เคยว้าวตอน HP เปิดตัว ZBook X2 ไปแล้ว มาคราวนี้ต้องว้างดัง ๆ อีกรอบ เมื่อ HP เปิดตัว HP ZBook X360 G5 โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ในร่างจอสัมผัสพร้อมรองรับปากกา 4,096 ระดับ หมุนจอได้ 360 องศา และสเปกระดับ Workstation ที่โหดกว่าเดิม แต่ยังบางเบาพกพาง่ายเหมือนเคย จะเรียกว่าเป็นนิยามใหม่ของโน๊ตบุ๊คสเปก Workstation ไปแล้ว จากหนาเตอะกลายเป็นบางเบา เอาตรง ๆ ผมรู้สึกว่าตัวนี้น่าสนใจกว่ารุ่น ZBook X2 พอควร คือแม้จะแยกจอใช้งานเป็นแท็บเล็ตไม่ได้ แต่ด้วยสเปกที่ทิ้งห่างไปไกลอย่าง Nvidia Quadro P1000 4GB GDDR5 ในรุ่นเริ่มต้น และอัดซีพียูได้สูงสุดถึง Intel Xeon 6-core ก็น่าจะมากพอที่ทำให้เหล่ากราฟฟิกดีไซน์ หรือนักตัดต่อทั้งหลาย ต้องหมุนคอมามองเจ้า ZBook X360 G5 จนคอเคล็ดไม่รู้ตัวกันเลย
สเปก HP ZBook Studio X360 G5
Display : HP DreamColor 15.6″ diagonal 4K IPS LED-backlit anti-glare touch screen with Corning Gorilla Glass 4, 600 cd/m², 100% Adobe RGB
CPU : Intel Core i5 8400H
VGA : Nvidia Quadro P1000 4GB GDDR5
RAM : 16 GB DDR4-2666 SDRAM (2 x 8 GB)
SSD : 1TB PCIe NVMe
Wireless : Intel Dual Band Wireless-AC 9560 802.11ac (2×2) Wi-Fi, Bluetooth 5.0
Port : USB 3.1 Gen 2 Type-C x 2 (Thunderbolt 3), USB 3.0 x 2 , HDMI 2.0 x 1, SD Card x 1, 3.5mm Audio Jack และ micro SIM
Size : 14.17 x 10 x 0.35 to 0.74 in (W x D x H)
Weight : 2.26 kg
OS : Windows 10 Pro
วัสดุและดีไซน์
โดยอานิสงส์จาก Enterprise-Grade (หรือเกรดสินค้าระดับใช้งานในองค์กร ซึ่งซีรีย์ Zbook ของ HP เป็นระดับนี้หมดเลยนะเออ) ทำให้ตัวเครื่องมีวัสดุและงานประกอบในระดับพรีเมี่ยมสุด ๆ โดยตัวเครื่องเป็น Aluminium Alloy สีเงินเกือบทั้งตัว ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทานมาก ส่วนน้ำหนักก็อยู่ประมาณ 2.26 กก. เท่านั้น ถือว่าเบาเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค Workstation ทั่ว ๆ ไป สำหรับดีไซน์ ตรงนี้ผมรู้สึกว่าเหมือนทาง HP เอาตัว HP Z2 Mini มาเป็นแบบ ทำให้ HP ZBook X360 G5 ยังไม่เป็นสี่เหลี่ยมซะทีเดียว แต่มีมุมเพิ่มมาอีก 2 เหลี่ยม กลายเป็น 6 เหลี่ยมแทน
ส่วนความบางของตัวเครื่องก็ประมาณหนังสือเรียน 2 เล่ม
พอร์ตการเชื่อมต่อถือว่าครบครันตามสไตล์โน๊ตบุ๊ค Workstation โดยมี USB 3.0 x 2 กับช่องใส่หูฟัง 3.5mm และมี Thunderbolt 3 ให้ 2 ช่องกับมี HDMI อีกหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าตัว ZBook X360 G5 ตัวนี้ สามารถต่อจอ Monitor ได้เพิ่มอีก 3 จอเลย
จุดสำคัญอีกอย่างคือ ตัวเครื่องมีพัดลมระบายความร้อน 2 ตัวอยู่ข้างตัวเครื่องทั้ง 2 ฝั่ง เข้าใจว่าแยกระบายทั้งซีพียูกับการ์ดจอนั้นเอง หากแต่ตำแหน่งพัดลมอยู่ผิดตำแหน่งไปบ้าง สำหรับใครที่ใช้เมาส์ก็ต้องเลื่อนข้อมือลงมาหน่อย เพื่อไม่ให้ลมร้อนจากพัดลมเป่าใส่…
ที่เหลือก็มีช่องใส่ SD Card กับ micro SIM
ใต้เครื่องมีแผงระบายความร้อนใหญ่ ๆ อีกช่อง และลำโพงเล็ก ๆ อีกตัวใต้เครื่อง
การใช้งาน
ปกติเรามักจะเห็นโน้ตบุ๊ค Workstation ในร่างปกติที่เปิดปิดฝาเครื่องได้เกิน 90 องศานิด ๆ (Laptop Mode) หากแต่ทาง HP ได้ฉีกโน้ตบุ๊คแนวนี้ไปเรียบร้อย อย่าง ZBook X2 ก็มาในร่าง 2-in-1 แยกจอกับคียบอร์ดได้เลย ส่วนรุ่น ZBook X360 นี้ก็มาในร่างพับหน้าได้จอ 360 องศาตามชื่อ สามารถพลิกการใช้งานมันได้ 4 รูปแบบอย่าง Laptop Mode, Stand Mode, Tent Mode และ Tablet Mode
สำหรับหน้าจอของ ZBook X360 ก็มาพร้อมขอบบางเพียง 20.4 มม. ขนาดจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ 4K และมีค่า Adobe RGB ถึง 100% เปิดหน้าจอครั้งแรก ก็รู้ถึงแสงสีสวยงามและความสมจริงแบบไม่ต้องรู้สเปกก่อนเลย
ทั้งนี้ตัวจอยังเป็น Anti-Glare หรือจอด้าน ซึ่งจอแบบนี้เองเหมาะสำหรับการขีดเขียนด้วยปากกา เพราะช่วยให้ความรู้สึกเหมือนขีดเขียนบนกระดาษจริง ๆ อย่างที่เกริ่นในตอนแรก ตัว ZBook X360 รองรับการใช้งานปากกา HP Pen (ที่ใส่ในเป็น Wacom EMR) ในแรงกด 4,096 ระดับด้วย เมื่อรวมกับรูปแบบ 360 องศาของตัวเครื่อง ทำให้เราสามารถเอาปากกามาขีดเขียนวาดรูป สร้างงาน 3D หรือตัดต่อวิดีโอได้หลายรูปแบบตามที่ถนัด น่าเสียดายที่ผมไม่ได้ตัวปากกามาเทสด้วย ทำให้อดทดสอบส่วนนี้ไป T_T
ข้อต่อหรือบานพับอลูมิเนียมอย่างหนาของ ZBook X360
แป้นพิมพ์มาพร้อมไฟ LED black light สีน้ำเงิน ให้สัมผัสการพิมพ์ได้ดีพอควร เนื่องจากตัวเครื่องขนาด 15.6 นิ้ว ทำให้ปุ่มกดไม่ติดกันเกินไป ส่วนบริเวญ Touch Pad ที่มี NFC ฝั่งในนี้ จากที่ลองใช้งานดูแล้ว ต้องบอกตรง ๆ ว่า ยังให้สัมผัสการเลื่อนเมาส์ได้ไม่ดีนัก สุดท้ายกลับไปใช้เมาส์แยกแทนดีกว่า
แผงลำโพง Bang & Olufsen แบบใหม่ของโน๊ตบุ๊ค HP รุ่นปี 2018 ขึ้นไป ก็มาอยู่ในตัว ZBook X360 นี้เช่นกัน และตามสไตล์โน๊ตบุ๊คระดับองค์กร บนแป้นพิมพ์ก็มีปุ่มโทรเข้ากับโทรออกด้วย เอาไว้สำหรับ Video Call ประชุมหรือคุยงานโดยเฉพาะ หากใส่ซิมเข้าไป ก็ทำให้สามารถ Video Call หรือคุยผ่าน Line ได้ทุกที่
โลโก้แบบใหม่ของ HP ตรงขอบล่างของหน้าจอ
และตรงฝาหลัง
ประสิทธิภาพ
เราได้เห็มความพรีเมี่ยมจากภายนอกของตัวเครื่องไปแล้ว ต่อไปลงมาดูในส่วนประสิทธิภาพจากสเปกภายในกันบ้าง โดยตัว ZBook X360 G5 ที่ได้รีวิวนี้ เป็นรุ่น Intel Core i5 8400H + Nvidia Quadro P1000 4GB GDDR5 + 16 GB DDR4 และ SSD NVMe ขนาด 1TB (มันแพงก็ตรงเนี่ย)
รายละเอียดซีพียู Intel Core i5 8400H กับแรมขนาด 16GB
และการ์ดจอ Nvidia Quadro P1000
ลองเทส Cinebench R15 สำหรับฝั่งการ์ดจอ Nvidia Quadro P1000 ได้คะแนนทิ้งห่าง Quadro K4000M แบบไม่เห็นฝุ่น โดยได้คะแนนส่วน OpenGL อยู่ที่ 133.33 fps กันเลย ส่วนซีพียูก็ตามคาด ได้คะแนนไป 867 cb สูงกว่า i7-4770K ซึ่งถ้าเป็นรุ่นที่ใช้ Intel Xeon คงได้คะแนนโหดกว่านี้แน่
สำหรับความเร็วอ่านเขียนของ SSD NVMe ขนาด 1TB (จาก Samsung) ก็ได้ไป 1735 MB/s (อ่าน) กับ 2246 MB/s (เขียน)
และ SPECviewperf โปรแกรมเทสประสิทธิภาพด้าน Workstation จากหลายโปรแกรม โดยตัว Nvidia Quadro P1000 ก็ได้คะแนนตามนี้เลย จากที่ลองเทสถือว่าลื่นไหลมาก ๆ
SPECviewperf 13 บน ZBook X360 G5
อยากรู้ว่า ZBook X360 G5 เล่นเกมได้ไหม ลองเทสกับ Final Fantasy XV Benchmark ดูเลย
ผลที่ได้คือ ‘พอเล่นได้’ คือถ้าปรับ Low ก็เล่นได้ลื่น ๆ เลย แลกกับภาพที่ Drop ไปบ้าง แต่ถ้าปรับสุดหมดก็ได้ “Insufficient” หรือยังไม่พอไปดังภาพครับ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร
Final Fantasy XV Benchmark บน ZBook X360
ระหว่างรัน Final Fantasy XV Benchmark อยู่นั้น ก็ลองเปิด HWmonitor เพื่อดูความร้อนเครื่อง สำหรับซีพียูก็มีความร้อนสูงสุดที่ 85 องศา ส่วนการ์ดจอก็ 55 องศาเท่านั้น ถือตัว ZBook X360 ระบายความร้อนได้ดีใช้ได้เลย แม้ตัวเครื่องจะบางเบาก็ตาม
สรุป
ปัญหาก่อน ๆ ของโน๊ตบุ๊ค Workstation คือขนาดตัวเครื่องที่หนาและหนัก ทำให้ยากต่อการพกพา ต่อมาเริ่มมีโน๊ตบุ๊ค Workstation ที่มีขนาดบางเบาออกมาแล้ว แต่ก็แลกกับสเปกที่ลดหลั่นลงไปตามขนาด แต่สำหรับ HP ZBook X360 G5 กลับมาพร้อมการ์ดจอ Nvidia Quadro P1000 แบบเต็มใบ และซีพียูที่ใส่ได้สูงสุดถึงระดับ Intel Xeon ในร่างบางเบาแบบนี้ได้ ซึ่งผลเทสถือว่าน่าประทับใจมาก
เมื่อรวมกับร่าง 2-in-1 แบบ 360 องศาของตัวเครื่อง ทำให้สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่ Laptop Mode หรือโน๊ตบุ๊คแบบทั่ว ๆ ไปเทานั้น ทั้งนี้ตัวเครื่องยังรองรับปากกา 4,096 ระดับได้อีกด้วย ช่วยให้งาน Workstation สนุกและสะดวกขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม HP ZBook X360 G5 ถือเป็นโน๊ตบุ๊คระดับองค์กร ที่มีวัสดุและงานประกอบระดับพรีเมี่ยม และบวกกับสเปกระดับนี้ ทำให้ HP ZBook X360 G5 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,999 เหรียญฯ หรือประมาณ 65,600 บาท (อนึ่งตัวที่รีวิวนี้มี SSD ขนาด 1TB ราคาจึงไม่ใช้ 6 หมื่นบาทแน่นอน) กันเลย ใครสนใจลองไปดูรายละเอียดไดที่ store.hp.com ครับ
