ก่อนหน้านี้เคยรีวิวตัว Tenda AC10U ไป ซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวรุ่นพี่ของ Tenda AC6 ที่รีวิวนี้เอง ต้องบอกเลยว่าใครที่ไม่ได้อ่านชื่อรุ่นมีสับสนแน่ เพราะทั้งสองรุ่นมีหน้าตาคล้ายกันมาก จุดสังเกตจริง ๆ คือ รุ่น AC6 จะไม่มีพอร์ต USB 2.0 เหมือนรุ่น AC10U กับมีเสา 5dBi ที่สูงยาวกว่า ส่วนสเปกภายใน รุ่นนี้จะใช้ซีพียูความเร็ว 900 MHz กับแรม 64MB เท่านั้น ทว่ายังมีจุดเด่นเหมือนกันคือ ‘กระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้แรง’ เหมือนกัน มี MU-MIMO กับ Beamforming เหมือนกัน และมี Smart ฟีเจอร์ หลาย ๆ อย่างเหมือนกัน แต่แลกกับราคาที่ย่อมเยากว่านั้นเอง
สเปก Tenda AC6 AC1200 (รายละเอียด)
- ความเร็วสูงสุด 1200 Mbps (AC1200) แบ่งเป็น 2.4 GHz (300Mbps) กับ 5 GHz (867Mbps)
- 10/100Mbps WAN x 1 กับ10/100Mbps LAN x 3
- เสาสัญญาณ 5dBi x 4
- CPU Broadcom ความเร็ว 900MHz กับแรม 64MB
- รองรับการทำงานผ่านแอพฯ ทั้ง Android และ iOS
- SSID Broadcast, MU-MIMO, Beamforming และ Signal Power Adjustment
- Smart WiFi Schedule, Smart Power Saving และ Smart LED on/off
- Router, AP, Universal Repeater และ WISP
แกะกล่อง
กล่องมาในธีมสีดำให้อารมณ์เหมือนอุปกรณ์เกมมิ่งเช่นเคย ส่วนภายในกล่องก็มีอุปกรณ์แถมให้แบบพอดีอย่างเคย อาทิ ตัวเครื่อง Tenda AC6 x 1, สาย LAN x 1, ชุดไฟเลี้ยง x 1 และชุดคู่มือ
วัสดุและดีไซน์
ดีไซน์ทรง Nighthawk หรือเครื่องบินทิ้งระเบิด F-117A สุดเท่ (ตามภาพเปิดเป๊ะ ๆ) ส่วนวัสดุก็ใช้พลาสติกผิวด้านสีดำล้วน
จุดที่สะดุดตาสุดของตัว Tenda AC6 ก็เสาสัญญาณแบบ 5dBi ที่ยาวเป็นพิเศษนี้เอง สามารถปรับองศาได้หลายทิศทาง ส่วนจะช่วยให้กระจายสัญญาณ W-Fi ได้ขนาดไหนนั้น เดี๋ยวมาดูกัน
หน้าตัวเครื่องก็มีไฟ LED แบบสถานะต่าง ๆ อย่าง Sys (System), 2.4G, 5G, WAN และ 123 (หมายเลขบอกสถานะ 100Mbps LAN x 3 ที่เชื่อมต่ออยู่) กับ WPS
รูระบายความร้อนด้านข้าง
และใต้ล่างเหมือนกับรุ่น AC10U เป๊ะ ๆ
สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อด้านหลัง ก็มีพอร์ต 10/100Mbps WAN x 1 กับ 10/100Mbps LAN x 3 และช่องเสียบไฟเลี้่ยงกับปุ่ม WPS และปุ่ม Reset
โลโก้ Tenda งาม ๆ ตรงขอบด้านหน้าตัวเครื่อง
การใช้งาน
จุดเด่นที่ไม่เคยเปลี่ยนของ Router จากแบรนด์ Tenda คือ ติดตั้งใช้งานครั้งง่ายและเร็ว รุ่นนี้ก็เหมือนกัน เพียงเสียบปลั๊กไฟ สาย LAN เข้ากับตัวเครื่องและ Modem ประจำบ้าน จากนั้นก็เปิดแอพฯ Tanda บนสมาร์ทโฟน พร้อมตั้งรหัสเข้าใช้ Wi-Fi ของตัวเครื่องใหม่ ก็พร้อมใช้งานแล้ว
ตั้งค่าการใช้งานครั้งแรกผ่านแอพฯ ก็เสร็จภายในไม่กี่หน้า
ในหน้า Dashboard หรือหน้าแรกของแอพฯ Tenda ยังคงเรียบง่าย ใช้งานไม่ยากเหมือน Router หลาย ๆ ตัวจาก Tenda ที่เคยรีวิวไป โดยมีแบ่งหน้าจัดการหลัก ๆ อย่าง Devices สลับการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Tenda ในหน้าเดียว, Storage จัดการอุปกรณ์เก็บภายนอก ที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์โดยตรง (ทว่า รุ่นนี้ไม่มีช่อง USB ก็อดใช้งานส่วนนี้ไปนะฮะ..) และ Tools ที่อุดมไปด้วยหน้าตั้งค่าและ Smart ฟีเจอร์ของ Tenda AC6 นี้เอง
สำหรับส่วนนี้ บอกเลยว่าไม่ต่างจากตัว Tenda AC10U ที่รีวิวไปก่อนหน้า คือรุ่น AC6 ที่รีวิวนี้ มีทุกอย่างเหมือนกันหมดเลย ทั้งการกำหนดรูปแบบการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ 3 แบบใหญ่ ๆ อาทิ Web, Video และ Gaming กับส่วน “Smart apps” เหล่าฟีเจอร์อัจฉริยะ ที่ช่วยตรวจสอบสถานะและปรับแต่งการทำงานของตัวเครื่องโดยอัตโนมัติ กับมี Transmit Power ช่วยปรับความแรงของสัญญาณ Wi-Fi ที่กำลังกระจายออกจากตัวเครื่อง (ไม่ให้สัญญา Wi-Fi ไปทำร้ายคนที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นเอง) และ Remote Wakeup สั่งเปิดปิดตัวเราเตอร์บนแอพฯ Tenda WiFi ได้จากระยะไกล
ประสิทธิภาพ
ในรุ่น AC10U ได้ทดสอบความสามารถด้านทะลุทะลวงของสัญญาณ Wi-Fi ไปแล้ว รอบนี้ก็มาทดสอบประสิทธิภาพสัญญาณ Wi-Fi ในระยะใกล้/ไกลแบบ Basic กันบ้าง โดยรอบแรกก็เทสคุณภาพสัญญาณและความแรงของอินเทอร์เน็ตจากระยะใกล้กันก่อน โดยเทียบกับเราเตอร์ Wi-Fi ที่ในที่เดียวกันดังนี้
ทดสอบประสิทธิภาพ Wi-Fi ของ Tenda AC6 ในห้องทำงาน (ตามแผนผังข้างต้น) หรืออยู่ใกล้ ๆ กับตัวเราเตอร์ ผลคือ สัญญาณ Wi-Fi จากคลื่น 2.4 GHz ของ AC6 ตาม สัญญาณ Wi-Fi จาก Modem ประจำบ้านติด ๆ ส่วน Wi-Fi จากคลื่น 5 GHz ได้สูงกว่าตัว Router Wi-Fi อีกรุ่นที่ตั้งอยู่ใกล้กัน ด้านความเร็วเน็ต (วัดจากคลื่น 2.4 GHz) ที่ได้คือ 93.4 Mbps ถือว่าใกล้เคียงกับโปร 100/30 ที่สมัครไว้
สำหรับ 2.4 GHz อาจไม่ว้าวมากนัก แต่หลังลองเดินที่มาห้องนอนซึ่งอยุ่ถัดจากตัวเราเตอร์ไป 2 ห้อง จากนั้นลองใช้ทั้งคลื่น 2.4 GHz กับ 5 GHz วัดความแรงและความเร็วเน็ตเทียบกัน ผลคือ ด้านความแรงของสัญญาณยังคงแรงอยู่ โดยแซงหน้าเราเตอร์ Wi-Fi ตัวอื่น ๆ ไปเรียบร้อย และสำหรับคลื่น 5 GHz นั้น ก็ทำความเร็วเน็ตได้น่าประทับใจกว่า 2.4 GHz มากทีเดียว เห็นได้ชัดว่าถ้าอยู่หากห่างจากตัวเราเตอร์มาก ๆ ให้ฝากความหวังไว้ที่คลื่น 5 GHz จะดีที่สุด
สรุป
ในรีวิวนี้ผมอาจจะเขียนเปรียบเทียบกับรุ่นที่เคยรีวิวไปอย่าง AC10U ค่อนข้างเยอะ คือต้องบอกเลยว่า ทั้งรุ่นนั้นกับตัว AC6 ที่รีวิวนี้มันเหมือนกันมาก ๆ มีจุดต่างแค่นิดหน่อยเท่านั้น ส่วนจุดเด่นคือเหมือนกันเลย รุ่นนี้มี MU-MIMO, Beamforming กับความสามารถในการกระจายสัญญาณ Wi-Fi ที่แรงไม่แพ้กันเลย ซึ่งรุ่น AC10U ว่ามีราคาที่คุ้มค่ามากแล้ว รุ่นนี้ยิ่งคุ้มค่าเข้าไปอีก ด้วยการตัดช่อง USB 2.0 ที่หลายคนอาจไม่ได้ใช้ไป แต่ยังได้ประสิทธิภาพที่คุ้มเกินราคา
อย่างไรก็ตาม ผมเพิ่งมาสังเกตว่าตัว AC6 หรือรุ่น AC10U ก็ด้วย มีช่อง WAN แบบ 10/100 เท่านั้น ยังไม่ใช่ 10/100/1000 แบบที่เห็นในเราเตอร์ Wi-Fi หลาย ๆ รุ่นในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะตัว Tenda AC6 สนนราคาหนึ่งพันบาทต้น ๆ เท่านั้น คือตามราคาเลย แต่อย่าลืมว่าตัวเครื่องมี MU-MIMO, Beamforming Signal Power Adjustment ที่ช่วยเพิ่มความแรงในการรับส่งสัญญาณ และ เสา 5dBi ให้ 4 เสา ซึ่งกระจาย Wi-Fi ได้แรงจริง ทั้งหมดก็คุ้มค่ามาก ๆ แล้วครับ
