วนตัวในแอพต่างๆ ใน Galaxy A8+ ยังมี Secure Folder เพื่อปกป้องแอพหรือโฟลเดอร์ที่ไม่ต้องการให้คนใกล้ตัวเรารับรู้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เสริมสำหรับโซเชียลมีเดีย ให้เราสร้างอีกบัญชีขึ้นมา รองรับการใช้งานทั้งในแบบส่วนตัวและการทำงาน
แบตเตอรี่
ด้วยความจุระดับ 3500 mAh ใน Galaxy A8+ โดยพฤติกรรมการใช้งานปกติของผม เช่น เช็คเมล์, เล่นโซเชียล, ถ่ายภาพ, เข้าเว็บไซต์ หากผู้ใช้ท่านอื่นๆ มีพฤติกรรมการใช้งานประจำวันเช่นเดียวกับผม บอกได้เลยครับว่าการใช้งานในหนึ่งวันเป็นของสบายๆ ครับ
สรุปภาพรวม Samsung Galaxy A8+ ดีไหม
จากที่ผมได้ทดลองใช้งานและหยิบมาเล่าในวันนี้ คงจะเห็นแล้วนะครับว่า Samsung Galaxy A8+ มีความครบเครื่องในการใช้งานที่เหมาะสำหรับชีวิตประจำวันของคนเราทุกวันนี้ ในส่วนตัวผมจะติดอยู่เรื่องเดียวที่น้ำหนักของตัวเครื่อง แต่สำหรับส่วนอื่นๆ ผมเชื่อว่าน่าจะถูกใจผู้ใช้ทั่วไปที่มีกำลังซื้อมือถือในราคาไม่เกินสองหมื่นครับ