OS X 10.10 “Yosemite” ได้เปิดให้ดาวน์โหลดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รีวิวนี้จะพาทุกท่านมาพบกับการใช้งาน OS X รุ่นใหม่นี้ ว่าฟีเจอร์แต่ละอย่างที่ Apple โม้มาในงาน จะใช้งานได้จริงและราบรื่นสักกี่อย่าง พร้อมทั้งสิ่งที่ Apple เปลี่ยนแปลงใน OS X Yosemite และไม่ได้บอกไว้อย่างเป็นทางการ แต่มีประโยชน์และเราควรรู้ว่ามีอะไรบ้าง
ชื่อของ Yosemite (อ่านว่า โย-ซิ-มิ-ตี้) มาจากอุทยานแห่งชาติ Yosemite ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยภาพพื้นหลังที่ถูกตั้งเป็นค่าเริ่มต้นของ OS X Yosemite คือภาพหินที่ชื่อว่า El Capitan ในอุทยานแห่งชาติ Yosemite
New Design
OS X Yosemite ดีไซน์ใหม่หมดจดจริงๆ เป็นแนว flat ลดความยุ่งยากและลวดลาย โดยดีไซน์แบบนี้ Apple เริ่มใช้ในบางส่วนของ OS X Mavericks แล้ว
ถ้าพูดถึง Dock หลายคนที่ใช้ MAC อยู่นั้นคงรู้จักดี ที่อยู่เคียงข้าง Apple มานาน การปรับเปลี่ยน Dock บน OS X Yosemite ใหม่ เป็นแนวสองมิติและใช้เอฟเฟค Gaussian Blur ซึ่งตรงนี้แล้วแต่ใครจะชอบ จากการทดลองใช้มาสักพักผมไม่เคยมีปัญหากับดีไซน์นี้นะ ดูๆ แล้วก็เหมือน Dock แบบดั้งเดิมที่ใช้กันมาตั้งแต่ Mac OS X รุ่นแรก ๆ
Icon
ไอคอนต่างๆ ใน Yosemite ออกมาในแนวเดียวกับ iOS ที่เป็นสีสันสดใส ดูเรียบง่าย ลดมิติลง บางตัวผมคิดว่าสวยกว่าแบบเก่า แต่บางตัวก็ดูแบบเก่าสวยกว่า
ปุ่ม full-screen ที่เปลี่ยนไปจากเดิม
ปุ่มถูกเปลี่ยนเป็นสีเรียบๆ โดยปุ่มสีเขียวจะใช้เป็นปุ่ม full-screen แทนปุ่มเดิมที่อยู่มุมบนขวา แต่ถ้าแอพใดไม่รองรับ full-screen หรือยังไม่ได้อัพเดตให้รองรับ Yosemite ปุ่มสีเขียวก็ยังเป็น + เหมือนเดิม แอพที่รองรับการใช้ปุ่มสีเขียวเป็น full-screen ถ้าจะใช้ฟังก์ชันของปุ่ม + เดิมให้ดับเบิ้ลคลิกตรงส่วนบนของหน้าต่างแทน
เอฟเฟคที่ Apple เลือกมาใช้ใน OS X Yosemite คือ Gaussian Blur เหมือน iOS 7 เป็นการเบลอฉากหลังอย่างสวยงาม โดย Apple ใช้เอฟเฟคนี้ทั้งเมนู, Dock, Toolbar ข้อเสียคือกินพลังงานประมวลผลอยู่บ้าง สำหรับคนไม่ชอบ Apple ก็มีตัวเลือกให้ปิดเอเฟคนี้ใน Accessibility ด้วย
Spotlight
Spotlight ถูกปรับปรุงครั้งใหญ่ใน Yosemite โดย Apple ได้ย้าย Spotlight มาอยู่กลางจอ ขยายตัวอักษรให้ใหญ่กว่าเดิมมาก ทำให้มองได้สบายตา ฟีเจอร์ของ Spotlight ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ใน Yosemite ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการค้นข้อมูลออนไลน์ เช่น แปลงค่าเงิน, ดูรอบฉายหนัง, ค้นข้อมูลใน Wikipedia, ค้นหาแอพใน App Store
Notification Center
ในส่วน Notification Center ได้เพิ่ม Today เข้ามาเหมือน iOS 8 และมี Widget ซึ่งเราสามารถเพิ่ม-ลดได้ตามความต้องการ ในตอนนี้จะยังมีเฉพาะ Widget ของ Apple แต่ในอนาคตจะมี Widget จากแอพอื่นๆ เพิ่มตามมาแน่นอน
Toolbar ของ Safari บน Yosemite ดูสะอาดสะอ้านสุดๆ ทำให้มีพื้นที่สำหรับหน้าเว็บมากขึ้น สำหรับผู้ใช้ที่ยังติด Bookmark Bar สามารถนำกลับมาได้โดยกด Command + Shift + B หรือกด View -> Show Favorites Bar ครับ
Smart Search Bar
รูปแบบใหม่ มาพร้อมกับความสามารถที่ฉลาดขึ้น เช่น หาข้อมูลใน Wikipedia , Google เป็นต้น
Shared Links ใน Safari บน Yosemite
สามารถเพิ่ม Feed ข่าวเข้าไปได้ ตรงนี้ถือว่าเยี่ยมเลย เพราะไม่ต้องคอยหาโปรแกรมเพื่ออ่านฟีดข่าว เนื่องจาก Safari ได้ถอดการแสดงฟีดข่าว RSS ไปได้สักพักหนึ่งแล้ว
Markup เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากเมื่อเราต้องการจัดการกับรูปในแอพ Mail แบบเร่งด่วน เช่น เซ็นชื่อ, เน้นเฉพาะส่วน, เติมแต่งข้อความ ทั้งหมดนี้เราสามารถทำได้ในแอพ Mail และส่งออกอีเมลได้ทันที ไม่ต้องเปิด Preview
เสียงปุ่มเพิ่ม ลด เสียงหายไป
Sukhumvit Set Font
ใครที่ใช้ OS X มานานมักจะคุ้นเคยกับเสียงแป๊ะๆๆๆๆๆ เวลาเพิ่มเสียงหรือลดเสียง ซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์หนึ่ง แต่ OS X Yosemite ปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น หากใครไม่สนใจอะไรก็อาจข้ามจุดนี้ไปได้ แต่ถ้าใครรู้สึกขาดๆ หายๆ สามารถเปิดได้ที่ System Preferences -> Sounds -> Play feedback when volume is changed
ข่าวดีสำหรับภาษาไทยคือ รอบนี้ Apple ใส่ฟ้อนต์ Sukhumvit Set มาให้ด้วย ซึ่งเป็นฟ้อนต์ที่ทุกคนก็น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะเคยเริ่มใช้ใน iOS 7 แต่ก็ยกเลิกไปใน iOS 7.1 แม้รอบนี้ Apple ไม่ได้เปิดใช้ฟ้อนต์ Sukhumvit เป็นค่าเริ่มต้น แต่ก็เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้อยากใช้ฟ้อนต์นี้
เงื่อนไขการใช้งานฟ้อนต์ Sukhumvit Set คือ Apple ซื้อให้เราๆ ท่านๆ ใช้ทำงานอะไรก็ได้ เช่น พิมพ์งาน, โปสเตอร์, ตัวอักษรในไฟล์ภาพ ฯลฯ โดยผลงานต้องถูกสร้างบน OS X Yosemite เท่านั้น หรือถ้าไม่ได้ใช้ OS X Yosemite แต่คุณซื้อฟ้อนต์มาถูกลิขสิทธิ์ก็ใช้งานได้เช่นกัน แต่ฟ้อนต์ต้องไม่ถูกคัดลอกออกไป (เช่น ใส่ในไฟล์ PDF, ใช้กับข้อความที่เป็นตัวอักษรบน Server ที่ต้องแคชไฟล์ฟ้อนต์ไว้, คัดลอกไปใส่เครื่องอื่น) หากบริษัทคัดสรรดีมาก เจ้าของลิขสิทธิ์ตรวจพบการใช้ฟ้อนต์ผิดเงื่อนไขสามารถฟ้องร้องได้ จาก siam Pod
การเปิด Dark Mode ที่มีมาใน Yosemite
Apple จัดให้คนชอบธีมดำด้วย Dark Mode ที่ดำทั้ง Menu Bar, Dock, Spotlight (แต่หน้าต่างยังสีเดิม) ซึ่งข้อนี้ดูเป็นทางเลือกมากกว่า สำหรับคนที่ไม่ชอบก็จัดธีมสีขาวเหมือนเดิมต่อไป
วิธีเปิด Dark Mode ให้ไปที่ System Preferences -> General -> Use dark menu bar and Dock.
บทสรุป
OS X Yosemite เป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในรูปลักษณ์ หรือการใช้งาน โดยส่วนตัวผมเห็นว่าเกลามาดีกว่า iOS พอสมควร ใช้ไปไม่นานก็ชินมี Feature ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาเพียบ แต่โดยส่วนตัวของผมคิดว่าการอัพเดทน่าจะดีที่สุด ถ้าท่านไม่ติดปัญหาไรนะครับ ลองเล่นของใหม่ ๆ ดูบ้าง
ขอบคุณการรีวิวจากคุณ NaRT COOLMAN