รีวิว : WD My Passport (2017) 4 TB ถึกกว่าเดิม สะดุดตายิ่งขึ้น

จับเทส External Harddisk รุ่นยอดนิยมอย่าง My Passport จาก WD (Western Digital) ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ เพิ่มสีสันสะดุดตายิ่งขึ้น ทนทานกว่าเก่า และฟีเจอร์อำนวยความสะดวกมากมาย

จนถึงตอนนี้ อุปกรณ์ไอทีอย่าง External Harddisk ก็ยังเป็นของจำเป็นที่ขาดไม่ได้สำหรับหลาย ๆ คน เพื่อใช้เก็บข้อมูลดิจิตอลต่าง ๆ ที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นี้เอง (เช่น Folder “งาน” ขนาด 300GB…) ในครั้งนี้ผมก็ได้เจ้า WD My Passport รุ่นปี 2017 ในขนาด 4 TB มารีวิวด้วย โดยรุ่นปี 2017 นี้ ก็ได้เปลี่ยนดีไซน์ให้ดูสดใสกว่าเก่า (แลดูถึกกว่าเดิม) ด้วยการออกแบบให้เหมือนแท่งไอติม กับสีให้เลือกถึง 6 สี อาทิ ดำ, น้ำเงิน, เหลือง, ส้ม, ขาว และ แดง หลากสีสันกันสุด ๆ ทั้งยังมาพร้อมโปรแกรม สำรองข้อมูลอัตโนมัติ , ป้องกันข้อมูลด้วยการเข้ารหัส และ Backup File ในตัวด้วย ส่วนประสิทธิภาพจะขนาดไหน มาติดตามกันครับ

สเปก WD MY PASSPORT 4 TB (รายละเอียด)

Capacity : 4 TB (มีให้เลือกอีก 3 ขนาด อาทิ 3 TB, 2 TB, 1 TB)
Interface : USB 3.0 / USB 2.0 compatible
Additional Details : Auto backup with included WD Backup software
Password protection with hardware encryption
Spin Speed (RPM) : USB 3.0 Transfer Speeds: up to 5 Gb/s, USB 2.0 Transfer Speeds : up to 480 Mb/s
Cache : N/A
Product Factor : External 2.5″

แกะกล่อง

นอกจากตัว WD My Passport ที่ว่าดูสดใสขึ้นแล้ว ตัวกล่องเองก็ไม่แพ้กัน มาในโทนสีส้มตัดขาว หน้ากล่องก็ระบุสีของอุปกรณ์แบบชัด ๆ กันเลย อย่างในภาพสีที่ผมได้มารีวิวคือสีน้ำเงินนั้นเอง

ในกล่องก็ประกอบไปด้วย ตัว WD My Passport x 1 สาย External Harddisk 3.0 x 1 และชุดคู่มือ x 1 (No ซอง !! หาซื้อตามร้านที่แถมล่ะกัน)

วัสดุและดีไซน์

อย่างที่เกริ่นไปตอนแรก ตัวเครื่องมีการออกแบบให้เหมือนแท่งไอติม มาเป็นเหลี่ยม ๆ ชวนสะดุดตาทีเดียว แลดูถึกกว่าเดิมด้วย ด้านวัสดุก็ใช้พลาสติกทั้งตัว โดยแบ่งครึ่งหนึ่งเป็นผิวเงาอีกครึ่งเป็นผิวเรียบ ให้ดูมีจุดเด่นมากขึ้น

ใต้เครื่องก็มีปุ่มยางทั้ง 4 มุม พร้อมรายละเอียดตัวเครื่องที่อยู่ด้านล่างนี้เอง

โลโก้ WD เด่นสง่า ตรงส่วนที่เป็นพลาสติกผิวมัน (หลังใช้งานแปปเดียว ขนแมวขึ้นเพียบ – -)

เนื่องด้วยเป็นรุ่น 4TB ทำให้ตัวเครื่องดูหนาอยู่บ้าง ซึ่งถ้าเป็นรุ่น 1TB จะบางกว่าเกือบครึ่งเลย แต่รวม ๆ ยังถือว่ากะทัดรัดอยู่ และไม่หนักมากด้วย (หนัก 241 กรัม) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าแล้ว เหมือนตัวนี้จะหนาขึ้นนิด ๆ นะ

เหลี่ยมได้ใจจริง ๆ สีก็สดได้ใจเหมือนกัน

ตัวสายเอง ก็มีสีเดียวกับตัวเครื่องด้วย

การใช้งาน

ไฟ LED สีน้ำเงินขณะใช้งาน

สำหรับขนาดที่ผมได้รีวิวคือ 4 TB เมื่อใช้งานจริง จะเหลือ 3.6 TB ภายในก็จะมีชุดโปรแกรมอำนวยความสะดวกจาก WD พร้อมคู่มือในนี้เลย

ชุดโปรแกรมก็ประกอบไปด้วย โปรแกรมสำรองข้อมูลอัตโนมัติ , โปรแกรมป้องกันไฟล์ข้อมูลด้วยการเข้ารหัส และ โปรแกรม Backup File ทุกโปรแกรมเราสามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องติดตั้ง หรือจะติดตั้งเพื่อความสะดวกภายหลังก็ได้

หน้าตาโปรแกรมทั้ง 3 จาก WD ใช้งานไม่ยาก (ส่วนใหญ่คงโดน Format ตามธรรมเนียม จนเป็นฝุ่นไปก่อนแล้ว หากเสียดายก็ Copy เก็บไว้ก่อนก็ได้ครับ)

ประสิทธิภาพ

ลอง Copy ไฟล์งานขนาด 18.2 GB (งานนะงาน…) ผ่าน USB 3.0 เกือบ 5 พันไฟล์ พบว่าเร็วใช้ได้ทีเดียว แต่ก็มีความเร็วตกเป็นบางช่วงเหมือนกัน โดยเฉลี่ยก็อยู่ที่ 40 MB/s ต่ำสุด 30 สูงสุด 70 ตามภาพ

ทดสอบความเร็วอ่านเขียนด้วย AS SSD Benchmark ก็ได้ไป 100 MB/s นับว่ากำลังดี สำหรับ External Harddisk

สุดท้าย ทดสอบความเร็วถ่ายโอนข้อมูลด้วย HD Tune Pro โดยความเร็วสูงสุดได้นับว่าไม่เลวเลย ส่วนความเร็วเฉลี่ยถ้าสูงอีกนิดจะดีมาก

สรุป

โดยรวมคงพูดได้ว่า ตัว WD My Passport รุ่นนี้ ยังคงประสิทธิภาพเหมือนรุ่นก่อน ๆ อย่างความเร็ว ถ้าสูงสุดจัดว่าดีอยู่ แต่ความเร็วเฉลี่ยยังอยู่ในระดับพื้นฐาน เท่าที่ External Harddisk ที่เชื่อมต่อผ่าน USB 3.0 ทำได้ ส่วนที่เปลี่ยนไปพอควร ก็ไม่พ้นดีไซน์ที่ดูเป็นมิตรมากขึ้น สดใสขึ้น และถึกขึ้น สุดท้ายซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ติดมากับเครื่อง ที่ใช้ประโยชน์ได้มากทีเดียว (ถ้าไม่เป็นฝุ่นไปก่อนนะ) สำหรับราคาของ WD My Passport รุ่น 4TB นี้ ก็อยู่ที่ 5,590 บาทครับ

ข้อดี

• ดีไซน์ดูสะดุดตามากขึ้น
• ขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก (แม้จะหนากว่าเดิมเล็กน้อย)
• แถมโปรแกรมอำนวยความสะดวกมากมาย

ข้อสังเกต

• พลาสติกดูไม่พรีเมี่ยมเหมือนรุ่นก่อน ๆ
• ประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาตรฐาน