ก่อนหน้านี้เคยรีวิว TP-Link MR200 เป็นเราเตอร์ Wi-Fi ใส่ซิมได้ และมี Dual-Band รองรับทั้งคลื่น 2.4GHz และ 5GHz แต่ก็แลกกับราคาเกือบ ๆ หาพันบาท ถือว่าแรงใช่เล่น จนล่าสุดมาเจอ TP-Link MR6400 เป็นเราเตอร์ Wi-Fi ใส่ซิมได้อีกรุ่น แต่รอบนี้มาพร้อมสเปก Wireless N300 ในคลื่น 2.4GHz เพียงอย่างเดียว ทำให้มีราคาถูกลงกว่าเก่ามาก จึงเหมาะสำหรับนักเรียนหรือนักศึกษา ซื้อมาติดที่หอพักเพื่อใช้เน็ต 4G LTE แบบส่วนตัวไปเลย ไม่ก็สำหรับคนที่ชอบทำงานข้างนอก ก็พกไปช่วยปล่อยสัญญาณเน็ตแทนสมาร์ทโฟนหรือ Pocket WiFi ก็ได้เช่นกัน
รายละเอียดสเปก TP-Link MR6400
Wireless Standards : IEEE 802.11b/g/n 2.4GHz
Frequency : 2.4GHz
Signal Rate : 300Mbps at 2.4GHz
Wireless Functions : Enable/Disable Wireless Radio, WMM,
Wireless Statistics
Wireless Security : 64/128-bit WEP, WPA/WPA2, WPA-PSK/WPA2-PSK encryptions
Operating Modes : 3G/4G Router, Wireless Router
Interface : 3 10/100Mbps LAN Ports, 1 10/100Mbps LAN/WAN Port,
1 Micro SIM Card Slot
Button : WPS/Reset Button, WiFi On/Off Button, Power On/Off Button
Antenna : 2 Internal 4G LTE Antennas, 2 Fixed External WiFi Antennas
External Power Supply : 9V/0.85A
Dimensions ( W x D x H ) : 202 x 145 x 34 mm
แกะกล่อง
สำหรับตัว TP-Link MR6400 ก็มาพร้อมกล่องดีไซน์ใหม่ของทาง TP-Link ส่วนอุปกรณ์ภายใน ก็มีตัวเครื่อง ชุดไฟเลี้ยง สาย LAN และคู่มือ
วัสดุและดีไซน์
ตัวเครื่องเป็นพลาสติกผิวมันสีดำ เวลาเจอแสงไฟส่องเข้ามา ก็จะสะท้อนแสงสวยงามทีเดียว แต่ก็มีข้อเสียตรงที่เป็นรอยนิ้วมือง่ายเหมือนกัน ส่วนดีไซน์ก็คล้าย ๆ กับรุ่น MR200 มี 2 เสาเหมือนกัน แต่ตัว MR6400 ดูบางกว่าเล็กน้อย
ตรงขอบตัวเครื่องก็มีช่องระบายความร้อนอยู่รอบ ๆ
ดูช่องระบายความร้อนแบบชัด ๆ อีกมุม
เสารับสัญญาณ 2 เสา รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไร้สายต่าง ๆ ได้สูงสุดถึง 32 ตัว
ด้านหลังเครื่องก็ประกอบไปด้วย ปุ่ม Power ช่องเสียบไฟเลี้ยง ส่วนเชื่อมต่อก็มีช่อง 10/100Mbps LAN Ports x 3 กับ 10/100Mbps LAN/WAN x 1 และช่อง Micro SIM Card x 1
ขนาดซิมการ์ดที่รองรับจะเป็น Micro สามารถเสียบหลังเครื่องได้เลย หากจะเอาออก ก็ให้ดันตัวซิมการ์ดอีกที มันเจะด้งออกมาเอง
ด้านล่างตัวเครื่องมีชื่อบอกรหัสเชื่อมต่อ Wi-Fi สำหรับการตั้งค่าครั้งแรก ส่วนลวดลายล่างเครื่อง ก็แบบเดียวกับ MR200 เป๊ะ ๆ
การใช้งาน
ก่อนเทส TP-Link MR6400 ก็จัดแจงเตรียมซิมการ์ดพร้อมสมัครโปรให้เรียบร้อย จากนั้นก็เอาซิมการ์ดใส่ที่ตัวเครื่องและเสียบปลั๊กเป็นอันเสร็จ
ต่อไปก็ลงแอพฯ TP-Link Tether จากนั้นก็ทำการตั้งค่าใช้งานครั้งแรก โดยมันจะให้ตั้งชื่อเครือข่ายและรหัสสำหรับเข้า Wi-Fi ใหม่หมดเลย ก็ตามขั้นตอนเลยครับ กด ‘ถัดไปรัว ๆ’ จนถึงคำว่า ‘เสร็จสิ้น’ เท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว
สำหรับหน้าควบคุมการทำงานของตัว TP-Link MR6400 ผ่านแอพฯ TP-Link Tether ก็มีให้แบบพอเหมาะ เพิ่มเติมคือหน้าตั้งค่าสำหรับซิมการ์ดที่เราใส่
ประสิทธิภาพ
การเทสประสิทธิภาพรอบนี้จะพิเศษหน่อย จากเดิมที่ผมมักจะเทสอุปกรณ์ Wi-Fi เราเตอร์ที่บ้าน รอบนี้ผมยกมาเทสที่ออฟฟิศเลย เนื่องจากไม่ต้องใช้ Modem แล้ว แต่กระนั้นที่นี้ก็เต็มไปสารพัดสัญญาณ Wi-Fi มากมาย ลองมาดูกันว่าเจ้า TP-Link MR6400 จะสู้พวกพี่ ๆ ที่อยู่ในนี้ได้หรือไม่
รอบแรกอยู่ใกล้ตัวเครื่อง ก็พบความแรงของสัญญาณ Wi-Fi ในคลื่น 2.4 GHz พุ่งแรงแซงพวกพี่ ๆ ในออฟฟิศแบบไม่เห็นฝุ่นกันเลย ส่วนความเร็วเน็ตที่ได้ก็ตามภาพ
ผลเทสความเร็วจากโน๊ตบุ๊ค ซ้ายต่อ Wi-Fi ขวาต่อสาย LAN โดยตรง
โปรเน็ตที่ใช้ทดสอบ (พร้อมข้อความฟ้องยอดเงินใกล้หมด…..)
ทว่าพอลองลงมาข้างล่าง 1 ชั้น สัญญาณ Wi-Fi จากตัว TP-Link MR6400 ก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็ไม่น่าแปลกอะไร เนื่องจากขีดจำกัดของเสาสัญญาณและสเปกตัวเครื่องนี้เอง
สรุป
ขอเล่าประสบการ์ณตรงนิดหน่อย คือที่ออฟฟิศที่ผมทำงานอยู่ เวลามีคนเข้ามาทำงานเยอะ ๆ ก็มักทำให้สัญญาณ Wi-Fi ขาด ๆ หาย ๆ เสมอ จนบ้างครั้งผมต้องเอาสมาร์ทโฟนมาปล่อย Hotspot อย่างเซง ๆ ทว่าหลังได้ตัว TP-Link MR6400 มารีวิว เหมือนเจอสวรรค์เลยครับ ฮ่า ฮ่า คือการใช้ Hotspot จากสมาร์ทโฟน มันก็มีขีดจำกัดตรงที่สัญญาณไม่ได้เสถียรอะไรมาก ทั้งยังเป็นภาระต่อสมาร์ทโฟนอีกด้วย แต่ตัว MR6400 มันคือ Router Wi-Fi ที่มีหน้าที่ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi โดยเฉพาะ และ MR6400 มันใส่ซิมได้ ก็ทำให้ผมสามารถใช้เน็ต 4G LTE แบบส่วนตัวได้เลย สุขีสุด ๆ
สำหรับตัว TP-Link MR6400 ก็ถือเป็นเราเตอร์ Wi-Fi ระดับเริ่มต้นตัวหนึ่ง สเปกสำหรับการปล่อย Wi-Fi จึงไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แต่ด้วยความสามารถรองรับซิมการ์ดแบบ 4G LTE ได้ ก็ทำให้มันมีบทบาทสำคัญสำหรับบางคนจริง ๆ (เช่นผมเป็นต้น) ท้ายนี้ TP-Link MR6400 ก็มีราคาอยู่ที่ 2,700 บาทเท่านั้น มาพร้อมประกันศูนย์ 3 ปีครับ
ในเดือนกันยายนนี้เองทาง TP-Link ก็ได้จัดโปรโมชั่นต้อนรับวันที่ 9 เดือน 9 กับแคมเปญ 9.9 Super Shopping ใน Shopee ด้วย ใครที่สนใจสามารถตาม Code ลดราคา ได้ตามช่วงเวลาดังนี้เลยครับ
- Code Discount 5% วันที่ 1 กันยายน 2561
- Code Discount 7% วันที่ 5-8 กันยายน 2561
- Code Discount 10% วันที่ 9 กันยายน 2561