จากที่เคยรีวิวเราเตอร์แบรนด์ Tenda มาหลายรุ่น จุดเด่นใหญ่ ๆ ที่พบมาตลอดคือ “ติดตั้งง่าย” ระดับที่ว่า เสียบปลั๊กแล้วใช้งานได้เลย ไม่ต้องเปิดแอพฯ หรือเว็บอะไรให้วุ่นวาย ก่อนหน้านี้เคยรีวิวเจ้า Tenda A18 กับ Tenda A9 เป็นชุดคอมโบทำ Mesh Technology อย่างง่าย ๆ ใช้งบไม่เยอะ โดยเอาจุดเด่นของ Wi-Fi Repeater และ Range Extender มารวมกัน ช่วยให้กระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้ไกลขึ้น
อย่างไรก็ตาม ชุดคอมโบดังกล่าวยังมีขึดจำกัดตรงที่ ฟีเจอร์ใช้งานไม่มาก และไม่สามารถตั้งค่าการทำงานได้ในครั้งเดียว เหมือนทาง Tenda จะรู้ถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ส่งชุดคอมโบพิเศษอย่าง Tenda MW5 + MW5s หนึ่งเราเตอร์ Wi-Fi กับสอง Range Extender รวมกันในกล่องเดียวเลย เอาไปทำ Mesh Technology โดยเฉพาะ ซึ่งสเปกก็มาพร้อม AC1200 แบบ Dual Band รองรับการเชื่อมต่อมากถึง 60 อุปกรณ์ กระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้สูงสุด 3,500 ตารางฟุต รองรับทั้งคลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz และสุดท้าย อำนาจในการทะลุทะลวงผนังหรือกำแพงภายในบ้าน ช่วยให้สัญญาณ Wi-Fi มีความครอบคลุมอย่างแท้จริง
สเปก Tenda Nova MW5 และ MW5s
Interface : พอร์ต WAN/LAN 10/100/1000Mbps x 1 พอร์ต LAN 10/100/1000Mbps x 1 สำหรับ Mesh5 และพอร์ต LAN 10/100Mbps x 1 สำหรับ Mesh5s
Antenna : เสา 3dBi x 2 ภายในตัว (Omni-directional) สำหรับ Mesh5 และ เสา 2dBi x 2 ภายในตัวเหมือนกัน สำหรับ Mesh5s
Wireless Standards : IEEE 802.11ac/a/n 5GHz ความเร็ว 867Mbps และ IEEE 802.11b/g/n 2.4GHz ความเร็ว 300Mbps
Wireless Security : WPA2-PSK (default)
Wireless roaming : Comply with IEEE802.11k/v/r
DHCP Server : DHCP Server, DHCP Client List
Virtual Server : Port Forwarding, UPnP
Other : Parental Control, Guest Network, Firmware upgrade online, Reset to factory settings
Setup Requirements : A mobile device running Android 4.0 หรือ iOS 8 ขึ้นไป
แกะกล่อง
ในกล่องก็ประกอบไปด้วยตัวเครื่อง Tenda MW5 พร้อมชุดชาร์จไฟ และ MW5s อีก 2 ตัว พร้อมสาย LAN x 1 กับชุดคู่มือ
วัสดุและดีไซน์
หน้าตาตัวเครื่อง Tenda MW5 และ MW5s อีก 2 ตัว ก็มาในโทนสีขาวล้วน ใช้วัสดุเป็นพลาสติกผิวมันสะท้อนแสงนิด ๆ ตามสไตล์ Tenda
สำหรับตัว Tenda MW5 จะมาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อ WAN/LAN x 1 กับ LAN x 1 รวมเป็น 2 ช่อง และมีช่องเสียบไฟเลี้ยง ส่วนตัว Tenda MW5s ก็มาพร้อมพอร์ต LAN x 1 กับหัวปลั๊ก Type A
สำหรับตัว Tenda MW5 ก็ถือเป็น Router Wi-Fi สเปกดีตัวหนึ่งเลย ซึ่งภายในมีเสาสัญญาณแบบ 3dBi x 2 ภายในตัว (Omni-directional) เลย สเปกคือ AC1200 แบบ Dual Band ปล่อยได้ทั้งคลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz พร้อมพอร์ต WAN/LAN และ LAN ที่รองรับความเร็วได้สูงสุด 1000Mbps
ส่วนตัว Tenda MW5s อาจเรียกได้ว่าเป็น Range Extender ตัวช่วยขยายสัญญาณ Wi-Fi ที่จะมาช่วยเสริมเจ้า Tenda MW5 ให้กระจายสัญญาณได้ไกลขึ้นนี้เอง (รองรับได้สูงสุด 6 ตัว) โดยสเปกก็ถือว่าดีไม่แพ้กันคือ AC1200 แบบ Dual Band เช่นเดียวกัน แต่ยกเว้นพอร์ต LAN ที่รองรับความเร็วได้สูงสุด 100Mbps เท่านั้น
การใช้งาน
การติดตั้งใช้งานครั้งแรก ตั้งแต่ตอนรีวิวตัว Tenda MW3 ก็เคยชมเรื่อง “เสียบปลั๊กแล้วใช้งานได้เลย” มาแล้ว รอบนี้ตัว Tenda MW5 และ MW5s ก็เช่นเดียวกันครับ นำตัว Tenda MW5 ไปต่อกับ Modem Router ประจำบ้าน จากนั้นก็นำเจ้า MW5s อีก 2 ตัว ไปวางตามจุดที่คิดว่าอับสัญญาณ โดยมีตัวใดตัวหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัว MW5 มากนัก เท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว ซึ่งจะมีชื่อ Wi-Fi ว่า “NOVA_F358” โผล่ขึ้นมาทันที พร้อมรหัสที่หาได้จากใต้เครื่อง
แต่แน่นอนว่าเราควรตั้งรหัส Wi-Fi ใหม่จะดีกว่า ก็เปิด แอพฯ Tenda ขึ้นมา แล้วไปจัดการตั้งค่าใช้งานครั้งแรก เพื่อ Set ชื่อรหัส Wi-Fi ใหม่ให้เรียบร้อย ตรงนี้เราสามารถตั้งค่าแบบครั้งเดียวจบ ตรงหน้าตัวเครื่อง MW5 ได้เลย ไม่ต้องไปไล่ Set Up ตัว MW5s ที่เหลืออีก 2 ตัว ซึ่งอยู่ใกล้ออกไปให้เหนื่อย ขอชมเลยครับส่วนนี้ ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ (มีประสบการณ์ตอนรีวิว Mash Wi-Fi อยู่รุ่นหนึ่ง ที่ต้องไปไล่เชื่อมต่อ “โหนด” ทีละตัว ใช้เวลานานมาก – -)
หลังตั้งค่าใช้งานครั้งแรกเสร็จแล้ว ตัวแอพฯ ก็จะพาเข้าสู่หน้า Dashboard ควบคุมการทำงานทั้งตัว Tenda MW5 และ Tenda MW5s สามารถจัดการการตั้งค่าต่าง ๆ ได้ในทีเดียวเลย โดยตัว MW5s อีก 2 ตัว ก็สามารถตั้งชื่อตำแหน่งห้องที่มันประจำการอยู่ได้เลย เพื่อความสะดวกเวลาตั้งค่าภายหลัง (สำหรับใครที่ซื้อตัว MW5s เพิ่มอีก 3 ชุด จะได้ไม่งง)
สำหรับฟีเจอร์ภายในของ Tenda MW5 และ Tenda MW5s ก็มีหน้าตั้งค่า Wi-Fi กับ Guest Network เป็นพื้นฐาน แต่ก็มีหน้าตั้งค่าที่น่าสนใจอื่น ๆ อีก อาทิ
Parental Control หรือฟีเจอร์ควบคุมการใช้งาน Wi-Fi ของลูก ๆ หลา่น ๆ (หรือลูกน้อง) อาจดูเป็นฟีเจอร์พื้นฐานก็จริง แต่ในที่นี้ เราสามารถกำหนดการควบคุมแบบ Play/Pause ตามชื่ออุปกรณ์ที่ตั้งค่าไว้ได้เลย ส่วนการควบคุมนั้น หลัก ๆ ก็มีการควบคุมเวลาใช้งาน Wi-Fi โดยสามารถกำหนดวันเวลาได้เต็มที่
นอกนั้นก็มี QoS, Fast Roaming, Capacity-oriend Mode, Smart Assistant, Port Forwarding, UPnP, DHCP Server, DNS และ Maintenance Schedule
ประสิทธิภาพ
ตำแหน่งตัว Tenda MW5 ก็อยู่ที่ห้องทำงาน ติดกับตัว Modem Router ส่วน Tenda MW5s ก็ไปอยู่ห้องนั่งเล่นหนึ่งตัว และห้องนอนอีกหนึ่งตัว ตามภาพเลย
ต้องบอกก่อนว่า ตัว Tenda MW5 และ MW5s สามารถปล่อยสัญญาณได้ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz แต่ในชื่อ Wi-Fi ที่ขึ้นนั้น จะมีชื่อเดียวเท่านั้น เนื่องจากมันจะทำการสลับการเชื่อม 2 คลื่นดังกล่าวให้อัตโนมัติเลย อยู่ใกล้ก็เป็นคลื่น 5 GHz อยู่ใกล้หน่อยก็ 2.4 GHz (แน่นอนว่าตั้งค่าภายหลังในแอพฯ ได้) ซึ่งก็สะดวกดี ไม่ต้องมาไล่เชื่อมต่อ 2 คลื่นตามความเหมาะสมเอาเอง
อย่างตอนนี้ก็ขอทดสอบคุณภาพสัญญาณขณะอยู่ใกล้ตัวเครื่อง Tenda MW5 ในห้องทำงานก่อน หากเปิดแอพฯ Wi-Fi Analyzer จะเห็นเลยว่า มีคลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz อย่างละ 3 คลื่น รวมเป็น 6 คลื่นกันเลย (แต่ในชื่อ Wi-Fi จะเห็นเป็นชื่อเดียวเท่านั้น) ความเร็วก็ได้ตามความเร็วบริการเน็ตที่ใช้อยู่เป๊ะ ๆ (100/30) ไม่มีตกหล่นแต่อย่างใด แน่นอนว่าเสถียรมาก ๆ อยู่ได้จาก กราฟความเร็วโหลด ในแอะฯ SpeedTest เลย
ออกห่างจากตัว Tenda MW5 มาอยู่ใกล้กับ MW5s ในห้องนอน ลองเปิดแอพฯ Wi-Fi Analyzer สังเกตได้เลยว่า ตัวคลื่น Wi-Fi จาก Modem Router มีการลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนตัวคลื่น Wi-Fi จาก Tenda ยังพุ่งขึ้นสูงเหมือนเคย และเป็นทั้ง 6 คลื่นเลยด้วย บ่งบอกเลยว่า แต่ละตัวนั้น สามารถกระจายสัญญาณได้ไกลสุด ๆ และตัว Tenda MW5 ที่อยู่ห่างออกไป ก็ยังทะลวงกำแพงและประตูอีกหลายบาน มายังห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่อีกฟากได้เฉยเลย ความเร็วที่ได้ก็เหมือนเดิมเช่นกัน ไม่มีตกหล่นอะไรทั้งนั้น สรุปคือตอนนี้ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนของบ้าน ยังไงก็มี Wi-Fi เสถียร ๆ ใช้แน่นอน
สรุป
Tenda MW5 และ Tenda MW5s เรียกได้ว่าเป็นชุด happy me…. ชุดทำ Mesh Technology ที่ใช้งานง่าย มาก ประสิทธิภาพดีเยี่ยม ดีไซน์สวยด้วย ใครที่ไม่คล่องเรื่อง Network หรืออุปกรณ์แนวนี้มากนัก ตัว Tenda MW5 กับ MW5s น่าจะตอบโจทย์ไม่น้อย คือเสียบปลั๊กก็ใช้งานได้เลย แจ่มมากอันนี้ ส่วนตัวแอพฯ ก็ใช้งานไม่ยาก สามารถตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ได้รวดเร็วทันใจ และควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ทั้งหมดได้ในครั้งเดียว สำหรับประสิทธิภาพยืนยันเลยว่า ตัวเดียวก็โหดแล้ว คือมันเป็น AC1200 แบบ Duel Band ทั้งหมด ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ได้ทะลุทะลวงดุเดือดไม่แพ้กัน และเสถียรมาก ๆ แต่หากใครคิดว่าตัว MW5s ที่มี 2 ตัวยังไม่พอ ก็สามารถไปซื้อเพิ่มอีกเป็น 6 ตัว ซึ่งตามสเปกจะทำให้ปล่อยสัญญาณได้ไกลถึง 6000 ตารางฟุต รองรับการเชื่อมต่อได้สูงสุด 60 อุปกรณ์กันเลย ท้ายนี้ราคาของ Tenda MW5 + Tenda MW5s ที่รีวิวนี้ ก็อยู่ประมาณ 5,500 บาท ครับ