Mr.Sokban Srin นักศึกษากัมพูชา มทร.ธัญบุรี ชนะเลิศการแข่งขันสุนทรพจน์ จากงานประกวด“การแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาไทยอุดมศึกษานานาชาติ” หัวข้อ “เรียนรู้ภาษา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต”
ตามที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ได้จัดการประกวด“การแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาไทยอุดมศึกษานานาชาติ” หัวข้อ “เรียนรู้ภาษา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต” การแข่งขันครั้งนี้แบ่งออกเป็น ๒ รอบ คือ รอบเตรียมตัว ใช้เวลาพูด ๗ นาที และรอบฉับพลัน ใช้เวลาพูด ๓ นาที มีสถาบันอุดมศึกษาส่งนักศึกษาต่างชาติเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๑๕ มหาวิทยาลัย ผู้เข้าแข่งขัน ๒๘ คน โดยผลการตัดสินรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ Mr.Sokban Srin มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ได้แก่ Mr.Yuzhe Yang มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ Miss Yanqi LI มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ณ ห้องประชุมเอื้องคำ ชั้น ๓ อาคารราชภัฏเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
Mr.Sokban Srin เล่าว่า เป็นนักศึกษาชาวกัมพูชาที่ได้รับทุนพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการท่องเที่ยว คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยเข้ามาศึกษาที่ มทร.ธัญบุรี เมื่อปีการศึกษา ๒๕๕๗ ที่ตนเองเลือกมาเรียนที่นี่ เพราะว่า เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียง อยากนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพในอนาคต มาอยู่ที่นี่ 1 ปี สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนและสภาพแวดล้อมได้ เพื่อนให้ความช่วยเหลือที่นี่เหมือบ้าน ซึ่งตนเองอยู่หอในกับเพื่อนที่มาจากกัมพูชา ปิดเทอมถึงจะกลับบ้าน ระหว่างที่เรียนตนเองทำกิจกรรมไปด้วย กิจกรรมที่ตนเองสนใจคือ การแข่งขันสุนทรพจน์ โดยตนเองเคยผ่านเข้ารอบฉับพลันในการแข่งขันสุนทรพจน์อุดมศึกษานานาชาติที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๙ และได้ฝึกฝนทักษะการพูดและการเขียนภาษาไทยอย่างต่อเนื่อง และตัดสินใจเข้าประกวดอีกครั้ง
โดยในการเตรียมตัวครั้งนี้ตนเอง รอบแรกมีหัวข้อให้ตนเองได้เรียบเรียงบทสุนทรพจน์ โดยมีอาจารย์ผู้ฝึกซ้อม ๒ คน คือ อาจารย์โสภณ สาทรสัมฤทธิ์ผล และอาจารย์อรัญญา แสนสระ ให้คำแนะนำ โดยได้วิเคราะห์หัวข้อสุนทรพจน์แล้วนำมาวางโครงเรื่องการพูดเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษา ความสำคัญของการเรียนภาษา เพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาตนเอง พัฒนางาน และพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งมีแนวคิดสำคัญว่า “การพัฒนาสังคมเริ่มจากการพัฒนาคน การพัฒนาคนเริ่มจากการพัฒนาการศึกษา การพัฒนาการศึกษาต้องเริ่มจากการเรียนภาษา และภาษาคือกุญแจไขประตูสู่โลกกว้าง เป็นเข็มทิศนำทางการติดต่อสื่อสารในสังคมยุคโลกาภิวัตน์ อันจะนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันในประชาคมโลก”
ส่วนรอบ 2 รอบฉับพลัน ใช้เวลาพูด ๓ นาที กรรมการจะให้คิดและพูดตอนนั่น ซึ่งตนเองฝึกซ้อมและเตรียมมาดี ไม่ว่าจะในเรื่องของการเรียบเรียงเนื้อหา จังหวะการพูด การแสดงท่าทาง จึงทำให้ตนเองชนะใจกรรมการ ในครั้งนี้ “การที่ตนเองมาอยู่ที่เมืองไทย เมืองไทยเหมือนเป็นบ้านของตนเอง เพราะว่า ลักษณะของอาหารการกิน ชีวิตความเป็นอยู่ ร่วมถึงภูมิประเทศเหมือนกัน ตนเองจึงรักประเทศไทยเหมือนประเทศเขมร”