ซัมซุงสานต่อวิสัยทัศน์โครงการเพื่อสังคมด้านการศึกษา ’ห้องเรียนแห่งอนาคต’ ผ่านแคมเปญสื่อสารระดับภูมิภาค “From Educate to Inspire” สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ผ่านนวัตกรรมและกระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ สนับสนุนให้เยาวชนพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล เพื่อช่วยสร้างประเทศก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นางวรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ซัมซุงทั่วโลกเล็งเห็นความสำคัญของโครงการเพื่อสังคมที่จะช่วยพัฒนาด้านการศึกษาเสมอมา และสนับสนุนในการนำนวัตกรรมการเรียนรู้ รวมถึงเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเตรียมความพร้อมเยาวชนให้มีทักษะที่สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 เพราะการศึกษาคือการลงทุนในระยะยาวของสังคม เพื่อเป็นแรงเสริมให้เศรษฐกิจเติบโตและมีอนาคตที่ยั่งยืน
โครงการเพื่อสังคมของซัมซุงที่ช่วยขับเคลื่อนพันธกิจด้านการศึกษาของซัมซุงทั่วโลก และในภูมิภาคเอเชีย คือการสร้าง “ห้องเรียนแห่งอนาคต” หรือ Smart Schools ซึ่งนำเอานวัตกรรมมาผสมผสานกระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ เพื่อช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 นั่นคือ ชุดทักษะที่ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ และปรับตัว เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เชื่อมโยงกับการเรียนการสอนในสาขา STEM ที่มุ่งเน้นการใช้องค์ความรู้ในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ มาบูรณาการเข้าด้วยกันในการแก้ปัญหาในการเรียน การดำเนินชีวิตและการทำงาน โดยปัจจุบัน โครงการ Smart Schools ได้มอบแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชนใน 93 ประเทศทั่วโลก กว่า 1,400,000 คน จากกว่า 3,200 โรงเรียน”
ล่าสุด วิสัยทัศน์ด้านการศึกษานี้จะได้รับการสื่อสารให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างผ่านแคมเปญระดับภูมิภาค “From Educate to Inspire” ที่สื่อสารถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ยุคมิลเลนเนียล ผ่านภาพยนตร์โฆษณา ”The Little Pilot” (https://youtu.be/ecTBqLdjBDo) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการค้นพบของเด็กๆ กระตุ้นให้ตระหนักถึงความสำคัญของห้องเรียนกับการสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ ผ่านการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยการตั้งคำถามและคิดแก้ปัญหา ต่อยอดจินตนาการ และนำไปสู่การค้นพบคำตอบในที่สุด
นอกจากภาพยนตร์โฆษณาแล้ว แคมเปญของซัมซุงยังได้รับความร่วมมือจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานในสาขาวิชา STEM ได้แก่ เจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์ คุณหมอดีกรีนางสาวไทย, นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา บัณฑิตสาขาวิศวกรรมศาสตร์และนักแสดงชั้นนำ, ดร. การดี เลียวไพโรจน์ นักวิชาการและที่ปรึกษาธุรกิจมากความสามารถ และ ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ นักวิทยาศาสตร์ผู้มีผลงานระดับนานาชาติ มาร่วมแชร์ประสบการณ์และความคิดเห็นต่อความสำคัญของการศึกษาไทยและทักษะแห่งอนาคต ผ่านกิจกรรมบนช่องทางสื่อออฟไลน์ ออนไลน์ และเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นางวรรณา กล่าวเสริมว่า “ในประเทศไทย ซัมซุงได้พัฒนาห้องเรียนแห่งอนาคตผ่านโครงการเพื่อสังคม “Samsung Smart Learning Center สร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคต” มาตั้งแต่ปี 2556 โดยมีจุดประสงค์พัฒนาโรงเรียนต้นแบบ เพื่อสร้างทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ที่มีสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ใหม่ๆ ให้ครูและนักเรียน โดยนำเอาเทคโนโลยีอุปกรณ์ดิจิทัลจากซัมซุงมาเสริมในการเรียนการสอน ร่วมกับกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีส่วนร่วม (Active Learning) ในพื้นที่ที่เอื้ออำนวยให้เกิดการทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยมี ครูเป็นโค้ช ห้องเรียนเป็นเหมือนพื้นที่ตั้งคำถาม ให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ ทำงานร่วมกับผู้อื่นในสหสาขาวิชาแล้วค้นหาคำตอบ สร้างการค้นพบ สร้างสรรค์ผลงานเพื่อสื่อสารแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองค้นพบ และสร้างแรงบันดาลใจให้คนรอบข้างได้”
“ปัจจุบันโครงการ Samsung Smart Learning Center มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 47 แห่งทั่วประเทศ มีนักเรียนได้รับประโยชน์แล้วกว่า 100,000 คน โดยโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนจากซัมซุงในทุกด้านทั้งองค์ความรู้สำหรับพัฒนาบุคคลากร และเทคโนโลยีสำหรับพัฒนาห้องเรียนให้ทันสมัย”
ติดตามความเคลื่อนไหวของแคมเปญ From Educate to Inspire ได้ทาง http://bit.ly/2EuOu8Z เฟสบุ๊คเพจ Samsung Smart Learning Center https://www.facebook.com/samsungslc/ หรือแคมเปญแฮชแทก #DoWhatYouCant