หายหน้าหายตาไปพักนึงกับการรีวิวสมาร์ทโฟน วันนี้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับ รีวิว Huawei Mate 9 Pro ซึ่งถือเป็นตัวท็อปที่มาในรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจาก Huawei Mate 9 แสดงถึงความสวยงามพร้อมประสิทธิภาพที่ไม่ด้อยลงไปแต่อย่างใด จะมีอะไรน่าสนใจไปติดตามรีวิวกันครับ
Huawei Mate 9 Pro สเปค มีดังนี้
– ขนาดตัวเครื่องโดยรวม 152 x 75 x 7.5 mm น้ำหนัก 169 กรัม
– รองรับการใช้งานได้ 2 ซิม ประเภท NANO SIM
– หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดแสดงผล Quad-HD (1440 x 2560 พิกเซล 534ppi) กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass
– ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ EMUI 5.0
– ชิปประมวลผล Kirin 960 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.4GHz
– หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G71 MP8
– แรม 6GB หน่วยความจำภายใน 128GB ไม่รองรับ microSD Card
– กล้องหลังเลนส์คู่ Leica ความละเอียด 20MP + 12MP, ค่ารูรับแสง f/2.2, ระบบกันสั่น OIS, 2x Zoom, ระบบโฟกัส PDAF และแฟลช Dual LED รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/1.9 รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p
– พอร์จเชื่อมต่อ USB Type-C
– รองรับสแกนลายนิ้วมือ
– แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Super Charge
การออกแบบ
จากภาพที่เห็นคงไม่ต้องบอกอะไรกันให้มากความ เพราะด้านหน้าค่อนข้างโดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลที่มีด้านข้างโค้งลงมาเล็กน้อย แถมยังเป็นหน้าจอ Super AMOLED ที่สู้ต่อสภาพแสงสว่างมากๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากหน้าจอของ Mate 9 Pro ที่เป็นกระจกพร้อมติดฟิลม์มาให้แล้ว ด้านหน้ายังมีปุ่มกดหรือที่เรียกกันติดปากว่าปุ่ม home เพิ่มเข้ามาด้วย อาจดูแปลกตาไปเล็กน้อยสำหรับหลายๆ คนที่ใช้สมาร์ทโฟน Huawei แต่ปุ่ม home ยังสามารถใช้ทดแทนบางปุ่มได้ด้วย (เดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ) เมื่อพลิกมาดูด้านหลังจะเป็นอลูมิเนียมที่ขึ้นรูปแบบชิ้นเดียว (Unibody) แบบขัดมันแฝงด้วยลายเส้น มีขอบด้านข้างโค้งลงเช่นกัน ซึ่งภาพรวมของงานออกแบบนับว่ามีความสวยงามชวนให้สัมผัสจริงๆ แต่อาจมีจุดที่แนะนำอยู่บางประการ เนื่องจากฝาหลังมีลักษณะมันวาวจึงเสี่ยงต่อการลื่นหลุดมือได้ง่าย ดังนั้นทางป้องกันที่ง่ายที่สุด คือ ใส่เคส ครับ
ตำแหน่งปุ่มต่างๆ สามารถชมได้จากภาพต่อไปนี้ครับ
การทดสอบเมนูต่างๆ
ระบบปฏิบัติการพื้นฐานเป็น Android 7.0 Nougat ครอบด้วยอินเทอร์เฟซ EMUI 5.0 ที่พัฒนาขึ้นโดย Huawei เอง ความสมูท ความลื่นไหลยังคงทำได้ดีเช่นเดียวกับ Mate 9 อินเตอร์เฟซที่ Huawei ใช้ครอบทับจะสังเกตได้ว่าจะส่วนใหญ่จะกำหนดให้แอพพลิเคชั่นทั้งที่มากับเครื่องหรือโหลดมาเพิ่มแสดงอยู่ในหน้าโฮมทั้งหมด เป็นการกำหนดค่าเริ่มต้นมาให้ตั้งแต่แรกเริ่ม แต่หากใครไม่ชอบลักษณะดังกล่าวก็สามารถเข้าไปที่แอพตั้งค่า > สไตล์ของหน้าจอหลัก ก็จะพบว่ามีให้เลือกว่าจะใช้แบบเดิมต่อไปหรือเปลี่ยนมาใช้ App Drawer (หน้ารวมแอพทั้งหมด) แทน
การวาดบนหน้าจอเป็นตัวอักษรเพื่อเรียกใช้แอพเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ Huawei ยังคงไว้ในรุ่นนี้เช่นกัน หากใครที่ชอบฟีเจอร์นี้ก็สามารถเปิดใช้งานกันได้ โดยการวาดรูปตัว C จะเปิดกล้องถ่ายภาพขึ้นมา หรือวาดตัว M เป็นการเปิดเพลงสามารถกำหนดเพิ่มเติมได้ว่าตัวอักษรแต่ละตัวเมื่อวาดบนหน้าจอแล้วจะให้เปิดแอพได้ขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ใช้ท่าทางเพื่อปิดเสียงและรับโทรศัพท์อัตโมมัติเมื่อพลิกหรือยกเครื่องขึ้นมา นับว่าเป็นอีกฟีเจอร์ที่ให้ความรวดเร็วและหลายคนอาจมองข้าม
แรม 6GB ดีอย่างไร ?
นอกจากหน้าตาที่ไม่เหมือนกับ Mate 9 แล้ว ยังให้แรมมาถึง 6GB ให้มาแล้วดีอย่างไรกับคนใช้ ต้องขอบอกอย่างงี้ครับว่าการที่ Mate 9 Pro ให้แรมมาค่อนข้างเยอะ ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับกับความละเอียดหน้าจอแสดงผลที่สูงถึงระดับ Quad HD พร้อมรองรับการเปิดปิดแอพที่รวดเร็วขึ้น สามารถใช้งานต่างๆ ได้อย่างเสถียร แม้ในขณะนั้นมีแอพที่เปิดค้างไว้จำนวนมาก และที่สำคัญยังสนับสนุนการเล่นเกมที่มีกราฟิกสวยๆ ได้อย่างลื่นไหลครับ
การใช้งานด้านมัลติมีเดีย
เชื่อว่าผู้อ่านจำนวนมากนิยมใช้สมาร์ทโฟนเพื่อการดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง ซึ่งใน Mate 9 Pro สเปคที่ให้มาจัดว่าแรงไม่น้อย ทำให้การใช้งานด้านความบันเทิงเหล่านี้แทบไม่สร้างความกังวลแต่อย่างใด ขณะเดียวกันยังมีระบบเสียง DTS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การรับฟังเมื่อต่อหูฟัง ให้รายละเอียดเสียงได้ครบถ้วน
ทดสอบดูหนังด้วยไฟล์ .MP4
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้น คือ “ปุ่ม home” เป็นทั้งสแกนลายนิ้วมือ สามารถทัชบนปุ่ม home ไปด้านซ้ายและด้านขวา เพื่อย้อนกลับ (แทนปุ่ม back) และปิดแอพที่เปิดค้างไว้ (แทนปุ่ม Recent app) แต่ฟีเจอร์ดังกล่าวสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยหรือไม่ชอบก็สามารถเข้าไปตั้งค่าใหม่เพื่อเรียกใช้ปุ่ม back กับปุ่ม Recent app แบบเดิมได้ แต่ทว่าปุ่มทั้งสองจะแสดงเป็นจุดเล็กๆ บอกเราเท่านั้น
ขนาบข้างปุ่ม home จะแสดงเป็นจุดเล็กๆ ใช้เป็นปุ่ม back กับปุ่ม Recent app
นอกจากปุ่ม home เป็นสแกนลายนิ้วมือได้แล้ว ยังเป็นปุ่มที่ใช้แทนปุ่ม back ปุ่ม Recent app หรือหากไม่ถนัดสามารถตั้งค่าใหม่เพื่อกลับมาใช้รูปแบบเดิมได้ด้วย
กล้องถ่ายภาพ
ในส่วนนีคงไม่ต้องสาธยายไม่มากความ เพราะสเปคกล้องทั้งหน้าและหลังเหมือนกับใน Mate 9 เป๊ะ มีโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอสำหรับกล้องหลัง หรือ “Wide Aperture” มีโหมดถ่ายภาพพิเศษอย่างเช่น ถ่ายภาพรถยนต์ขณะวิ่ง หรือแม้กระทั่งโหมดถ่ายภาพดวงดาว แนะนำเลยสำหรับคนชอบเที่ยวต้องลองโหมดนี้ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายหน้าชัดเบลอด้วยโหมด “Wide Aperture”
สรุปภาพรวมรีวิว Huawei Mate 9 Pro
ข้อดีที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ ดีไซน์ที่ให้ความสวยงามและพรีเมียมมากขึ้น หน้าจอที่คมชัดขึ้น ปุ่ม home ที่เพิ่มลูกเล่นในการใช้งาน แรมที่อัดมาถึง 6GB เพื่อการใช้งานต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล การถ่ายภาพนิ่งและบันทึกวีดีโอเป็นจุดเด่นที่เชื่อว่าทำให้หลายคนอย่างลองหาซื้อมาใช้ รวมถึงเทคโนโลยี Super Charge ที่ให้ความรวดเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ แต่ข้อด้อยก็มีให้เห็นกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ เช่น ใส่ microSD Card ไม่ได้ เป็นต้น ซึ่งจากราคาที่เปิดตัว 27,900 บาท อาจดูสูงไปนิด แต่ตามโอเปอร์เรเตอร์จะมีทำโปรโมชันรวมกับแพ็คเกจด้วยยังไงใครสนใจก็ลองเช็คดูได้ครับ