WD My Passport SSD หรือ SSD พกพา มาพร้อมความจุให้เลือกตั้งแต่ 256GB ไปจนถึง 1TB และความเร็วอ่านเขียนข้อมูลสูง เหมาะสำหรับยุค Mobility ที่อะไร ๆ ต้องไว
ยุค Mobility หรือยุคของคนทำงานสมัยใหม่ ที่อาจต้องทำงานนอกสถานที่อยู่บ่อย ๆ เพราะเหตุนี้จงต้องมีอุปกรณ์ทำงานที่พกพาง่าย ๆ อย่าง Ultrabook โน๊ตบุ๊ครุ่นบางเบา ที่หลายรุ่นมาพร้อม SSD ในตัว ทำให้ผู้ใช้ได้ฟินไปกับความเร็วรับส่งข้อมูลของมัน แต่โน๊ตบุ๊คประเภทนี้ กลับมีข้อเสียตรงความจุที่น้อยไปนิด (พอยิ่งเยอะก็ยิ่งแพง) ทำให้บางคนต้องจำใจซื้อ External HDD หรือ HDD พกพา มาใช้ทดแทน แต่คนมันฟินกับความเร็วของ SSD ไปแล้ว พอมาใช้ HDD ที่แม้ความจุเยอะ แต่รับส่งข้อมูลช้าไม่ทันใจเสียเลย เพราะเหตุนี้จึงเป็นที่มาของ External SSD หรือ SSD พกพา ที่พกความเร็ว (และราคา…) ติดมาด้วย ในที่นี้ก็ขอแนะนำ WD My Passport SSD รุ่นความจุ 256GB มาพร้อมการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ทางเลือกใหม่ของอุปกรณ์เก็บข้อมูลสมัยนี้
สเปก WD My Passport SSD 256GB
- Disk Capacity : 256GB
- Speed : 515MB/s UP
- Interfaces : USB 3.1 หรือ USB Type C (มีหัวแปลง USB A ให้ในกล่อง)
- Limited Warranty : 3 ปี
- Dimensions : 10 x 45 x 90 mm
- Color : Grey and Black
- Model : WDBK3E2560PSL-WESN
แกะกล่อง
ตัวกล่องยังออกแบบตามสไตล์ซีรีย์ My Passport (2017) ของ WD ที่เน้นสีเหลืองสลับขาว ในกล่องก็ประกอบไปด้วย 4 อย่าง อาทิ WD SSD 256GB x 1 , สาย USB-C to USB-C x 1 , หัวแปลง USB-C to USB-A 3.0 x 1 และคู่มือการใช้งาน x 1
วัสดุและการออกแบบ
เสียดายที่ไม่มีตัว WD My Passport HDD มาเทียบ อยากให้เห็นความเล็กกระทัดรัดของตัว My Passport SSD จริง ๆ คือเล็กมาก การออกแบบก็ใช้สีทูโทนสีเทา (ออกเงิน ๆ) สลับดำ ดูมีความเงางามเล็กน้อย และติดรอยนิ้วมือง่ายเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
ด้วยความเบาบางเป็นพิเศษ ทำให้แทบไม่มีน้ำหนักอะไรเลย สามารถถือหรือพกใส่กระเป๋าเสื้อไปไหนมาไหนก็ได้
ช่องเสียบ USB Type-C ของตัว My Passport SSD ใช้ร่วมกับสาย USB-C to USB-C
ลองต่อ My Passport SSD เข้ากับสมาร์ทโฟนที่มีช่องเสียบ USB Type-C ดูเข้ากันดีอยู่นะ
ส่วนใครที่กังวลว่าไม่มีอุปกรณ์รองรับ USB Type-C ก็ไม่ต้องห่วง ตัว My Passport SSD จะมาพร้อมหัวแปลง USB-C to USB-A 3.0 ด้วย
สังเกตตัวหัวแปลง USB-C to USB-A 3.0 เล็กน้อย จะเห็นว่าแง่งบอกตำแหน่งในการต่อหัวให้ด้วย ทำให้เสียบเข้าได้แน่นหนา ไม่หลุดง่าย ๆ
ประสิทธิภาพ
ในการทดสอบครั้งนี้ ต้องขออภัยที่ไม่ได้ลองใช้สาย USB-C to USB-C ต่อเข้ากับโน๊ตบุ๊คที่มีช่อง USB Type-C (ใช่ซี้ เรามันตกรุ่น T T) เลยทดสอบผ่านหัวแปลง USB-C to USB-A 3.0 แทน ซึ่งอาจได้ความเร็วที่ตกลงไปบ้าง แต่จะขนาดไหน มาดูกัน
ตัว My Passport SSD ของ WD ก็มาพร้อมโปรแกรมจัดการตัวอุปกรณ์ให้เหมือนเคย โดยหลัก ๆ ก็มีฟีเจอร์ตรวจสอบสถานะ ทดสอบประสิทธิภาพ หรือนอกเหนือจากนั้น ก็ไปดาวน์โหลดเพิ่มเติมภายหลังก็ได้
ทดสอบด้วยโปรแกรม HD Tune Pro 5.60 ผลที่ได้นับว่าเสถียร ใช้เวลาในการเข้าถึงข้อมูลน้อยมาก และได้ความเร็วที่สม่ำเสมอ
ต่อด้วย CrystalDiskMark 5.2.1 ทดสอบความเร็วอ่านเขียน ผลที่ได้นับว่าไม่เลว แม้จะผ่านหัวแปลง USB-C to USB-A 3.0 แต่ก็ได้ความเร็วทั้งอ่านและเขียนในระดับ 300 MB/s UP มากกว่า External HDD (WD My Passport HDD 4TB) ที่อยู่แถว ๆ 100 MB/s เท่านั้น หากต่อผ่าน USB Type-C โดยตรง น่าจะได้ความเร็วที่โหดกว่านี้แน่
ในเมื่อไม่มีโน๊ตบุ๊คพร้อมพอร์ต Type-C ก็เลยเทสกับสมาร์ทโฟนที่มีพอร์ต Type-C แทน ลอง Copy ไฟล์ขนาด 1GB (ไฟล์เล็ก ๆ หลายไฟล์รวมกัน) ถือว่าเร็วดี แต่ไม่มากจนร้องว้าว
สรุป
ใครที่ต้องใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล มาทำงานร่วมกับโน๊ตบุ๊คอย่าง ตัดต่อวิดีโอผ่านอุปกรณ์ภายนอกเป็นต้น ด้วยความเร็วอ่านเขียนค่อนข้างสูงของตัว My Passport SSD ก็น่าจะช่วยให้งานเป็นไปอย่างราบรื่นแน่นอน ถือเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลทางเลือก สำหรับใครที่ต้องการอะไรที่มันเร็ว ๆ ไม่อยากรอโหลดไฟล์เป็นเวลานาน แถมยังได้ความเล็กพกพาง่ายด้วย แต่อย่าลืมว่า ราคาต่อความจุของ SSD เมื่อเทียบกับ HDD นั้น แค่ตัว 256 GB ที่รีวิวนี้ ก็สามารถซื้อ HDD รุ่น 3TB ได้เลย ดังนั้นต้องเลือกเอาระหว่าง “ความเร็ว” กับ “ความจุ” อยู่ที่การใช้งานของใครของมันแล้วครับ
ราคา My Passport SSD 256GB ก็อยู่ที่ 3,990 บาท ส่วนรุ่นที่เหลืออย่าง 512GB ก็ 7,990 บาท และ 1TB อยู่ที่ 15,990 บาท
ข้อดี
- ออกแบบสวยงามในระดับหนึ่ง
- ขนาดเล็กมาก พกพาได้สะดวกสุด ๆ
- ความเร็วอ่านเขียนกำลังดี
- ใช้การเชื่อมต่อสมัยใหม่ด้วย USB Type-C
- มีหัวแปลง USB-C to USB-A 3.0 แถมมาให้
ข้อสังเกต
- ราคาต่อความจุค่อนข้างโหด
- หากที่บ้านใครไม่มีสายดิน เวลาต่อเข้าคอมฯ ระวังโดนดูดนะเออ แม้ตัว WD My Passport SSD จะไม่ใช้วัสดุเป็นเหล็กหรืออลูมิเนียมก็ตาม….